30 มีนาคม 2548 19:37 น.

เงื่อน

ketana

เราต่างมี เส้นชีวิต ที่พลิกผัน 
จึงพบกัน ต่างควั่นไขว้ ไม่เฉลียว
สองผูกปม ผสมรัก ถักเป็นเกลียว
เป็นสิ่งเหนี่ยว มิให้เลือน ด้วยเงื่อนตาย

ว่าชาตินี้ หทัยมัด ไม่พลัดพราก
ถึงต้องจาก วายวาง ยังมั่นหมาย
แล้ววันหนึ่ง เงื่อนนั้น ก็พลันคลาย
ระส่ำระสาย ปมที่รัด อึดอัดใจ

เส้นชีวิต สัมพันธ์ อันแน่นเหนียว
สอดเป็นเกลียว ผสาน มันหวั่นไหว
พยายาม หาจุดร่วม รวมฤทัย
แม้ตึงไป ก่อนผ่อน หย่อนลงมา

ไม่รู้ว่า เอาอะไร ชายคนนี้
หมดชีวี หัวใจ ยังใฝ่หา
ฉันเป็นฉัน เธอมอง ด้วยสายตา
ไม่ดีกว่า อย่างนั้นหรือ ที่ฉันเป็น

ยิ่งผูกเงื่อน ซับซ้อน คล้ายซ่อนเงื่อน
ก็ดูเหมือน จะทำ ให้ฉันเห็น
ยิ่งสั้นลง ความฝัน มันลำเค็ญ
ช่างยากเย็น พิสวาท มันขาดลง
				
22 มีนาคม 2548 16:03 น.

สิ้น

ketana


ด้วยมิใช่ ผู้วิเศษ มีเดชฤทธิ์
จึงนิมิต สำแดง อภินิหาร 
ให้ผู้คนทั้งหลาย ได้กราบกราน
เป็นตำนาน สร้างสม บ่มศรัทธา

ยามมีสุข ยิ้มเยาะ หัวเราะร่วน
ยามจิตป่วน ร้องร่ำ ช้ำนักหนา
เป็นมนุษย์ ตาดำ ธรรมดา
ไร้คาถา วิเศษ เวทย์ใดใด

จะร่ายมนต์ ดลใจ ให้ได้ปลื้ม 
จนหลงลืม ตัวตน สิ้นสงสัย
ว่าชีวิต จริงเห็น เป็นเช่นไร
กระจ่างใส รู้ทั่ว ว่าชั่วดี

ใช่แก้วเก็จ เพชรมณี ที่สูงค่า
สูงสง่า ใฝ่ถวิล แค่หินสี
ตีราคา สวยงาม ว่าน้ำดี
เศษธุลี พสุธา ค่าของมัน

หากมองด้วย สายตา อย่างมนุษย์
คงยากหยุด ความคิด ผิดมหันต์
ให้คุณค่า เป็นเอก เอนกอนันต์
แบ่งชนชั้น ต่างสายตา  เวลามอง
				
21 มีนาคม 2548 09:33 น.

เริงไฟ

ketana


     
สิ่งใดในพิภพล้วน           อนัตตา
มีรักในชีวา                     เมื่อนั้น
ความเศร้าโศกโศกา         มาเยี่ยม  มาเยือน            
รู้รสยากอดกลั้น              ไขว่าคว้า มาครอง

ชลนาร่วงไหล                 นองเนตร
แม้จิตซึ้งถึงเหตุ              ที่เศร้า
ถาถมทุกข์พูนเทวษ         ครวญคร่ำ
เหมือนอัคคีสุมรุมเร้า       รุ่มร้อน แผดเผา

เวลาเศร้าร่ำร้อง                วิงวอน
ใครจะมาช่วยถอน           พิษให้
หฤทัยแทบขาดรอน         วายวอด
จงรับสิ่งทำไว้                   ยากแท้  หนีมัน

ดูเหมือนว่าโหดร้าย           อย่าหวั่น
จงสุขุมอย่าหุนหัน             นั่นแล้ว
ใคร่ครวญครุ่นคิดกัน         ถ้วนถี่
สติบังเกิดเพริดแพร้ว          หมดสิ้น โศกา

อย่าระริกระรี้                       เป็นแมงเม่า
เห็นพระเพลิงระเริงเข้า          ออดอ้อน
วายวอดถูกแผดเผา              หมองหม่น
มิจับไฟให้รุ่มร้อน                คลาดแคล้ว  ช้ำตรม				
19 มีนาคม 2548 01:39 น.

อย่าหยุดยั้ง

ketana


บอกตัวเอง เรื่อยไป อย่าได้ท้อ
คงยังพอ มีฝัน ในวันหน้า
ได้มีวัน พลิกฟื้น คืนชะตา
เพียงหวังว่า จงก้าวผ่าน วันช้ำตรม

เก็บความสุข ร่วงหล่น บนวิถี
ใส่ชีวี ที่อาภัพ คอยทับถม
มาเจือจาง ลางเลือน เจื่อนระทม
ให้ขื่นขม ละลาย เหือดหายไป

เหมือนเด็กน้อย ร้องระงม หิวนมแม่
ร้องงองแง หามารดา ว่าอยู่ไหน 
สะอึกสะอื้น น่าอนาถ แทบขาดใจ
ว่าเมื่อใด อิงอกอุ่น คุณมารดร

ความรู้สึก ลำเค็ญ เป็นเช่นนี้
โศกทวี เฝ้าถาม ตามหลอกหลอน
แค่เหม่อลอย คอยเวลา เอื้ออาทร
จิตวิงวอน สอนสั่ง กำลังใจ

เฝ้าปลอบปลุก ให้ลุกขึ้น ยืนอีกหน
คงผ่านพ้น เคยแพ้ สักแค่ไหน
ตั้งสติ ยึดมั่น ฝันให้ไกล
แล้วตามไป อย่าได้หยุด จนสุดทาง
				
18 มีนาคม 2548 21:02 น.

นิทรา

ketana


คืนนี้หากเธอเศร้า
ลืมเรื่องเก่าคอยเฝ้าผลาญ
ดวงใจให้แหลกราน
แค่เพียงผ่านมานานวัน

หลับตาสิที่รัก
นอนหนุนพักกับตักฉัน
ทุกข์โศกเอนกอนันต์
ขอวางมันสักนาที

มิให้ใครทำร้าย
พักใจกายไว้ตรงนี้
ปกป้องเป็นอย่างดี
ไม่ให้มีเหล่าผองภัย

เพื่อว่าวันพรุ่งนี้
พบชีวีที่สดใส
เมื่อแสงทองผ่องอำไพ
อรุณใหม่ได้ชื่นบาน				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟketana
Lovings  ketana เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟketana
Lovings  ketana เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟketana
Lovings  ketana เลิฟ 0 คน
  ketana
ไม่มีข้อความส่งถึงketana