29 มีนาคม 2551 11:05 น.
ketana
๏ กลางผืนป่าดงลึกยามดึกดื่น
ในค่ำคืนกอดเก็บความเหน็บหนาว
ดารดาษละลานตาฟ้าเกลื่อนดาว
วะวับวาววามแวมแต้มดวงตา
๏ ฉันซุกกายกลางดินถิ่นแล้งแค้น
ในดงแดนร้างไร้ใครปรารถนา
สู่หนทางแห่งชอกช้ำได้นำพา
ความปวดปร่าเจ็บแปลบแทบขาดใจ
๏ มีเพียงเสียงเรไรกล่อมไพรพฤกษ์
ครารู้สึกหวาดหวั่นจนหวั่นไหว
เพราะความฝันเรืองโรจน์ดูโชติไกล
จึงมอดไหม้มลายลงเป็นผงธุลี
๏ ดุจเอื้อมคว้าดวงดาวบนราวฟ้า
ยากยิ่งกว่าเพราะตระหนักต่างศักดิ์ศรี
คือช่องว่างระหว่างฟ้าและปฐพี
คงไม่มีและยากเย็นจะเป็นจริง
๏ จึงกอบดินเก็บทรายด้วยหมายมั่น
ฝากความฝันฝากใจไว้ทุกสิ่ง
เอาความหมายในรักเข้าพักพิง
แล้วแอบอิงจุมพิตติดผืนทราย
๏ ฉันจูบดินหวังฝากถึงฟากฟ้า
ช่วยนำพาจงอาดูรอย่าสูญหาย
ไปถึงคนบนฟ้าดาราราย
อย่าแหนงหน่ายลืมดินหลงถิ่นดาว