27 มกราคม 2549 11:49 น.
ketana
มีเจ้าหงส์ตัวหนึ่งซึ่งคิดว่า
คือพญาหงส์ดำชี้นำฝูง
ผู้สวามิภักดิ์คอยชักจูง
ให้บินสูงบินต่ำตามอุรา
อยู่ในฝูงเห็นสะดุดเป็นจุดเด่น
ยามบินเล่นร่อนลมชมเวหา
ดูโดดเด่นผิดแผกแปลกสายตา
จนคิดว่าตัวเก่งมิเกรงใคร
คอยตะล่อมคอยกล่อมให้ยอมรับ
และคอยขับพวกแปรพักตร์คอยผลักไส
แม้ผู้ที่คิดต่างมิวางใจ
เที่ยวขับไล่ให้กลับเป็นศรัตรู
ฝูงทั้งฝูงยอมฝืนกล้ำกลืนทน
อยากจะมีสักหนพ้นอดสู
เกียรติยศบังเกิดได้เชิดชู
เลิกหดหู่กับหงส์ย้อมมาปลอมปน
มีนายพรานมือฉมังเป็นนักล่า
เที่ยวตามหาหงส์ใหญ่ ณ ไพรสณฑ์
รอดักซุ่มอำพรางระวังตน
คอยเฝ้ายลฝูงหงส์หลงทางมา
เห็นรอยด่างจุดเด่นเป็นหงส์ดำ
มือจับกำไกปืนยื่นเข้าหา
นิ้วลั่นไกโป้งตายวายชีวา
สิ่นสง่าสิ้นทะนงเจ้าหงส์ดำ
24 มกราคม 2549 18:43 น.
ketana
หัวใจ....ได้เรียนรู้ความจริงสิ่งใดบ้าง
ในระหว่างคืนวันอันสับสน
ว่าจะมีบ้างไหมใครสักคน
จะยอมทนเพื่อใครหรือไม่มี
อารมณ์....เจ้าผันแปรแค่ไหนในรู้สึก
จากส่วนลึกวุ่นวายใจดวงนี้
ในบางครั้งโศกเศร้าเหงาฤดี
และบางทีสราญรมย์สมอุรา
ร่าง....เจ้าหยาบกร้านตรากตรำทำงานหนัก
ไม่เคยพักทุ่มแรงแสวงหา
ปัจจัยสี่พอเพียงเลี้ยงชีวา
มิไขว่คว้าสิ่งเลิศล้ำเกินจำเป็น
วิญญาณ....รอเวลาโผผินบินจากร่าง
ไปสู่ทางแห่งสุขหรือทุกข์เข็ญ
จะรุ่มร้อนตาเหลือกหรือเยือกเย็น
บุญกรรมเป็นผู้ตัดสินเมื่อสิ้นลม
หัวใจได้รับรู้...............อารมณ์
สัมผัสความขื่นขม........หม่นเศร้า
สัมผัสสิ่งชื่นชม............เริงรื่น
ทุกข์สุขล้วนคลุกเคล้า..เพราะเจ้าหัวใจ
มีเพียงแค่ร่างให้.........วิญญาณ
เป็นแค่เพียงสถาน......พักฟื้น
บุญกรรมจะบันดาล......กำหนด
โสมนัสโศกสะอื้น.........สุดแท้แต่ที่ทำ
9 มกราคม 2549 00:20 น.
ketana
เธอไม่มีความหมายใดอีกแล้ว
มิเหลือแววสายสวาทเคยพาดถึง
มิเหลือเยื่อเหลือใยให้คำนึง
เหลือเพียงหนึ่งความจำคือช้ำใจ
เธอไม่มีความหมายใดมากกว่า
ผงธุลีพัดพามาจากไหน
ระคายเคืองเจ็บจนชลนัยน์
หากมิได้เขี่ยออกนอกดวงตา
เธอไม่มีความหมายใดกับฉัน
ไม่มีวันคร่ำครวญหวนคืนหา
เหลือฤดีร้าวรันทดหมดศรัทธา
เพราะคำว่ารักนั้นมันหลอกลวง