24 ตุลาคม 2550 23:53 น.
ketana
ชุดนักเรียนชุดเก่ากระเป๋าขาด
เศษกระดาษยับเยินที่เดินถือ
มีดินสอแท่งใหม่อยู่ในมือ
ปักป้ายชื่อเล็กเล็กเป็นเด็กชาย
ตื่นแต่เช้านั่งสามล้อพ่อไปส่ง
ถึงโรงเรียนรีบลงเพราะกลัวสาย
มองคนอื่นนั่งรถเก๋งแอร์เย็นสบาย
แสนอับอายอดสูพ่อหนูจน
ฉันมองอย่างรันทดแสนหดหู่
ทั้งที่รู้ใช่จะเลือกกระเสือกกระสน
แค่ทุกมื้ออยากมีกินต้องดิ้นรน
ต้องคอยค้นคุ้ยขยะมาประทัง
ขอเจ้าจงมานะและบากบั่น
คงสักวันพรุ่งนี้คงมีหวัง
มุ่งมั่นไปอย่าหยุดสุดกำลัง
เพราะเรายังหายใจคือชัยชนะ
13 กรกฎาคม 2550 00:49 น.
ketana
- หนึ่ง -
๏ ในยามย่ำยลสนธยา...........มองหมู่นกกา
โผผินบินกลับคืนคอน
๏ สิ้นแสงตะวันรอนรอน........นกกาเข้านอน
ฉันจรจากป่ามาเมือง
๏ หมายมุ่งสู่ความรุ่งเรือง........หนีความฝืดเคือง
ฝันเฟื่องในสิ่งศิวิไลซ์
- สอง -
๏ ทุกก้าวที่ก้าวเดินไป............ตามแรงแสงไฟ
ด้วยใจถวิลจินตนา
๏ พบเห็นผู้คนบูชา................ใครมีเงินตรา
ศรัทธามากมายก่ายกอง
๏ มุ่งมั่นด้วยใจใฝ่ปอง............อยากมีเงินทอง
สนองตัณหาแห่งตน
- สาม -
๏ มานะทำงานอดทน...............อยากให้ผู้คน
ยกย่องสรรเสริญเยินยอ
๏ ความฝันหนีไกลไม่รอ...........เท่าใดถึงพอ
เล่ห์เหลี่ยมคดโกงกอบโกย
- สี่ -
๏ จวบจนวันวัยร่วงโรย..........กลางสายลมโชย
โบกโบยพัดสู่ความตาย
๏ สับสนทุรนทุราย....................ก่อนร่างวางวาย
ลุกเริงบนเชิงตะกอน
๏ คิดถึงนกบินคืนคอน.........แสงตะวันรอนรอน
จากนครฟุ้งเฟื่องเมืองแมน
- ห้า -
๏ เดินทางกลับถิ่นดินแดน.........หาสิ่งทดแทน
ความหวังที่ไกลเกินจริง
๏ พบที่พำนักพักพิง......................คงได้แอบอิง
บางสิ่งที่ขาดหายไป
๏ เห็นควันจากกล่องปล่องไฟ........ฤๅ นี่ที่ใด
ร่างไหม้กลางไฟไปแล้ว ๚ะ๛
25 มิถุนายน 2550 01:40 น.
ketana
คงจะเหลือเวลาอีกไม่มาก
ที่เศษซากชีวินจะสิ้นสูญ
มิอาจทนช้ำชอกที่พอกพูน
ทวีคูณถมฤดีทุกวี่วัน
ไม่มีแล้วพรุ่งนี้ให้มีหวัง
หมดกำลังท้อแท้แม้ความฝัน
ไม่เหลือแล้วเยื่อใยมีให้กัน
ขาดสะบั้นหายวับไปกับตา
เหลือชีวิตมืดมนทนเคว้งคว้าง
ไร้หนทางสิ้นแรงแสวงหา
เพราะหัวใจยับเยินเกินเยียวยา
จะรักษาเท่าใดไม่เหมือนเคย
ไม่อาจทนเหินห่างอยู่อย่างนี้
เสี้ยวนาทีก็นานเกินถูกเมินเฉย
อีกเท่าใดร้าวรานจะผ่านเลย
ต้องชดเชยชอกช้ำซ้ำกี่ครา
20 พฤษภาคม 2550 11:56 น.
ketana
ถนนที่ย่างก้าว...................ทางทอดยาวให้ก้าวผ่าน
ได้พบประการณ์.................คือตำนานของชีวา
หากให้ใครลิขิต.................ทางชีวิตตามยถา
จนมดม้วยมรณา................คงเรียกว่าชะตากรรม
วิถีแห่งคนบ้า.....................ไม่ไขว่คว้าดูน่าขำ
รู้เพียงสิ่งที่ทำ.....................ใช้ฝันนำค้ำชีวี
ดูเหมือนไร้จุดหมาย...........อาจดูคล้ายไร้ศักดิ์ศรี
เข็มทิศทางไม่มี..................อนาคตเหมือนมืดมน
แต่ทุกทิศที่ไป....................มิสงสัย ฤ สับสน
ทุกอย่างกระจ่างบน.............จิตตนจิตนาการ
เลือกวางทางชีวิต................โดยลิขิตอย่างกล้าหาญ
เดินไปแม้ซมซาน..............คงไม่ผิดหากขีดเอง
เหนือโชควาสนา.................เหนือชะตาใช่ว่าเก่ง
เมื่อเลือกใยต้องเกรง..........ถ้าจะไปในทุกทาง
15 กุมภาพันธ์ 2550 07:59 น.
ketana
เสียงหัวใจร่ำร้อง..........ท่วงทำนองที่หวั่นไหว
ถึงรักที่จากไกล...........ยังซึ้งใจใครบางคน
วันสะอื้นคืนผวา...........บางเวลาก็สับสน
อาทรจึงร้อนรน............คอยกังวลถึงคนงาม
ป่านฉะนี้อยู่ที่ไหน.........ด้วยห่วงใยจึงไต่ถาม
ข่าวคราวคอยติดตาม....กลัวคนทรามจะย่ำยี
สบายดีหรือเปล่า..........หรือหมองเศร้าสิ้นศักดิ์ศรี
ทุกข์ตรมถมชีวี.............เหงาฤดีจะมีใคร
แบ่งปันในยามท้อ.........น้ำตาคลอคอยซับให้
คอยปลอบประโลมใจ...คอยห่วงใยมิไกลตา
ฉันยังอยู่ตรงนี้..............ห้วงฤดียังโหยหา
รอรักคืนกลับมา...........แม้รู้ว่าไม่มีทาง