28 เมษายน 2550 22:02 น.
keekie
มันก็แค่ความรักเท่านั้นเอง
จะเอาไปอวดเบ่งกับใครเขา
มันก็อยู่แต่ในหัวใจเรา
คล้ายเป็นเงาเลือนพร่าไม่ชัดเจน
มันก็แค่ดอกรักใต้ต้นโศก
ฤๅหยุดโลกอยู่ได้จนลูกเหลน
ปิดกั้นทุกสิ่งไว้จากกรรมเวร
ก่อนส่งขึ้นสู่เมรเพื่อเผาไฟ
มันก็แค่หัวใจไร้ชีวิต
ฤๅจะมีผู้คิดอยากชิดใกล้
ส่งต่อแต่ความทุกข์สู่ใครใคร
หยิบยื่นให้แต่ความเศร้าที่เหงาทรวง
มันก็มีแค่นี้แหละชีวิต
หากไม่ถูกก็ผิดอย่าคิดห่วง
ภาพปรากฎตรงหน้าคือภาพลวง
จะมัวหวงห่วงหาเพื่ออะไร
21 เมษายน 2550 18:13 น.
keekie
ยามหมดรักก็หมดเรื่องเขียนกลอนรัก
ใครจะชักจะชวนก็ม้วนหนี
ไม่ว่ากาพย์กลอนกานต์งานกวี
หมดอารมณ์เหลือที่คิดร่ายคำ
ไม่ต้องหาขนมมาหลอกล่อ
โตเกินพอคิดเห็นเป็นเรื่องขำ
จะเต้นลิงเต้นค่างอย่างที่ทำ
คิดจะอำให้เค้นเข็นเรือกลอน
ช่อดอกไม้สีสดงดไว้เถิด
เดี๋ยวอาจเกิดคำร้ายกลายมาหลอน
อย่ามาทำหน้างอให้ง้องอน
เดี๋ยวกระเด็นกระดอนทำเล่นไป
อยากให้เขียนกลอนรักแทบชักดิ้น
ทำเล่นลิ้นปลิ้นปล้อนป้อหวานใส่
เดี๋ยวแม่ถอดกลอนประตูสู่หัวใจ
ชวนรักกันง่ายกว่าไหม ..
อ้าว .. หายไปไหนแว้วววว .. ??? ..
10 เมษายน 2550 17:31 น.
keekie
ลมร้อนพัดพริ้วผ่านมานานแล้ว
ครุ่นคำนึงถึงวาวแววดวงตาหวาน
กลิ่นไออุ่นกรุ่นนักจับดวงมาลย์
ลมพัดผ่านให้รู้สึกถึงไอร้อน
ยังคิดถึงเรื่องราวเมื่อคราวนั้น
ยังไหวหวั่นซาบซ่านหวานเกินถอน
ยังครุ่นคิดคำนึงจึงอาวรณ์
ยังมิอาจไล่ภาพหลอนที่คลอนใจ
หลับยังฝันถึงเธอยังเพ้อหา
ตื่นยังมีคราบน้ำตาอาบแก้มใส
นั่งยังเพ้อกับลมตรมฤทัย
ยืนยังเหม่อถึงหัวใจ .. ใครบางคน
ลมร้อนพัดพริ้วผ่าน .. ผ่านไปแล้ว
พร้อมวาวแววแห่งดวงตาพาล่องหน
พรากความสุขในหัวใจใครหนึ่งคน
ทิ้งไว้เพียง .. ทุกข์ล้น .. ร้อนรนฤดี ..