26 มิถุนายน 2549 16:46 น.
ketana
ชีวิตหนอเหนื่อยล้า...........บ้างไหม
เจ็บปวดเป็นอย่างไร.........รับรู้
ทุกข์ทนสักเท่าใด..............สิ้นสุด
อยากจะเป็นดั่งผู้...............หลุดพ้นบ่วงกรรม
สัจจะธรรมกล่าวไว้...........ให้ปลง
เพราะไม่มีสิ่งยืนยง...........เที่ยงแท้
แบกไว้ไม่อาจปลง.............ยากอยู่
หดหู่ไร้ทางแก้...................ทุกข์ท้อทรมาน
แต่บางสิ่งยากแท้...............ปล่อยวาง
แม้มืดมนหนทาง................แบกไว้
ค่ำครวญ ฤ ครวญคราง.......เพียงแค่
ต้องพ่ายแพ้สิ้นไร้...............ลบล้างเกียรติยศ
อดทนเพียงต่อสู้..................โชคชะตา
เพียงเพราะเราเกิดมา.........แค่นั้น
ทางเดินที่เสาะหา.................แตกต่าง
อุปสรรคใดขวางกั้น..............อย่าท้อฝ่าไป
8 มิถุนายน 2549 21:32 น.
ketana
หากเธอคือดวงเพ็ญเด่นอร่าม
ดูงดงามประดับฟ้าเวหาหาว
ส่องประกายเจิดจ้ากว่าหมู่ดาว
สุกสกาวแสงนวลเย้ายวนตา
ทั่วทุกถิ่นแซ่ซ้องสรรเสริญ
งามเหลือเกินใครใครต่างใฝ่หา
สักการะนอบน้อมพร้อมบูชา
ปรารถนาเป็นจันทร์คืนวันเพ็ญ
ฉันหลีกลี้ซุกซบหลบหลังฉาก
ไร้แสงฝากยวนใจให้ใครเห็น
ดูมืดมัวสลัวลางอย่างที่เป็น
ยะเยือกเย็นสงบเสงี่ยมอย่างเจียมตน
เธอสุกสว่างฉันหดหู่อยู่มืดมิด
เป็นลิขิตขีดไว้ไร้เหตุผล
เธอสดใสแสงนวลชวนให้ยล
ฉันอ้างว้างหมองหม่นคนข้างแรม