31 กรกฎาคม 2547 22:38 น.
ketana
ต้องจากจร ถิ่นฐาน ไกลบ้านเกิด
ความหวังเลิศ หาได้ ในเมืองใหญ่
จำขายนา ขายดิน ถิ่นอาศัย
ศิวิไลซ์ ฝันไว้ ให้ตัวเอง
ออกเดินย่ำ หางาน มันหลายที่
แรงยังมี ลากสังขาร รอวันเก่า
ได้งานที่ คนจน ทนเช่นเรา
ลูกจ้างเขา หนักก็เอา เราก็สู้
ใจเริ่มคิด ตั้งตัว ในบ้านใหม่
ไม่เป็นไร ถึงผุพัง อย่างรังหนู
เห็นตึกใหญ่ แหงนคอ ขึ้นมองดู
เราจะสู้ สร้างตัว ไม่กลัวงาน
ละเลงหวัง ละลายฝัน ในเมืองกรุง
ต่างหมายมุ่ง รุ่งเรือง ประเทืองฝัน
ต่างดั้นด้น ค้นหา ไขว่คว้ามัน
ถึงวันนั้น ไม่มี ที่แทรกกาย
คงกลับไป ตายรัง ยังบ้านเกิด
ถิ่นกำเนิด เคยละทิ้ง สิ่งมุ่งหมาย
มาสร้างหวัง อักน้อยนิด คิดขึ้นใหม่
ไม่ต้องใหญ่ เลิศหรู เหมือนอยู่เมือง
เก็บกระถิน ริมรั้ว ไม่กลัวอด
ถึงรันทด จะจำไว้ ไม่ฝันเฟื่อง
คงพบทาง หมายมุ่ง ให้รุ่งเรือง
เพื่อลืมเรื่อง ประมาท เคยพลาดมา
จะอาสา พัฒนา ให้บ้านฉัน
จะสร้างสรร ดินนี้ ให้มีค่า
จะกอบโกย กล้ากำ นำศรัทธา
จะไม่ลา ล้างไป ไกลบ้านเลย
25 กรกฎาคม 2547 23:25 น.
ketana
อย่ารู้จักฉันไปมากกว่านี้
เพราะบางทีชีวิตติดความช้ำ
อาจจะเห็นความเจ็บเก็บใจจำ
จึงเที่ยวพร่ำพรรณนาว่าอยากตาย
รู้จักฉันที่เห็นเป็นเช่นนี้
คงจะดีกว่ารู้ซึ้งถึงข้างใน
ที่ไปมองอาจอดรนทนไม่ได้
เห็นหัวใจยับเยินเกินเยียวยา
มีความเศร้ารอบกายในอากาศ
หยิบมาวาดเมื่อไหร่ในอุรา
ความเหงาเศร้าดังเงาที่ตามมา
อยู่ที่ว่า คว้ามัน เมื่อไหร่ดี
18 กรกฎาคม 2547 02:03 น.
ketana
ดังไฟเผา พาใจ ให้ร้อนรุ่ม
ปัญหาสุม เติมเชื้อ เพื่อเผาผลาญ
ทั้งเรื่องเก่า เรื่องใหม่ คงแหลกราญ
ไฟกองนั้น ดับไม่ได้ ใจเจ้ากรรม
ยิ่งสาดน้ำ ไม่ดับ กลับลุกโชน
น้ำมันโดน เปลวไฟ ไปโหมซ้ำ
น้ำหรือนั่น หรือน้ำมัน ให้กระหน่ำ
อัคคีทำ ฤดีร้อน ให้อ่อนใจ
ร้อนรุ่มเร้า เผากบาล ซ่านซึมเศร้า
ทุกข์เป็นเงา ตามติด ชิดหทัย
คอยมาย้ำ คอยมาทำ ให้มอดไหม้
แล้วหัวใจ จะทน หรือจนใจ
อยากดับไฟ ข้างใน ให้หายร้อน
ที่ใจก่อน ควรทำ จงจำไว้
ดับตรงไหน ที่ใคร ก็ไม่ได้
กลางหัวใจ ก่อกำเนิด เกิดระทม
ตั้งสติ ดับไฟ ในใจนี้
ด้วยฤดี ที่สว่างทางสุขสม
ดับด้วยคิด ดับด้วยใจ ไฟอารมณ์
ค่อยค่อยข่ม บ่มฟื้น คืนความฝัน
ไปตรงนั้น ตรงที่มัน เกิดปัญหา
ในอุรา ของเรา เพียงเท่านั้น
หน้าไหนไหน จะดับได้ ไม่มีวัน
น้ำตาฉัน จะดับไฟ ในใจเอง
น้ำที่ไหน คงดับมันไม่ได้
น้ำในตาเท่านั้น
18 กรกฎาคม 2547 02:01 น.
ketana
ดังไฟเผา พาใจ ให้ร้อนรุ่ม
ปัญหาสุม เติมเชื้อ เพื่อเผาผลาญ
ทั้งเรื่องเก่า เรื่องใหม่ คงแหลกราญ
ไฟกองนั้น ดับไม่ได้ ใจเจ้ากรรม
ยิ่งสาดน้ำ ไม่ดับ กลับลุกโชน
น้ำมันโดน เปลวไฟ ไปโหมซ้ำ
น้ำหรือนั่น หรือน้ำมัน ให้กระหน่ำ
อัคคีทำ ฤดีร้อน ให้อ่อนใจ
ร้อนรุ่มเร้า เผากบาล ซ่านซึมเศร้า
ทุกข์เป็นเงา ตามติด ชิดหทัย
คอยมาย้ำ คอยมาทำ ให้มอดไหม้
แล้วหัวใจ จะทน หรือจนใจ
อยากดับไฟ ข้างใน ให้หายร้อน
ที่ใจก่อน ควรทำ จงจำไว้
ดับตรงไหน ที่ใคร ก็ไม่ได้
กลางหัวใจ ก่อกำเนิด เกิดระทม
ตั้งสติ ดับไฟ ในใจนี้
ด้วยฤดี ที่สว่างทางสุขสม
ดับด้วยคิด ดับด้วยใจ ไฟอารมณ์
ค่อยค่อยข่ม บ่มฟื้น คืนความฝัน
ไปตรงนั้น ตรงที่มัน เกิดปัญหา
ในอุรา ของเรา เพียงเท่านั้น
หน้าไหนไหน จะดับได้ ไม่มีวัน
น้ำตาฉัน จะดับไฟ ในใจเอง
น้ำที่ไหน คงดับมันไม่ได้
น้ำในตาเท่านั้น
15 กรกฎาคม 2547 12:44 น.
ketana
เก็บความกล้า ศรัทธาค้ำ นำชีวิต
จะลิขิต ใจตัว ไม่กลัวใคร
ขอเดินหน้า ฝ่าไป แม้นมีภัย
หรือสิ่งใด คิดร้าย ทำลายเรา
จะขอเอา กายา ที่กล้าแกร่ง
ถาโถมแรง แข็งใจ ให้ทนสู้
เพื่อยืนยง คงไว้ ให้โลกรู้
จะหยัดอยู่ ให้ดู กูก็คน
เจ็บเกินทน ทานไหว ใจรับได้
ยังไม่ตาย กายอยู่ สู้ไม่ถอย
พรสวรรค์ หรือโชคดี มีลาภลอย
ไม่รอคอย มาโปรด โชคชะตา
มีสองขา สองแขน ใจแน่นหนัก
ไม่ขอฝาก ชีวิต ลิขิตฟ้า
ตามคิดใน นิมิต ที่เขียนมา
ว่าตัวข้า ขีดทางไป ให้ตัวเอง
ไม่หวาดเกรง ความเหนื่อยยาก ลำบากแสน
จะแร้นแค้น อับจน จะทนไหว
ภัยจะมา ฉุดลาก กระชากไป
มิหวั่นไหว กายยัง กำลังมี
ทำสิ่งดี คิดสิ่งดี มีความสุข
สนุกไป ในชีวิต คิดแค่นี้
จะสร้างความ สำราญ ให้ชีวี
แม้กายนี้ ย่อยยับ หรืออับจน
ไม่ว่าจะเกิด อะไร
ข่างมัน ชีวิตมัน ของฉัน