14 พฤศจิกายน 2548 16:01 น.
ketana
อาจมีเพียงหนึ่งครั้งทั้งชีวิต
ที่เธอคิดพอใจในตัวฉัน
ตอนที่บอกเธอว่าลาจากกัน
เพราะเธอนั้นมิเคยเลยใส่ใจ
เกิดรอยแผลตรงกลางระหว่างอก
น่าวิตกกลัวถูกซ้ำช้ำมิไหว
เพราะเธอทำหมางเมินเดินจากไป
มิซ้ำรอยแผลให้ใจอีกที
แต่ใจเอ๋ยมิเคยเลยสักครั้ง
ใจจะหวังรักคลายหรือหน่ายหนี
อยากให้เธอมาทำช้ำฤดี
สะกิดที่แผลใจให้นานนาน
ฉันยังคงเฝ้าดูอยู่ตรงนี้
จักไม่มีเพลงรักคอยขับขาน
ให้ผู้ใดได้ยินจนสิ้นกาล
ทรมานหมองหม่นทุรนทุราย
ความรักฉันมันมากไปหรือเปล่า
ที่ฉันเศร้าฝันแหลกแตกสลาย
ขอเป็นเพียงผู้โดดเดี่ยวอย่างเดียวดาย
จนวาระสุดท้ายของหายใจ
4 พฤศจิกายน 2548 00:01 น.
ketana
หยิบจดหมายฉบับเก่าเอามาอ่าน
ทรมานหัวใจเมื่อได้เห็น
ด้วยลายมือเพิ่งเรียนเขียนไม่เป็น
ลวดลายเส้นบรรยายพอได้ความ
จำได้ไหมมะม่วงที่เราปลูก
มันออกลูกมากมายหลายคนถาม
ใครพรวนดินใส่ปุ๋ยคอกจนงอกงาม
พยายามตอบมิหวั่นกลั้นน้ำตา
พ่อของผมเอากิ่งพันธ์นั้นมาฝาก
มีไม่มากพ่อดั้นด้นเที่ยวค้นหา
ไว้ให้ผมแทนคำมั่นคำสัญญา
จะกลับมาเมื่ออกผลรอคนกิน
ก็ผ่านมาเกือบปีไม่มีพ่อ
ผมเฝ้ารอด้วยหวังยังถวิล
หมั่นรดน้ำคืนชุ่มชื่นให้ผืนดิน
จนลูกมันร่วงสิ้นกินไม่ทัน
ผมนั่งมองรถสองแถวเข้าหมู่บ้าน
พอมันผ่านมองจนลับไม่กลับหัน
ผมร้องไห้ฟูมฟายตั้งหลายวัน
พวกเพื่อนมันก็ล้อพ่อไม่มา
นี่ก็ใกล้วันพ่อผมรออยู่
ก็ไม่รู้แต่ก็ยังหวังไว้ว่า
ในปีนี้วันพ่อขอเวลา
เพียงกลับมาเก็บที่ปลูกให้ลูกกิน
1 พฤศจิกายน 2548 10:01 น.
ketana
เหรียญหนึ่งนั้นมีมุมมองทั้งสองด้าน
อยู่ที่การพินิจคิดด้านไหน
ด้านหนึ่งดูงดงามตามที่ใจ
จึงสร้างใส่สิ่งสวยด้วยอัตตา
จึงตัดสินสิ่งใดอย่างใจคิด
เห็นวิจิตด้านหนึ่งจึงไขว่หา
ด้วยลืมใช้สติพิจารณา
ลืมไปว่าที่ดูอยู่ด้านเดียว
อีกด้านหนึ่งไม่พลิกดูให้รู้แจ้ง
ทำเหมือนแกล้งเชือนแชมิแลเหลียว
กลัวผิดหวังในดวงแดแน่นักเทียว
กลัวไม่เกี่ยวกับสิ่งนั้นฝันให้เป็น
แล้ววันหนึ่งเหรียญนั้นมันกลับด้าน
ทรมานหัวใจเมื่อได้เห็น
มองเห็นสิ่งลำบากยากลำเค็ญ
ที่ซ่อนเร้นปิดไว้ไม่อยากมอง
ทั้งชีวิตเศร้าสลดแสนหดหู่
เมื่อได้รู้ด้วยสองตาพาหม่นหมอง
สิ่งสวยงามที่รู้สึกนึกลำพอง
กลายเป็นของไม่คาดคิดในจิตใจ
เพราะเพียงมองด้านหนึ่งจึงไม่ทราบ
มองเพียงภาพด้านดีมิสงสัย
พอมารู้มาเห็นความเป็นไป
จึงมิอาจปลงได้ใจตัวเอง
26 ตุลาคม 2548 17:17 น.
ketana
แค่เคยเจ็บจึงซ่อนความอ่อนไหว
เก็บเอาไว้ชอกช้ำจำเสมอ
บางเวลายังคงหลงละเมอ
ยังพร่ำเพ้อความหลังที่ฝังใจ
คล้ายดั่งรอยคมมีดกรีดในอก
น้ำตาตกเจ็บจนทนมิไหว
พอเลือดหยุดเกิดรอยทางกลางหทัย
ประทับไว้เป็นตราบาปตราบสิ้นลม
จึงเริ่มหล่อขึ้นใหม่หัวใจแกร่ง
จนแข็งแรงมิครั่นคร้ามความขื่นขม
ดุจศิลาสิ้นไร้ในอารมณ์
แม้นสุขสมหรือร้าวรานผ่านเข้ามา
เพียงอยู่อย่างคนที่ไม่มีรัก
ขอหยุดพักหยุดไว้มิใฝ่หา
ไม่สะกิดแผลเป็นเช่นทุกครา
เพราะไม่อยากเยียวยารักษาใจ
10 ตุลาคม 2548 22:29 น.
ketana
ใดใดในโลกล้วน................อนัตตา
ย่อมเปลี่ยนตามเวลา...........ยากยั้ง
มีเกิดย่อมวายชีวา..............วันหนึ่ง
กี่ภพชาตินับครั้ง................สุดแท้แต่กรรม
การกระทำกำหนดไว้..........บาปบุญ
คิดสิ่งดีเกื้อหนุน................ส่งให้
พบพานแต่มีคุณ................นำสู่
ทิพย์พิมานนั้นไซร้.............เมื่อสิ้นลมปราณ
หากทำเลวชั่วช้า................สามานย์
หน้าฉากสร้างคำหวาน.......หว่านล้อม
ดีเลิศประเสริฐปาน.............เทพบุตร
ขนดหางไว้พร้อม..............เล่ห์ร้ายลมลวง
ทำปกปิดปกป้อง................พื้นดวง สันดาน
ประดุจมาจากแดนสรวง......สถิตฟ้า
เกิดมาเพื่อหลอกลวง...........มวลมนุษย์
นรกเปิดประตูอ้า................เมื่อสิ้นลมหายใจ
ใดใดในโลกล้วน................อนัตตา
รอผ่านกาลเวลา.................เท่านั้น
เวรกรรมที่ทำมา................ปรากฏ
ดีชั่วที่ปิดกั้น......................เปิดให้พิพากษา