25 มิถุนายน 2547 03:18 น.
ketana
อย่าไปจากฉัน
.......อย่าผ่านเลย...อย่าไป...อย่างใครเขา
......ไม่อยากเศร้า...ตรอมตรม...จมน้ำตา
.......ขื่นขมใจ...เหมือนครั้งนั้น...ที่ผ่านมา
.......อกอุรา...ระบม...ระทมใจ
.......ใช้เวลา...นานเนิ่น...เกินรักษา
.......กว่าจะมา...หวังเพิ่ม...เติมรักนี้
.......แล้วจะมา...ผ่านไป...หรือคนดี
.......ตัดไมตรี...ขาดเยื่อ...ไม่เหลือใย
.......โปรดอย่าไป...ฉันยอมกาย..ถวายจิต
.......มอบชีวิต...กองไว้...ในแทบเท้า
.......ด้วยสัญญา...มีแต่...เพียงแค่เรา
.......จะไม่เอา...ใจใคร...ให้เธอกลัว
.......เธอยืนยัน...คำนั้น...ฉันต้องไป
.......ไปทางใหม่..ทางที่...ไม่มีฉัน
.......ทนไม่ได้...อยู่ตรงนั้...ไม่มีวัน
.......ที่ตัวฉัน...จะสานฝัน...นั้นให้เธอ
.......จะยื้อหยุด...ฉุดไว้...คงไร้หวัง
.......หมดกำลัง...สิ้นแรง...จะแข็งขืน
.......ความเจ็บร้าว...ครั้งก่อน...คงย้อนคืน
.......คงแค่ยืน...มองเธอห่าง...ร้างไกลตา
.......น้ำตาหก...ตกผลึก...ลึกใจใน
.......ไม่ร่ำไห้...ปลอบใจ...ให้เข้มแข็ง
.......หลอกตัวเอง...ทำหัวใจ...ให้มีแรง
........ให้มันแกร่ง...ยืนสู้...อยู่ต่อไป
ยิ่งยื้อ ยิ่งฉุด ยิ่งเหนี่ยวรั้ง ยิ่งห่างหาย
......ทำไปเพื่อสิ่งใด
......ทำไปเพื่ออะไร
เหมือนติดลวดหนาม
....ยิ่งดิ้น ยิ่งเจ็บ...
เธอต้องไป...ไม่ใช่...จากไป
ไม่เหลือไว้..แม้แต่ความทรงจำ
24 มิถุนายน 2547 15:19 น.
ketana
วันที่เริ่มสร้างตอก่อปัญหา
พัวพันมาถึงวันนี้ที่ยังอยู่
รอเวลาทนทำจำเฝ้าดู
ทั้งรู้อยู่มองมันผ่านมานาน
คงวันนี้ถอนจากรากปัญหา
สิ่งทิ่มตาเขี่ยออกนอกชีวิต
ไม่ปล่อยให้ไหลตามใครลิขิต
คงต้องคิดถอนหนามที่ตามตำ
หนามคอยย้ำทำไจให้ได้เจ็บ
ต้องตามเก็บรอยช้ำจำไม่หาย
รอยที่เกิดคงติดต่อรอวันตาย
ยังไม่สายหากรีบถอนก่อนสิ้นใจ
22 มิถุนายน 2547 17:25 น.
ketana
........กอบผืนดินกำไว้ให้คงมั่น
อักษรขานจรรโลงจดรดหัว
ค่ำคืนฝันสัญญาฝ่าความกลัว
........แม้มืดมัวหนทางเดินยังอีกไกล
........ขอกอบไว้ด้วยมือขวาศรัทธามั่น
จะยืนยันสู้ต่อไม่ท้อถอย
ด้วยมือซ้ายพยุงไว้ไม่รอคอย
........จะเอื้อมสอยโอกาสไม่พลาดเลย
........กอบผืนดินเทิดไว้ให้เหนือเกล้า
จะขอเอาศรัทธาและหน้าที่
จะขอใช้พลังเท่าที่มี
........แทนคุณที่แผ่นดินนี้มีให้เรา
15 มิถุนายน 2547 22:38 น.
ketana
...ศิลปิน...ข้างตลาด
......เดินสีซอ..เลี้ยงหล่อ..ต่อชีวิต
ตามความคิด..ที่จิต..ลิขิตไว้
จูงลูกน้อย..บรรเลง..เพลงแห่งใจ
เตร็ดเตร่ไป..เร่ร่อน..วอนผู้คน
มีดนตรี...มาแจก..แลกเศษเงิน
ของคนเดิน..ผ่านมา..เรียกหาหวัง
ไล่นิ้วเรียง..สำเนียง..ล้อขอเศษตังค์
เพื่อประทัง..ความหิว..ที่กิ่วใน
เดินเล่นซอ..ต่อเพลง..บรรเลงให้
ลูกน้อยได้..จำจด..บทครวญหา
เผื่อจะได้..มีใคร..นั้นเมตตา
หาเงินมา..เพื่อยาไส้..ให้อิ่มพุง
ตีเข้าลูก..ตีกระหน่ำ..รำมะนา
มองข้างหน้า..เป็นดวงตา..ให้กับพ่อ
เล่นเข้าไป..พ่อจะได้..เร่งสีซอ
เราแค่รอ..ง้อเขา..เฝ้าบรรเลง
เสียงอึกทึก..เงียบลง..คงดึกแล้ว
โถเจ้าแก้ว..ตาพ่อ..คงรอหิว
เจ้าดวงใจ..คงรอ..จนท้องกิ่ว
เดินตัวปลิว..ลิ่วไป..ไม่ดูทาง
มีของกิน..ดาษดื่น..ช่างตื่นตา
ให้เจ้าพา..พ่อไป..ซื้ออาหาร
วันนี้เรา..เจอคนดี..ที่เจือจาน
ท่านให้ทาน..หนุนจิต..ชีวิตเรา
......พ่อตาบอดสีซอ
ลูกจูงพ่อเดินนำทาง
ลูกเดินไปตีรำมะนาไป
กระป๋องขอเศษตังค์ห้อยคอ
ใครๆก็เรียกพ่อลูกคู่นี้ว่าขอทาน
.....แต่ผมเรียกเขาว่า...ศิลปิน
13 มิถุนายน 2547 13:59 น.
ketana
ร้องเองเพลงชีวิต
คือดนตรีบรรเลงเพลงชีวิต
ที่ลิขิตเขียนถ้อยร้อยทำนอง
เป็นเพลงก้องที่เราเฝ้าร่ำร้อง
เป็นเสียงของดนตรีที่หัวใจ
บรรเลงไปตามใจที่ใฝ่ฝัน
สู้เพื่อวันฟ้าใหม่ได้สมหวัง
ร้อยทำนองรวมถ้อยร้อยพลัง
สร้างความหวังสร้างเพลงบรรเลงไป
สะบัดไม้สีสายไปตามเรื่อง
ไม่โกรธเคืองใครเขาให้เศร้าหมอง
จะเจ็บร้าวเศร้าใจน้ำตานอง
ฉันจะร้องเพลงนั้นด้วยฉันเอง