29 พฤษภาคม 2548 22:31 น.
keekie
อัสจรรย์กว่าที่คิด
ถ้อยนิมิตรตัวอักษร
แต่หัวใจกลับไหวคลอน
ทั้งที่ก่อนไม่เคยเป็น
วาสนาหรือว่าไร
จึงดาลใจอย่างที่เห็น
มิตรภาพชุ่มฉ่ำเย็น
ฉันเห็นความหมายนั้น
ฤดูกาลแห่งหัวใจ
ตลอดไปไม่ไหวหวั่น
เป็นฤดูปัจจุบัน
แม้ห่างกันยังมั่นใจ
คำที่จารช่างแน่นรัก
มากกว่าจักพิสมัย
มิตรภาพตราบสิ้นใจ
ดวงหทัยจะจดจาร
จารไว้ให้จารึก
ปักลงลึกแม้วันผ่าน
อัสจรรย์กว่าวันวาน
ตราบสิ้นนานตลอดไป
สิ่งหนึ่งซึ่งอัศจรรย์
ในทุกวันเคยฝันใฝ่
มิตรภาพทอทาบใจ
ยึดเหนี่ยวไว้ให้ใกล้กัน
สิ่งสองเคยลองคิด
มิยึดติดไว้คงมั่น
ประทับใจหรือไหวหวั่น
คงสักวันได้รู้จริง
ฤดูกาลแห่งหัวใจ
ติดตราไว้ไม่ละทิ้ง
มั่นคงไม่ไหวติง
จะนอนนิ่งในหัวใจ
วาสนาพามาพบ
ครบบรรจบแม้กายไกล
แต่สิ่งหนึ่งซึ่งจะใกล้
มิตรในใจใช่เพียงคำ
วาจาจารจะจำจด
มธุรสแสนเลิศล้ำ
คือความหมายใช่เพียงพร่ำ
จารจดจำในหัวใจ
เวลาผ่านกาลล่วง
ร้อยเป็นบ่วงห้วงหทัย
ติดตราตรึงไม่หวั่นไหว
ฤดูกาลแห่งใจ .. ไม่ลบเลือน ..
29 พฤษภาคม 2548 12:26 น.
keekie
หนึ่งดอกไม้แทนคำหวานที่หว่านล้อม
หนึ่งคำอ้อนแทนอ่อนโยนอันอ่อนหวาน
หนึ่งน้ำค้างแทนเย็นย่ำค่ำวันวาน
หนึ่งดาวขานคำห่วงหาและอาทร
ในฟองคลื่นคืนรื่นรมย์พร่างพรมจิต
ในนิมิตริมชายหาดอยากออดอ้อน
ในอ้อมอกอบอุ่นอยากหนุนนอน
นัยยอกย้อนเผยมาว่าฝากใจ
ดวงดาวพร่างพรายฟ้าพาส่องแสง
ดวงจันทร์แฝงรอยยิ้มพริ้มสดใส
ดวงดารากระซิบมาจากหัวใจ
ดวงตาใสส่อแวววาวพราวแววหวาน
ใจดวงนี้พลีมอบตอบเพียงเธอ
ใจบอบบางมั่นเสมอเผลอขับขาน
ใจดวงนี้มีเพียงเธอเพ้อมานาน
ใจประสานส่งถึงใจ .. ใครบางคน ..
27 พฤษภาคม 2548 11:36 น.
keekie
อิงอ้อมอกอบอุ่นละมุนละไม
เกลียวสายใยแห่งรักสมัครสมาน
เริ่มก่อตัวตั้งต้นมิช้ามินาน
ชั่วหนึ่งคืนชั่วหนึ่งกาลจักจดจักจำ
อิงอ้อมกอดหนุนนอนแทนหมอนหนุน
อ้อมอกอุ่นอวลไอหวานซาบซ่านล้ำ
ดาวพร่างพรายคลายหนาวคราวคืนค่ำ
ใจระส่ำครวญถวิลในจินตนา ... ...
เพียงอยู่ในวงแขนคุณ ..
อบอุ่นในหัวใจ ..
เพียงได้เดินเคียงข้างคุณ ..
ดั่งมีพรมละมุน ..
.. ทอดพาดวงใจเราไปยังนภาฟ้าที่แสนไกล ..
.. ที่ไม่มีใครเคยก้าวล้ำข้ามผ่านพ้นไป ..
.. เก็บดวงดาวที่ลอยเกลื่อนฟ้า ..
.. จับมาเรียงร้อยเป็นมาลัยคล้องใจ .. คู่กัน ..
16 พฤษภาคม 2548 01:42 น.
keekie
วันนั้น ...
เธอถามฉัน ..เคยรักกันบ้างไหม?
อยากให้ฉันเปิด..ความนัย
สิ่งที่อยู่ในหัวใจ ..ด้วยความรู้สึกคุ้นเคย
มันยากสำหรับฉันที่จะตอบ
ความรู้สึกผิดชอบยับยั้ง..มิอาจพลั้งเผย
ยังไง ..เราคงไม่สามารถลงเอย
ด้วยการกลายเป็นคนคุ้นเคยของหัวใจ
ผู้หญิงที่มีเหตุผลให้กับทุกสิ่ง
ต้องบอกตัวเองให้..หยิ่ง ..อย่าหวั่นไหว
ต้องหักห้ามความต้องการของหัวใจ
ปล่อยให้เธอจากไปและเข้าใจว่า ...ไม่รักกัน...
วันนี้ ...
เธอคนดี ..กลับมาทวงถาม
กลับมาทวงคำตอบจากคำถามเดิมในวันวาน
แม้เวลาผ่านไปยาวนานเนิ่นมา
วันนี้ ...
เธอคนดีคนเดิมที่เคยห่วงหา ...
ความอ่อนโยนคงฉายชัดในแววตา
เวลา...ไม่อาจลบเลือน...
ฉันในวันนี้ ...
ไม่มีดีพอที่จะเอ่ยเอื้อน
เป็นผู้หญิงไม่ดีพอ..ต้องคอยย้ำเตือน
ฉันยังคงตอบไม่ได้ .. เหมือนอย่างเคยมา
ใครบางคนอ่านงานนี้แล้วบอกว่า ...
...ผู้หญิงเข้าใจยาก ...
ฉันถาม..เธอเคยรักกันบ้างไหม
ไม่เคยมีโอกาสได้รู้..ไม่มีโอกาสได้เข้าใจ
14 พฤษภาคม 2548 20:51 น.
keekie
มองลอดผ่านคมเลนส์เห็นภาพมัว
ลางสลัวจึงปรับให้ชัดใส
องศาแรกได้เห็นความจริงใจ
กดชัตเตอร์บันทึกไว้ในทรงจำ
ดึงซูมให้เข้าใกล้อีกสักนิด
อาจมีสิ่งปกปิดแลเหลื่อมล้ำ
แอบแฝงเร้นซ่อนไว้ในน้ำคำ
อยากจะย้ำให้แน่ใจว่าใช่เธอ
ลั่นชัตเตอร์ครั้งที่สองเพื่อลองดู
ทำให้รู้เธอจริงใจให้เสมอ
มิใช่เพียงคำป้อยอที่ปรนเปรอ
ให้หลงเพ้อ .. หลงรัก .. ปักใจ
ถอดฟิล์มจากกล้องเข้าห้องอัด
รีบรวบรัดล้างภาพที่ถ่ายไว้
อยากได้ภาพชัดเจนไม่เอนไหว
เป็นเช่นที่ตาเห็นไว้..ใช่...?
รูปภาพที่พร่าเลือนเริ่มปรากฎ
สีสวยสดสมดังเช่นใจหมาย
แต่ เอ๊ ... บางสิ่งบางอย่างขาดหายไป ...
บนภาพไซร้ .. ทำไม? .. ไร้ร่างเธอ????
..กีกี้ ..
นับหนึ่ง ...ถึง 360
เวลาเราถ่ายรูป ...
ต้องใช้สายตามองผ่านคมเลนส์ แล้วจ้องหามุมที่สวย
หาองศาที่งามของภาพใดภาพหนึ่งนั้น ก่อนกดชัตเตอร์
ภาพบางภาพ ... เรากดชัตเตอร์ได้เพียงในองศาแรกของการมอง
แต่ภาพบางภาพ ... เราก็เดินกันจนเกือบครบ 360 องศา
กว่าจะหาสักมุมที่สวยงามเจอ
กับการพบใครสักคนภายในชีวิต ...
ต้องมองเขาผ่านคมเลนส์ของความรู้สึกมากมาย
ก่อนจะตัดสินใจลั่นชัตเตอร์ ...
เก็บเอาเขามาไว้เป็นคนในภาพของชีวิต
เป็นคนที่รัก ...
คนบางคน ... เราอาจกดชัตเตอร์ได้เพียงในองศาแรกของการมอง
แต่คนบางคน ...
เราเดินกันจนเกือบครบ 360 องศากว่าจะหาความงามเจอ
และ ... กับคนบางคนที่เราเลือกแล้วให้เขามาเป็นคนหนึ่งในชีวิต
ตอบได้ไหมว่า ... รักเขาที่องศาไหน?
รัก 360 องศา
อาพัชรินทร์
บันทึกไว้แล้ว ... ความรัก ...
หากไม่ตายเสียก่อน ... จะบินว่อนกลับมาหา ...
แช๊ะ ... แช๊ะ ...