30 พฤษภาคม 2549 00:09 น.
ketana
เจ้าหัวใจหวาดวิตกโอ้อกเอ๋ย
คนคู่เคยเคียงข้างมาห่างหาย
ความอบอุ่นเคยกอดกลับวอดวาย
วันสุดท้ายโศกสะอื้นคืนฝนพรำ
รักเคยหวานซาบซ่านผ่านไปแล้ว
ไม่เหลือแววเริงรื่นเคยชื่นฉ่ำ
รักเคยปลื้มลืมมิได้ใจเจ้ากรรม
เก็บชอกช้ำกล้ำกลืนสุดฝืนทน
ถึงหน้าหนาวใจหวั่นสั่นสะท้าน
ทรมานดวงฤดีอีกกี่หน
ถึงหน้าแล้งคลุ้มคลั่งดั่งร้อนรน
กลัวลมฝนพร่ำเพรียกเรียกน้ำตา
ลมสะบัดพัดพลิ้วทิวไม้ไหว
เหมือนมีใครพร่ำเพ้อละเมอหา
เมื่อวสันต์ฤดูกาลผ่านเข้ามา
ทวงสัญญาหมองหม่นคืนฝนพรำ
22 พฤษภาคม 2549 23:19 น.
ketana
ตื่นเถิดวิญญาณที่หลับใหล
แจ้งใจให้ประจักษ์อีกสักครั้ง
ตื่นเถิดร่างกายไร้พลัง
สร้างหวังดีเลิศเกิดกับตน
ท้อแท้ท้อถอยเฝ้าคอยโชค
เศร้าโศกเสียใจไร้เหตุผล
ลิขิตแห่งใจใครบันดล
หมองหม่นจะโกรธจะโทษใคร
แค่ใช้สองเท้าเพื่อก้าวผ่าน
ร้าวรานชอกช้ำจะทำไหม
เหมือนฝ่าเพลิงทุกข์ลุกข้างใน
ปวดแปลบแสบไหม้เป็นธรรมดา
เพียงแผลพุพองใยต้องบ่น
อดทนเอาหน่อยค่อยรักษา
ค่อยเป็นค่อยไปใช้เวลา
เยียวยาแผลใจอีกไม่นาน
หนทางอนาคตยังสดใส
โลกนี้กว้างใหญ่แผ่ไพศาล
ก้าวเดินให้สนุกสุขสำราญ
ค่อยผ่านสร้างสรรฝันเป็นจริง
9 พฤษภาคม 2549 08:49 น.
ketana
คำสัญญาว่าไว้................มั่นคง
ความรักจักยืนยง............แน่แท้
มิแปรเปลี่ยนลุ่มหลง.......เป็นอื่น
โศกสะอื้นพ่ายแพ้...........เจ็บช้ำ ไม่มี
เธอดังสายน้ำชื่น..............ฉ่ำเย็น
คอยดับความทุกข์เข็ญ......รุ่มร้อน
ยามหนาวเหน็บเธอเป็น...ไออุ่น
อ่อนละมุนออดอ้อน...........ห่มให้ หายหนาว
คือแขไขอร่ามฟ้า...............ราตรี
แจ่มกระจ่างโสภี................ผ่องแผ้ว
คอยประดับดวงฤดี.............มัวหม่น
ส่องสว่างเพริศแพร้ว..........สู่ห้วง แห่งฝัน
เธอเป็นทุกอย่างแล้ว..........เพื่อฉัน
ข้ามผ่านคืนและวัน.............มั่นไว้
เคียงแม้จะสุขสันต์..............ฤๅโศก
สิ่งหนึ่งเป็นมิได้..................สิ่งนั้น ความจริง