21 ตุลาคม 2547 18:28 น.
keekie
ดอกไม้งาม นามว่า ดอกไม้รัก
กลีบสลัก คำหวาน วาบหวามไหว
เติมคิดถึง คนึงหา ทุกก้านใบ
บานในใจ ให้ซาบซ่าน อิ่มอาบทรวง
ยามฝนตก รดหลั่ง พรั่งเป็นสาย
หยาดพราวพราย ปรายสะพร่าง สว่างสรวง
พิรุณต้อง ห้องห้วงใจ ใสทั้งดวง
ซ่านในทรวง ดวงฤดี ฉิมพลีวิมาน
มาลีน้อย กลอยแก้ว มิแคล้วเจ้า
รักโรมเร้า เคล้าคลอ พนอหวาน
ได้ฝนฉ่ำ พรายพร่ำ ย้ำดวงมาลย์
รักแสนหวาน พาลผ่าน คลานมาเยือน
กาลล่วงล้ำ ย่ำเวลา พาผันผ่าน
เมฆาลาน ลอยลับ ขับคล้อยเคลื่อน
ฝนสร่างซา โอ้อุรา ลาร้างเลือน
เจ้าแชเชือน เสียแล้ว เจ้าแก้วเอย
ดอกไม้รัก ในยามนี้ มิมีแล้ว
ความเพริศแพร้ว แว่วหวาน วารคุ้นเคย
ฝนชุ่มฉ่ำ กรายกล้ำ ย่ำผ่านเลย
มิอาจเฉย ทำใจลืม ชุ่มชื่นใจ
แม้ทนเจ็บ เหน็บร้าว คราวร้างฝน
มาลีทน ท้อแท้ แม้หวั่นไหว
รอฝนมา พรายพร่าง สร้างวันใหม่
ให้หัวใจ ชุ่มฉ่ำรัก สลักทรวง
..........................................................
ยามเมื่อดอกไม้งามต้องหยาดฝน
พาให้กลีบใบชุ่มฉ่ำ.......สดชื่น.....
หากแต่...........
ฝน....มิได้ตกทุกเวลานาที
ดอกไม้ในหัวใจดอกนี้...
หากมิได้รับความชุ่มฉ่ำจากสายฝนในวันใด...
แม้จะเหี่ยวเฉา....ท้อแท้...สักแค่ไหน...
ฝนเอย....
ขอจงรู้ไว้....
ดอกไม้งามในใจดอกนี้....ยังคงบานสะพรั่ง...
รอเวลา...ฝนโปรยปรายครั้งใหม่เสมอ.........
..........................................................
17 ตุลาคม 2547 14:42 น.
keekie
เก็บเอาความ รู้สึก ลึกข้างใน
ความฝันใฝ่ ทักทอ ก่อประสาน
เอาอารมณ์ หวานซึ้ง ตรึงดวงมาลย์
ร้อยเรียงผ่าน เส้นใย สายสัมพันธ์
เก็บเอาความ คิดถึง ซึ้งดวงจิต
วันละนิด วันละน้อย คอยร่วมฝัน
เก็บห่วงใย เรียงร้อยไว้ ร่วมผูกพัน
เพื่อมีกัน และกัน มั่นคงนาน
ทีละเส้น ร้อยเรียง เคียงกันไว้
ต่อเส้นให้ ลวดลาย ได้หวามหวาน
มิตรภาพ ความหวังดี มีมานาน
ค่อยผสาน ผ่านวัน ฝันของเรา
เป็นเส้นสาย ลายสร้อย ร้อยด้วยรัก
ต่อใจภักดิ์ ถักไว้ ไม่ให้เหงา
ใจทั้งสอง เคียงนิรันดร์ มั่นดังเงา
คือสองเรา ร่วมเส้นทาง สร้างสายใย
เส้นสายรัก ถักร้อย เรียงประสาน
ก่อตำนาน สานสัมพันธ์ วันชิดใกล้
เกิดเป็นผ้า ผืนน้อย ร้อยเรียงใจ
สองหทัย พันผูก เป็นหนึ่งเดียว
ผ้าห่มรัก ผืนนุ่ม แอบอุ่นไอ
ห่มดวงใจ เราสอง ให้คล้องเกี่ยว
แนบชิดใกล้ ลายสร้อย ร้อยเป็นเกลียว
รักแน่นเหนียว เหนี่ยวเอาไว้ ให้นิรันดร์
15 ตุลาคม 2547 12:07 น.
keekie
สายลมแห่งความรักที่พัดผ่าน
สอดประสานความคิดถึงคะนึงหา
แนบด้วยความห่วงใยในแววตา
นำความสุขแสนหรรษามาสู่ใจ
สายลมแห่งความทุกข์ที่ล่วงผ่าน
พาหัวใจบอบบางพาลสั่นไหว
แอบเก็บความเจ็บช้ำย้ำเตือนไว้
หากหัวใจจะรักใหม่จงใคร่ครวญ
ลมเจ้าเอ๋ย....
ฝากความรู้สึกดีดีที่มีมอบ
จงช่วยหอบพัดไปอย่าให้หวน
นำพาไปถึงเขาอย่าเรรวน
ว่าหัวใจคร่ำครวญคำขอบคุณ
ฝากความห่วงใยสู่ปลายฟากฟ้า
ไกลสุดหล้าบากบั่นผ่านเขาขุน
จะขอออดอ้อนวอนท่านพระพิรุณ
โปรดการุณหนุนนำถึงเขาที
ขอให้เขามีความสุขในทุกวัน
การเดินทางล่วงผ่านผันไปด้วยดี
ทุกคนที่รอคอย ณ ฟากฟ้านี้
จะรอมี วันดีดี ได้พบกัน....
11 ตุลาคม 2547 01:33 น.
keekie
มีความลับที่เก็บไว้ในหัวใจ....
คือ....เอ่อ....ฉันแอบหลงใหลในตัวอักษร
ที่คุณพร่ำพรรณนาถึงความรักในทุกบททุกตอน
เพราะมันสอนให้ฉันรู้จักความ....อ่อนหวาน...
ไม่เคยคิดว่าคำเพียงหนึ่งคำ....
จะแสนหวานล้ำย้ำความผูกพันที่พบพาน
ไม่เคยคิดว่า...แม้กาลเวลาจะเนิ่นนานผันผ่าน
คำว่า...รัก...ยังคงมั่นยืนนานและเบ่งบานในหัวใจ
วันนี้มาขอสารภาพ.....
จะผิดบาปมากไหมที่ฉันเฝ้าฝันใฝ่....
แอบเก็บนิยามคำว่า..รัก...ของคุณซ่อนเอาไว้...
อยู่ในซอกหนึ่งของหัวใจที่ไร้ความรัก....
แอบเก็บความอ่อนโยนที่มี....
ในทุกทุกนาทีที่อ่านความอ่อนหวาน
ผ่านจากเรื่องราวของคุณในอดีตวันวาน
ที่ยังคงเบ่งบานมิเสื่อมคลาย....ในใจคุณ
ต้องขอโทษหากทำให้คุณโกรธ...
ยินดียอมรับการลงโทษที่ทำให้เคืองขุ่น...
ด้วยการยอมให้หัวใจของฉันต้องว้าวุ่น...
กับการเริ่มมีคุณ....เข้ามายุ่งในหัวใจ....
............................................................................................
....................ได้โปรดลงโทษฉัน..............
...............................................................................................
8 ตุลาคม 2547 15:56 น.
keekie
ดวงดาวจ๋า....
เอียงหูมา ฟังหนู หน่อยได้ไหม...
วันนี้หนู มีเรื่อง แสนเหนื่อยใจ...
หมดเรี่ยวแรง สิ้นไร้ แพ้ภัยตน
ตื่นตอนเช้า ต้องเล่าเรียน เฝ้าเขียนอ่าน
น่ารำคาญ พาลเบื่อ มากเหลือล้น
แต่คุณพ่อ สอนให้หนู พึงอดทน
เกิดเป็นคน มีหน้าที่ ต้องกระทำ
เพื่อนเพื่อนก็ กลั่นแกล้ง แย่งของเล่น
เขาคงเห็น หนูอ่อนแอ แหย่แล้วขำ
หนูร้องไห้ แต่เขา ยังคงทำ
หนูเจ็บจำ คำเขาล้อ ก่อช้ำใจ
อยากแกล้งกลับ ตอนลับ ข้างหลังเขา
แต่แม่เฝ้า สั่งสอนหนู เป็นผู้ให้
ใครเขาทำ เหยียบย่ำ ช้ำเพียงใด
ให้อภัย เท่านั้น ท่านว่าพอ
ตอนกินข้าว กลางวัน ที่โรงเรียน
คุณครูเวียน เพียรบอก และร้องขอ
บอกนักเรียน ทุกคน เข้าคิวรอ
เข้าแถวต่อ รอรับ ลำดับตน
แต่ทุกคน ยังคง แก่งแย่งกัน
หนูงงงัน ไม่เข้าใจ เลยสักหน
คุณแม่สอน ให้หนูรู้ ค่าของคน
อย่ายกตน ข่มท่าน แบ่งปันไป
ไม่ต้องแก่ง แย่งชิง กับใครเขา
หากเป็นของ ของเรา มิหวั่นไหว
แต่ถ้าเป็น ของเขา ต้องเกรงใจ
จะเป็นภัย หากไปแย่ง เป็นของตน
ดวงดาวจ๋า...
หนูหายเหนื่อย หายเมื่อย เลิกท้อแท้
นึกคำสอน ของแม่ ได้อีกหน
อีกคำบอก ของพ่อ ให้อดทน
เฝ้าดำเนิน ชีวิตตน ทางสายกลาง
ไม่ยึดติด ไม่คิดหนัก ให้หมักหมม
ตนแห่งตน เป็นที่พึ่ง จึงละวาง
ความทุกข์ตรม หมองหม่น และอ้างว้าง
มิอาจเป็น ชิ้นก้าง ขวางชีวิต
ขอขอบคุณ พระคุณ แม่และพ่อ
ที่เติมต่อ ก่อปั้น สรรค์ความคิด
คอยสั่งสอน มอบความรัก ให้ดวงจิต
ดวงน้อยนิด ดวงนี้ มีพลัง.....