15 กุมภาพันธ์ 2550 07:59 น.
ketana
เสียงหัวใจร่ำร้อง..........ท่วงทำนองที่หวั่นไหว
ถึงรักที่จากไกล...........ยังซึ้งใจใครบางคน
วันสะอื้นคืนผวา...........บางเวลาก็สับสน
อาทรจึงร้อนรน............คอยกังวลถึงคนงาม
ป่านฉะนี้อยู่ที่ไหน.........ด้วยห่วงใยจึงไต่ถาม
ข่าวคราวคอยติดตาม....กลัวคนทรามจะย่ำยี
สบายดีหรือเปล่า..........หรือหมองเศร้าสิ้นศักดิ์ศรี
ทุกข์ตรมถมชีวี.............เหงาฤดีจะมีใคร
แบ่งปันในยามท้อ.........น้ำตาคลอคอยซับให้
คอยปลอบประโลมใจ...คอยห่วงใยมิไกลตา
ฉันยังอยู่ตรงนี้..............ห้วงฤดียังโหยหา
รอรักคืนกลับมา...........แม้รู้ว่าไม่มีทาง
8 กุมภาพันธ์ 2550 17:30 น.
ketana
กุหลาบแดงแห้งเหี่ยว...........กลีบโรย
หลุดร่วงยามลมโชย..............โบกพลิ้ว
ปลิดปลิวกับใจโหย................หารัก
ความรักฝากรอยริ้ว...............เจ็บช้ำขื่นขม
เคยภิรมย์แนบข้าง................เคียงนวล
กลิ่นกุหลาบยังหอมหวน.........ยั่วเย้า
ยังฟุ้งกลิ่นอบอวล...................หอมกรุ่น
อบอุ่นไอคละเคล้า..................เปี่ยมล้นปรารถนา
วาเลนไทน์ใกล้จัก.................มาถึง
เห็นกุหลาบแดงคำนึง............เมื่อครั้ง
ความหวานชื่นตราตรึง.............คราก่อน
ไม่อาจย้อนฉุดรั้ง...................รักร้าวยากสมาน
กุหลาบแดงดอกนั้น...............แสนหวาน
ปั้นจากก้อนน้ำตาล................มอบให้
แทนรักจากดวงมาน..............วันก่อน
ทิ้งเถิดอย่าเก็บไว้..................อย่าให้เขาเห็น
2 กุมภาพันธ์ 2550 23:27 น.
ketana
หนาวลมเหนือพัดบอกระลอกสุดท้าย
จนร่างกายเจ็บร้าวต้องหนาวสั่น
เหมือนกระซิบเล่าเรื่องราวคราวเหมันต์
เคยผ่านผันล่วงผ่านกาลเวลา
หนาวลมเหนือเมื่อลมหนาวผ่านคราวนี้
หนาวเหมือนมีใครทวงความห่วงหา
เพราะคิดถึงความหลังครั้งผ่านมา
มันเหว่ว้าหมองหม่นทุรนทุราย
เหมือนหัวใจเปื่อยยุ่ยเป็นผุยผง
ความทะนงเย่อหยิ่งยิ่งหดหาย
เพราะว่าความศรัทธามากลับกลาย
สิ่งสุดท้ายจดจำคือกล้ำกลืน
สิ้นลมเหนือตรอมตรมยามลมหวน
ต้องเพ้อครวญทุกข์ทนจนสุดฝืน
สุดทางรักความหวังก็พังครืน
ไห้สะอื้นเดียวดายกลางสายลม