8 กุมภาพันธ์ 2550 17:30 น.
ketana
กุหลาบแดงแห้งเหี่ยว...........กลีบโรย
หลุดร่วงยามลมโชย..............โบกพลิ้ว
ปลิดปลิวกับใจโหย................หารัก
ความรักฝากรอยริ้ว...............เจ็บช้ำขื่นขม
เคยภิรมย์แนบข้าง................เคียงนวล
กลิ่นกุหลาบยังหอมหวน.........ยั่วเย้า
ยังฟุ้งกลิ่นอบอวล...................หอมกรุ่น
อบอุ่นไอคละเคล้า..................เปี่ยมล้นปรารถนา
วาเลนไทน์ใกล้จัก.................มาถึง
เห็นกุหลาบแดงคำนึง............เมื่อครั้ง
ความหวานชื่นตราตรึง.............คราก่อน
ไม่อาจย้อนฉุดรั้ง...................รักร้าวยากสมาน
กุหลาบแดงดอกนั้น...............แสนหวาน
ปั้นจากก้อนน้ำตาล................มอบให้
แทนรักจากดวงมาน..............วันก่อน
ทิ้งเถิดอย่าเก็บไว้..................อย่าให้เขาเห็น
2 กุมภาพันธ์ 2550 23:27 น.
ketana
หนาวลมเหนือพัดบอกระลอกสุดท้าย
จนร่างกายเจ็บร้าวต้องหนาวสั่น
เหมือนกระซิบเล่าเรื่องราวคราวเหมันต์
เคยผ่านผันล่วงผ่านกาลเวลา
หนาวลมเหนือเมื่อลมหนาวผ่านคราวนี้
หนาวเหมือนมีใครทวงความห่วงหา
เพราะคิดถึงความหลังครั้งผ่านมา
มันเหว่ว้าหมองหม่นทุรนทุราย
เหมือนหัวใจเปื่อยยุ่ยเป็นผุยผง
ความทะนงเย่อหยิ่งยิ่งหดหาย
เพราะว่าความศรัทธามากลับกลาย
สิ่งสุดท้ายจดจำคือกล้ำกลืน
สิ้นลมเหนือตรอมตรมยามลมหวน
ต้องเพ้อครวญทุกข์ทนจนสุดฝืน
สุดทางรักความหวังก็พังครืน
ไห้สะอื้นเดียวดายกลางสายลม
8 มกราคม 2550 17:41 น.
ketana
ตั้งแต่นี้ต่อไป...........................ขอหัวใจของข้าเอ๋ย
จงลืมความคุ้นเคย....................ให้ผ่านเลยกับเวลา
หยุดร้องคร่ำครวญถึง................หรือคำนึงละเมอหา
คอยใครให้กลับมา...................เพราะรู้ว่าไม่มีทาง
เหมือนเดินตามตะวัน................มิใกล้กันระยะห่าง
ความจริงอยู่ตรงกลาง................คอยกั้นขวางระหว่างเรา
ทำได้แค่ทำใจ..........................อาจหวั่นไหวในเงียบเหงา
อาจเผลอเพ้อถึงเงา...................กับความช้ำเพียงลำพัง
ต่อไปไม่โหยหา.........................ปาดน้ำตาคราเคยหลั่ง
เก็บฤดีที่ผุพัง............................รอร่างฝังคืนผืนดิน
24 ธันวาคม 2549 14:51 น.
ketana
จงเดินไปสู่ฝันอันแรงกล้า
ด้วยศรัทธาก้าวต่ออย่าท้อถอย
อนาคตความหวังยังคงคอย
เพียงอย่าปล่อยคืนวันให้ผ่านไป
ไม่มีคำว่ายากหากเริ่มต้น
เพียงอดทนแน่วแน่จะแก้ไข
ข้อผิดพลาดผ่านมาอย่าสนใจ
หรือจักกอดเอาไว้ให้ร้าวราน
ดูสินั่นผู้คนบนโลกนี้
บ้างก็มีบ้านใหญ่โตรโหฐาน
บ้างยากจนลำเค็ญเป็นขอทาน
ยังจะผ่านวันคืนแม้ฝืนทน
แต่เรามีพรั่งพร้อมหากยอมสู้
จักหดหู่หรือจะข้ามความสับสน
อวัยวะมีครบความเป็นคน
เพียงดิ้นรนกล้าเผชิญอย่าเขินอาย
แม้ตกทุกข์อาภัพไร้ทรัพย์สิน
น้ำตารินหลั่งกระเซ็นเป็นเส้นสาย
ให้มันไหลออกมาอย่าเสียดาย
เผื่อจะคลายเศร้าสลดให้หมดลง
จงมุ่งมั่นก้าวต่ออย่าท้อถอย
โลกยังคอยให้ลิขิตตามจิตประสงค์
ด้วยศรัทธาความฝันที่มั่นคง
อย่างทรนงให้โลกรู้กูก็คน
18 ธันวาคม 2549 10:42 น.
ketana
ถึงแตกต่างเชื้อชาติศาสนา
ต่างศรัทธานั่นหรือที่ถือมั่น
ใช่จักต้องเกิดมาเพื่อฆ่าฟัน
จ้องห้ำหั่นคอยเชือดสิ้นเลือดเนื้อ
อุดมการณ์แบ่งแยกให้แตกต่าง
จนเส้นทางร่วมธรณีไม่มีเหลือ
มุสลิมพุทธไทยตายเป็นเบือ
จะทำเพื่อแย่งชิงหรือสิ่งใด
หากเรามีสำนึกระลึกถึง
ว่าต่างพึ่งแผ่นดินถิ่นอาศัย
ยืนอยู่ ณ อาณาเขตประเทศไทย
แล้วทำไมไม่รักสามัคคี
ชีวิตใช่ของเล่นหยุดเข่นฆ่า
สร้างศรัทธาให้ประจักษ์เป็นสักขี
สมานฉันท์รอมชอมเพื่อพร้อมพลี
ถวายองค์ภูมีศรีแผ่นดิน