22 มิถุนายน 2547 17:25 น.

เอาเทิดไว้..

ketana



........กอบผืนดินกำไว้ให้คงมั่น
อักษรขานจรรโลงจดรดหัว
ค่ำคืนฝันสัญญาฝ่าความกลัว
........แม้มืดมัวหนทางเดินยังอีกไกล

........ขอกอบไว้ด้วยมือขวาศรัทธามั่น
จะยืนยันสู้ต่อไม่ท้อถอย
ด้วยมือซ้ายพยุงไว้ไม่รอคอย
........จะเอื้อมสอยโอกาสไม่พลาดเลย

........กอบผืนดินเทิดไว้ให้เหนือเกล้า
จะขอเอาศรัทธาและหน้าที่
จะขอใช้พลังเท่าที่มี
........แทนคุณที่แผ่นดินนี้มีให้เรา				
15 มิถุนายน 2547 22:38 น.

...ศิลปิน...ข้างตลาด

ketana



  ...ศิลปิน...ข้างตลาด

......เดินสีซอ..เลี้ยงหล่อ..ต่อชีวิต
ตามความคิด..ที่จิต..ลิขิตไว้
จูงลูกน้อย..บรรเลง..เพลงแห่งใจ
เตร็ดเตร่ไป..เร่ร่อน..วอนผู้คน

มีดนตรี...มาแจก..แลกเศษเงิน
ของคนเดิน..ผ่านมา..เรียกหาหวัง
ไล่นิ้วเรียง..สำเนียง..ล้อขอเศษตังค์
เพื่อประทัง..ความหิว..ที่กิ่วใน

เดินเล่นซอ..ต่อเพลง..บรรเลงให้
ลูกน้อยได้..จำจด..บทครวญหา
เผื่อจะได้..มีใคร..นั้นเมตตา
หาเงินมา..เพื่อยาไส้..ให้อิ่มพุง

ตีเข้าลูก..ตีกระหน่ำ..รำมะนา
มองข้างหน้า..เป็นดวงตา..ให้กับพ่อ
เล่นเข้าไป..พ่อจะได้..เร่งสีซอ
เราแค่รอ..ง้อเขา..เฝ้าบรรเลง

เสียงอึกทึก..เงียบลง..คงดึกแล้ว
โถเจ้าแก้ว..ตาพ่อ..คงรอหิว
เจ้าดวงใจ..คงรอ..จนท้องกิ่ว
เดินตัวปลิว..ลิ่วไป..ไม่ดูทาง

มีของกิน..ดาษดื่น..ช่างตื่นตา
ให้เจ้าพา..พ่อไป..ซื้ออาหาร
วันนี้เรา..เจอคนดี..ที่เจือจาน
ท่านให้ทาน..หนุนจิต..ชีวิตเรา


......พ่อตาบอดสีซอ
ลูกจูงพ่อเดินนำทาง
ลูกเดินไปตีรำมะนาไป
กระป๋องขอเศษตังค์ห้อยคอ
ใครๆก็เรียกพ่อลูกคู่นี้ว่าขอทาน
.....แต่ผมเรียกเขาว่า...ศิลปิน				
13 มิถุนายน 2547 13:59 น.

ร้องเอง...เพลงชีวิต

ketana



           ร้องเองเพลงชีวิต

       คือดนตรีบรรเลงเพลงชีวิต

       ที่ลิขิตเขียนถ้อยร้อยทำนอง

       เป็นเพลงก้องที่เราเฝ้าร่ำร้อง

       เป็นเสียงของดนตรีที่หัวใจ


       บรรเลงไปตามใจที่ใฝ่ฝัน

       สู้เพื่อวันฟ้าใหม่ได้สมหวัง

       ร้อยทำนองรวมถ้อยร้อยพลัง

       สร้างความหวังสร้างเพลงบรรเลงไป


       สะบัดไม้สีสายไปตามเรื่อง

       ไม่โกรธเคืองใครเขาให้เศร้าหมอง

       จะเจ็บร้าวเศร้าใจน้ำตานอง

       ฉันจะร้องเพลงนั้นด้วยฉันเอง				
10 มิถุนายน 2547 14:41 น.

นักโฆษณา

ketana



ฤาว่ากลอน ของตัว นั้นเป็นเลิศ
จึงก่อเกิด ความทระนง ในอักษร
เขียนแล้วโยน ไปทั่ว ทุกหน้ากลอน
วอนเถอะวอน ไม่อยากสอน คนเกิดนาน

หากใครเขา ไม่อยากอ่าน เรื่องของเขา
อย่าเที่ยวเอา ไปแปะไว้ น่าสงสาร
คนเขาอาจ จะสมเพช ในเหตุการณ์
เที่ยวระราน น่ารำคาญ ผ่านบทกลอน
 
โฆษณา ว่าตัวฉัน นั้นเก่งกาจ 
ช่างสามารถ ถ่ายทอด ขอดอักษร 
พรรณณา ว่าตัวฉัน คนเขียนกลอน 
มาเว้าวอน ให้คนอ่าน งานตัวเอง 

คนเก่งกาจ เขาไม่อวด ว่าตัวเก่ง
ฤาคิดเอง ว่าตนใหญ่ เลยข่มเหง
อวดตนใหญ่  หน้าเว็บ ให้กลัวเกรง
ดั่งนักเลง ลอบกัด ฟัดไม่เป็น 

อย่าข่มเขา โคขืนให้ กินหญ้า
บังคับหมา ให้นั่งฉี่ ทำให้หรือ
บังคับสัตว์ เดรัจฉาน โคกระบือ
นี่น่ะหรือ คือมนุษย์ ????				
9 มิถุนายน 2547 00:26 น.

ฉันรู้ว่าฉันไร้ค่าเพียงนี้

ketana



            ดูเหมือนว่าไร้ค่าเพียงนี้

         ความรู้สึกนึกไปเหมือนไร้ค่า
สิ่งได้มาไม่มีดีตรงไหน
         ดูเหมือนฉันสิ้นราคาหรืออย่างไร
เธอถึงได้ทำให้ตรมจมน้ำตา

         เหมือนปีกหักบินไปก็ไม่ไหว
โผกิ่งไม้หาคอนนอนพักเหนื่อย
         หากิ่งว่างวางกายให้หาเมื่อย
ให้หายเหนื่อยแล้วโผผินบินต่อไป

         แต่กิ่งคอนขอนไม้ช่างได้แกล้ง
คนไร้แรงอ่อนใจกายเมื่อยล้า
         พลันกิ่งหักไม้กลวงร่วงลงมา
เหมือนดังว่าร่วงแหลกกระแทกดิน

         กายแทบสิ้นทนทุรายกายแทบพัง
เหมือนความหวังริบหรี่ที่มองเห็น
         เหมือนสายใยที่วาดขาดกระเด็น
ใกล้ความเป็นความตายกร้ำกรายเยือน

         ฉันไร้ค่าไร้ราคาที่มานี่
เธอคนดีหรือใจร้ายทำลายหวัง
         หวังเพียงได้พยุงกายได้อยู่ยัง
เธอกลับฝังหวังฉันสิ้นดินกลบกาย

         เรื่องร้ายร้ายผ่านตรงที่ไม่มีฉัน
ด้วยฉันนั้นต่ำช้าไม่น่าเห็น
         จงไปอยู่ที่สูงกว่าอย่าลำเค็ญ
ขอเธอเป็นไปด้วยดีน่ะดวงใจ


....หรือฉันไร้ค่า...ไร้ราคา..
    พาหัวใจใครตกต่ำได้เพียงนี้...				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟketana
Lovings  ketana เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟketana
Lovings  ketana เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟketana
Lovings  ketana เลิฟ 0 คน
  ketana
ไม่มีข้อความส่งถึงketana