13 พฤศจิกายน 2549 19:23 น.
ketana
- ๑ -
อยู่กับความเงียบเหงา...............มีเพียงเงาเป็นเพื่อน
อดีตคอยย้ำเยือน......................ยากแท้เลือนลืมได้ลง
- ๒ -
นั่งอยู่ริมฝั่งน้ำ..........................ภาพความจำเคยลุ่มหลง
สิ่งใดเล่ามั่นคง.........................จะยืนยงเป็นนิรันดร์
- ๓ -
แมลงปอตัวน้อย.......................เจ้าเหม่อลอยคอยเฝ้าฝัน
ปีกบางจะกางพลัน....................ตะเกียกตะกายบันไดดาว
หวังสู่ความรุ่งเรือง....................ตามฝันเฟื่องในห้วงหาว
ผ่านเมืองที่แวววาว...................ด้วยแสงสีศิวิไลซ์
ปลาบปลื้มลืมประสงค์................จิตผจงจึงเผลอไผล
สูญสลายหายไป........................ที่เคยใฝ่เคยหมายปอง
เวลาได้เลยล่วง........................สิ่งหลอกลวงผลพวงของ
ใจคึกไม่ตรึกตรอง....................จึงหม่นหมองนองน้ำตา
กว่าจะรู้สึกตัว...........................ก็เกลือกลั้วมั่วตัณหา
ยิบเยินเกินเกินยา....................ปีกเจ้าล้าจนโรยแรง
- ๔ -
กางปีกบินอีกครั้ง.....................เพียงนึกหวังด้วยกำแหง
ทุ่มพลังจะสำแดง.....................แล้วร่างนั้นก็ระทม
ร่วงหล่นลงสู่พื้น.......................จิตกล้ำกลืนแสนขื่นขม
เจ็บกายร้าวระบม....................แสนตรอมตรมทรมาน
ปีกบางเพียงปีกเดียว...............หรือจะเกี่ยวเหนี่ยวฝันหวาน
พาร่างสู่ลำธาร.........................เป็นอาหารของฝูงปลา
- ๕ -
ณ ที่ริมฝั่งน้ำ...........................เห็นภาพซ้ำย้ำเตือนว่า
ตะเกียกตะกายหวังได้มา.........เป็นธรรมดาที่จาบัลย์
ยิ่งไขว่ยิ่งไกลห่าง....................ยิ่งเคว้งคว้างเหมือนดังฝัน
สูงสุดสู่สามัญ...........................ใยโศกศัลย์ให้บั่นทอน
- ๖ -
เหลือเพียงแค่น้ำนิ่ง.................อาวรณ์
เหลือแค่จิตร้าวรอน.................อ่อนล้า
เป็นเพียงอุธาหรณ์...................สอนสั่ง
หวังวาดหลงไขว่คว้า.................ที่แท้แค่ฝัน
26 กันยายน 2549 08:38 น.
ketana
ทุกชีวิตทั่วทั้ง...............ธรณี นาเพื่อน
แตกต่างตรงชั่วดี..........เสกสร้าง
บุญกรรมเก่าบารมี........นำสู่
ทุกข์สุขอาจมีบ้าง...........สุดแท้แต่วาสนา
อาจขีดลิขิตให้...............ชีวิต เพื่อนเฮย
จักเลือกถูกหรือผิด.........เลือกได้
ก็แล้วแต่ความคิด..........จิตสำนึก
คึกคะนองหรือใช้............สติชี้นำทาง
บางทีอาจพลาดพลั้ง........เผลอไผล
เพียงแต่ต้องทำใจ..........นอบน้อม
รับสิ่งที่ทำไป..................ทุกกอย่าง
เตรียมจิตไว้ให้พร้อม......เพื่อแก้ปัญหา
ขออย่ายอมพ่ายแพ้.........โชคชะตา
ดุลพินิจพิจารณา.............ถี่ถ้วน
มีสติเกิดปัญญา...............เห็นช่อง
มองอุปสรรคล้วน.............ถ่องแท้เห็นทาง
18 กันยายน 2549 22:45 น.
ketana
ดึกดื่นเดียวดายใต้แสงเดือน
ดวงดาวเคยเกลื่อนก็เลือนหาย
ไร้เพื่อนบนฟ้าดาราราย
ดึกดื่นเดียวดายคืนไร้ดาว
สายลมพัดพรูภูผา
ปวดปร่ากายเจ็บเพราะเหน็บหนาว
น้ำตารินหลั่งบางครั้งคราว
ใจร้าวเศร้าสลดเกินอดทน
กี่ฤดูเนิ่นนานที่ผันเปลี่ยน
หมุนเวียนผ่านปีอีกกี่หน
อยู่กับอ้างว้างทางมืดมน
หมองหม่นทนท้อกับรอคอย
เพราะภาพตรึงจิตจึงคิดถึง
รำพึงเพ้อฝันวันเงียบหงอย
ภาพเธอลางเลือนเหมือนเดือนลอย
ชะเง้อคอยไห้สะอื้นคืนร้าวราน
จวบจนฟากฟ้าอุษาโยค
ใจโศกกายเศร้าถูกเผาผลาญ
ร้อนรุมแทบสิ้นดวงวิญญาณ
ทรมานตะวันลับจะกลับมา
..........ทุกราตรี............
21 สิงหาคม 2549 23:31 น.
ketana
ทั้งสิบคนล้วนผ่าน....................สรรหา
ได้จากศาลฎีกา.......................เลือกเฟ้น
เสนอต่อรัฐสภา.......................สานต่อ
หรือแค่วาระซ่อนเร้น................เลือกไว้ครอบงำ
วุฒิสภาที่แท้............................ก็คือ
สถานที่คนยกมือ......................รับจ้าง
เขาเอาทรัพย์ให้ถือ...................ลืมหมด
อำนาจสะสมสร้าง.....................ปกป้องผลประโยชน์
แกล้งยื้อยุดฉุดไว้......................ความเจริญ
เพียงเพราะอำนาจเงิน...............ถ่วงไว้
สภาทาสเพลิดเพลิน...................สินทรัพย์
ชาติยับพินาศไซร้......................ไม่รู้ไม่เห็น
คณะกรรมการเลือกตั้ง...............ห้าคน
คอยกลั่นกรองเล่ห์กล.................ชั่วช้า
ในห้วงแห่งฉ้อฉล......................ทุจริต
เปรียบดั่งเป็นผู้กล้า....................ต่อสู้อยุติธรรม
อยากวิงวอนสักครั้ง..............วุฒิสภา
จงรีบพิจารณา.....................ถูกต้อง
ขออย่าถ่วงเวลา...................กันอยู่
หรือจักเลือกพวกพ้อง............เหลือบริ้นโกงชาติ
18 สิงหาคม 2549 22:09 น.
ketana
เขาคือผู้เอื้อเฟื้อคอยเกื้อหนุน
ชื่อนายบุญเขาอยู่คู่เสมอ
คอยปกป้องผองภัยมิให้เจอ
หมั่นเสนอให้ประสบพบโชคชัย
คือเพื่อนผู้แสนดีมีเมตตา
คอยสรรหาสิ่งดีที่ฝันใฝ่
นำพาพ้นอุบัติเหตุหรือเภทภัย
จนล่วงวัยพ้นผ่านมานานวัน
ข้าระเริงหลงใหลใช้ชีวิต
เดินทางผิดพลั้งเผลอดั่งเพ้อฝัน
หลงกิเลสชั่วช้าสารพัน
จนขาดสะบั้นเยื่อใยมิตรไมตรี
แล้ววันหนึ่งเรื่องราวต้องร้าวฉาน
ดวงวิญญาณถูกพรากกระชากหนี
ได้พานพบเพื่อนใหม่ในทันที
เขาผู้นี้นั้นหรือชื่อว่ากรรม