7 มิถุนายน 2547 02:21 น.
ketana
เขาไม่เคยรู้จักรัก
เขาจากไปทิ้งไว้เพียงความเศร้า
เหลือแค่เงาอดีตที่กรีดฝัง
เหลือไว้เพียงชีวิตที่ผุพัง
เมื่อเขายังคงมีลมหายใจ
สวรรค์แกล้งฟ้าโกรธลงโทษเขา
เกิดมาเอาดวงตามาหนึ่งข้าง
พิการไปทั้งตัวช่างอ้างว้าง
สววรค์วางความทุกข์สุขไม่มี
ไม่เคยมีความสุขใจในชีวิต
ฟ้าลิขิตใช้กรรมทำหนไหน
ไม่เคยเห็นความรักเหมือนใครใคร
แค่อยู่ไปวันวันนั้นก็พอ
จนวันหนึ่งซึ่งเขาได้รู้จัก
ว่าความรักความใคร่ใจจึงหลง
ให้หวนหาชวนให้ใจพะวง
เขาจึงหลงบ่วงในความใคร่ลวง
คนไม่เคยรู้เลยหรือจะรอด
ที่เฝ้ากอดเกี่ยวไว้ในตัณหา
ที่ยังหาซื้อได้ด้วยราคา
มันจึงพาชีวติดับกับรักลวง
จากไปแล้วไปดีเถิดพี่ชาย
แค่หวังไว้ภพหน้าคงสมหวัง
ขอชาติใหม่เกิดได้อีกสักครั้ง
มีพลังมีความหวังดั่งใครๆ
ผมไม่สามารถเขียนเป็นบทกลอน
ให้คนเข้าใจความรู้สึกได้
พี่ชายคนหนึ่งเสียชีวิต
เขาเกิดมาพิการ ตาบอดข้างหนึ่ง
แขนขาพิการ ไปไหนเองไม่ได้
ไม่เคยเรียนหนังสือ อ่านไม่ออก
เขียนไม่ได้
ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยมีความรัก อย่างที่ใครๆเขามี
แล้วเขาได้สัมผัส สิ่งที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
ตัณหา ความใคร่
โดยที่ไม่เคยได้ล่วงรู้เลยว่ามันจะกระชากวิญญาณเขาไป
เขาเสียชีวิตแล้ว ไม่มีใครโกรธเขา
มีแต่คนเข้าใจ
แม้ร่างกายจะเป็นอย่างไร
ไม่เคยห้ามหัวใจได้สักครั้งเดียว
แด่พี่ แด่เพื่อน ขอจงไปดี เกิดอีกที คงมีร่างกาย และหัวใจอย่างที่ใครมี
4 มิถุนายน 2547 13:48 น.
ketana
ออดอ้อน
เอ่ยออดอ้อนเว้าวอนก่อนที่ฟ้า
พิพากษาตัวข้าว่าผิดไหม
พินิจว่าที่ผิดผิดตรงไหน
ที่มั่นใจในตัวไม่กลัวเกรง
ขออภัยหากคิดผิดอย่างนี้
คงต้องมีคนที่พิพากษา
ว่าเราคนค้นคนดั้นด้นมา
ขอเถิดฟ้าหากละโทษข้าโกรธเคือง
เรื่องบางเรื่องคนแค้นเคืองเรื่องหนก่อน
ไม่เคยย้อนยอกใครให้เจ็บช้ำ
พิจารณาตัวข้าพร้อมรับกรรม
ผลที่ทำย้ำที่คิดกรรมติดตัว
โปรดเถิดฟ้าพิพากษาข้าเสียที
อยู่อย่างนี้ช่างอับจนทนไม่ไหว
โปรดเถิดฟ้าลงโทษข้าให้สาใจ
ก่อนปล่อยให้ข้าจะไปใช้ชีวี
28 พฤษภาคม 2547 13:14 น.
ketana
ขายวิญญาณ
ชิวิตที่ติดตรึงถึงวันนี้
เพราะว่ามีให้ใจกายตั้งมั่น
เพราะว่ามีสิ่งร้ายให้ผูกพันธ์
แค่ว่าฉันอยู่ตรงนี้ที่อับจน
หรือจะให้ฉันขายละลายจิต
ขายชีวิตจิตใจขายวิญญาณ
หรือจะให้ฉันขายให้ซาตาน
ไร้วิญญาณมีแต่ร่างอยู่อย่างไร
หัวใจดวง และวิญญาณดวงนี้ไร้ราคา
มีค่าคู่ควรคนที่เห็นค่ามันเท่านั้น
ฉันเป็นฉันอยู่อย่างนี้ ทางที่ใครขีดไว้
............ ฉันไม่ไป......
27 พฤษภาคม 2547 23:42 น.
ketana
ฉันเลือกชะตาตัวเอง
ใช้ชีวิตลิขิตไว้ด้วยใจตัว
ไม่เคยกลัวหัวใจไม่ยอมแพ้
ไม่เคยหวั่นใครว่าฉันนั้นอ่อนแอ
ไม่เคยแคร์ใครคิดชีวิตฉัน
ทำงานเพื่อจุนเจือเยื่อชีวิต
แม้จะติดขัดสนเรื่องชนชั้น
เพียงแค่ว่าฉันไร้ค่ามาตั้งนาน
เป็นแค่มารในจิตที่ติดใจ
ฉันเลือกเองจะลำบากถึงยากไร้
แค่พอใจใช้ชีวิตตามวิถี
โปรดอย่ามาสงสารเลยคนดี
ปล่อยฉันมีชีวิตไร้ใครเหลียวแล
ฉันไม่สนคนอย่างฉันมั่นในตัว
ฉันไม่กลัวความตายที่หมายใกล้
ฉันไม่ท้อจะยืนต่อสู้ต่อไป
ไม่เป็นไรอย่ามาย้ำให้ช้ำใจ
บทสุดท้ายเรื่องคงจบลงเศร้า
ความหลังเก่าหลอกหลอนคลอนชีวิต
สิ่งสุดท้ายความหมายในลิขิต
คือชีวิตสุดขั้วไม่กลัวใคร
อย่าเลยอย่ามาย้ำ ว่าเลือกใช้ชีวิตแบบนี้
เลือกที่จะลำบาก...
ใช่ฉันเลือกของฉันอย่างนี้..เธอจะไปมีชีวิตที่ดีก็มีไป
อย่ามาย้ำ อย่า...ขอร้อง มิได้วอนให้เห็นใจ
25 พฤษภาคม 2547 22:37 น.
ketana
คืนที่ฝนพรำ
คืนฝนฉ่ำร่ำน้ำตาคราโหยให้
เปียกหัวใจให้หนาวคราวตากฝน
หนาวตัวสั่นสะท้านฉันมืดมน
เหมือนใจตนทนอดสูอยู่เพื่อตาย
ฝนฉ่ำชื่นตกทั้งคืนตื่นตอนเช้า
ไม่มีเงาอาทิตย์ส่องให้มองเห็น
รอแล้วรอความหวังช่างลำเค็ญ
รอยากเย็นทางไม่มีที่จะไป
หลบหลีกมาอาศัยใต้สะพาน
เสียงยวดยานผ่านทางใครคงเห็น
ยังคงนอนรอความหวังอย่างใจเย็น
หรือความเห็นใจคนคงไม่มี
มีชวีตที่วุ่นวาย..แต่เดียวดายกลางผู้คน
มีชีวิตเรียบง่าย..แต่อะไรก็ดูสับสน
มีแสงว่าง..แต่ทางชีวตมืดมน