19 มิถุนายน 2554 14:48 น.
keekie
ไม่บ่อยครั้งนัก ที่จะมองต้นไม้ ดอกไม้แล้วควักกระเป๋าซื้อ
ครั้งล่าสุดที่ซื้อดอกไม้ จำได้ว่าพาแม่ไปเดินรังสิตคลอง 14 (ใช่ป่าวหว่า?) แม่ซื้อดิน ซื้อต้นไม้เต็มท้ายปิคอัพ
แต่ตัวเองได้ดอกไม้มากระถางเดียว ถามจากคนขายเขาบอกว่า มันชื่อไซคลาเมน
.
ลาแล้ว ..
ความรักอันผ่องแผ้ว .. ผันผ่าน
เกลียวผูกพันฉันถักทอรอมานาน
ลา .. สายตาแสนอ่อนหวานเมื่อวานวัน
ลาก่อน ..
อกสะเทือนใจสะท้อนเมื่อก่อนนั้น
ยามค่ำคืนเคยซุกแนบแอบอุ่นกัน
มาวันนี้เหลือเพียงฝันอันเลือนราง
ลาล่วง ..
หลุดจากบ่วงห้วงรักยากจักขวาง
มิเหลือแม้เยื่อฤทัยใยบอบบาง
เมื่อรักจางจึงจำจากจำพรากไกล
ลาลับ ..
ดั่งสายน้ำมิหวนกลับต้องรับได้
ลาแล้วหนอ .. ลาล่วง .. ยอดดวงใจ
เหลือความเศร้าเคล้าฤทัย .. ไซคลาเมน ..
.
.
เปิดหาความหมาย วิธีการปลูก เทือกเถาเหล่ากอของไซคลาเมนดู พบว่า
มันเป็นดอกไม้ตัวแทนแห่งการลาจาก และความเศร้าทั้งปวง ซะงั้น
อย่าถามเลยว่าไซคลาเมนกระถางนั้นมันยังอยู่จนวันนี้ไหม?
มันตายไปแล้ว
อาจคงเพราะไม่ว่าจะสุข เศร้า เหงา ทุกข์อันจะมีปริมาณมากหรือน้อยเพียงใดก็ตาม
สุดท้ายมันก็ต้องสูญสลายไป งั้นมั้ง
เช้าวันนี้ แวะตลาดก่อนเข้าบ้าน เห็นป้าแก่ๆ เข็นรถเข็นอันเต็มไปด้วยต้นไม้ ยืนอยู่ริมถนน
พลันแลเห็นดอกไม้ช่อเล็กๆ สีขาวแกมชมพู กับขาวแกมฟ้า ชูช่อท้าทายสายตา
เลยเดินเร่เข้ายืนมอง ถามป้าได้คำตอบว่า ชื่อดอก ไฮเดรนเยีย (Hydrangea)
แล้วก็เป็นอีกครั้งในไม่กี่ครั้งที่ควักกระเป๋าจ่ายตังค์ หิ้วต้นไม้กลับบ้าน
และเหมือนเดิม เปิดหาเทือกเถาเหล่ากอไฮเดรนเยียดู
พบว่า ส่วนใหญ่จะบอกว่า ไฮเดรนเยียเป็นตัวแทนแห่งความเย็นชา หากให้ดอกไม้นี้กับใคร
เสมือนการตัดพ้อผู้รับว่า คุณช่างเย็นชามากมาย
ซะงั้น ..
ส่วนข้อมูลอื่นๆ บอกว่า ไฮเดรนเยียเป็นพันธุ์ไม้เมืองหนาว มีหลายสี หลายพันธุ์ แต่รูปร่างมาตรฐานของมันคือ มีดอกเล็กๆ ซ้อนกันจนเป็นช่อ
และดอกมันจะเปลี่ยนสีไปตามสภาพความเป็นกรด ด่าง ปริมาณฟอสฟอรัส โพแทสเซียมในดิน
ทั้งนี้จะสภาพอากาศ อุณหภูมิ หรือแม้แต่ปลูกบนพื้นดินกว้างๆ หรือปลูกในกระถางก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
และเพราะไฮเดรนเยียมีสีที่ไม่แน่นอนนี้เอง เค้าเลยบอกกันว่า มันมีความหมายเดียวไม่เปลี่ยนไปตามสี
อยากรู้จัง ใครเป็นคนกำหนดนะ?
ความท้าทายของคนปลูกไฮเดรนเยียอย่างหนึ่งก็คือการควบคุมให้ดอกเปลี่ยนสีไปตามที่ต้องการ ระหว่างสีฟ้า ม่วง ชมพู หรือแดง
โดยการเปลี่ยนสภาพดินปลูกให้เป็นกรดหรือด่าง คือถ้ามีค่าพีเอช น้อยกว่า 5.5 (เป็นกรด) ไฮเดรนเยียจะให้ดอกสีฟ้าหรือม่วง
แต่ถ้ามีค่าพีเอชสูงกว่า 5.8 (เป็นด่าง) ดอกไฮเดรนเยียก็จะกลายเป็นสีชมพู หรือแดง
อ่านตำราภาษาไทยดูแล้วเหมือนง่าย คือถ้าอยากได้ดอกสีฟ้าก็เอาตะปูเป็นสนิมฝังใต้โคน หรือรดน้ำแกว่งสารส้ม ฯลฯ
หากอยากได้สีชมพูก็ขุดตะปูออก สีก็จะคืนกลับไปเป็นสีชมพูเหมือนเดิม...
ตำราฝรั่งซับซ้อนกว่านั้น คือบอกว่า อยากได้ไฮเดรนเยียสีชมพู ให้ใส่หินปูนโดโลไมท์ (Dolomite Lime สำหรับปรับพีเอชของดินโดยเฉพาะ) ปีละสองสามครั้ง จะทำให้ค่าพีเอชสูงประมาณ 6.0-6.2
หรือจะให้ปุ๋ยเคมีตัวกลางสูง (ฟอสฟอรัส) อย่าง 25-10-10 ก็ช่วยเหมือนกัน และถ้าจะเปลี่ยนกลับเป็นสีฟ้า ก็ให้รดน้ำผสมอลูมิเนียมซัลเฟท (น้ำแกว่งสารส้ม)
หรือจะผสมปุ๋ยคอกสด อย่างกากกาแฟ เปลือกผักผลไม้ หรือหญ้าจากสนามก็ช่วย และหมากสุดท้ายคือใส่ปุ๋ยตัวกลางต่ำ อย่าง 25-5-30
จริงๆ แล้วการเปลี่ยนไฮเดรนเยียให้สีได้อย่างใจนั้น ไม่ง่ายอย่างที่คิด ส่วนใหญ่สีจะเปลี่ยนแค่เล็กน้อย หรือไม่ก็ได้สีแบบซีดๆ จืดๆ เพราะค่าพีเอชในดินไม่ลงล็อกที่มันต้องการ...
อีกทั้งยังมี ข้อแม้ เรื่องดินฟ้าอากาศ อุณหภูมิเข้ามาประกอบด้วย
เคล็ดลับคือไฮเดรนเยียในกระถาง จะเปลี่ยนสีได้ง่ายกว่าไฮเดรนเยียที่ปลูกลงดิน หรือถ้าลงดิน ต้นเล็กจะเปลี่ยนสีได้ง่ายกว่าต้นใหญ่...
ส่วนไฮเดรนเยียสีขาวนั้น สีดอกจะไม่เปลี่ยนตามค่าพีเอชของดิน ขาวแล้วขาวเลย...
หากอยากเล่นเกมกิ้งก่าเปลี่ยนสีกับไฮเดรนเยีย ต้องซื้อสีอื่นมาเล่นครับ
: ข้อมูลตัวสีเขียวนี้ ต้องขอขอบคุณ นายน้ำค้าง จาก ไทยทาวน์ แอลเอ :
อ่านแล้วก็แปลกอีกเน๊อะ
มีสีขาวที่ยังคงเป็นสีขาวอยู่อย่างนั้นได้ด้วยหรือ?
เคยเห็นแต่สีขาวที่เค้าบอกกันมาว่า .. เปื้อนง่ายสุด ซักสิ่งเปื้อนออกยากที่สุด ..
สงสัยอีกแล้ว เค้าที่ว่านี่ ใครกันนะ?
เปิดไปเปิดมา
เจอแค่เพียงที่เดียวที่บอกว่า ดอกไฮเดรนเยีย มีอีกหนึ่งความหมาย
.
ขอบคุณที่เข้าใจ ..
เออแฮะ ฟังดูดีกว่าความหมายแรกอีกเน๊อะ
อันนี้เป็นสองต้นที่เพิ่งซื้อมาเมื่อเช้า
เด๋วจะเลี้ยงดู ปูเสื่อ จะไม่พยายามปรับสีมันหรอก ให้มันออกสีอย่างที่ดินมันเป็น
ความจริง ชอบที่สีมันขาวแกมฟ้า กะแกมชมพูงี้มากกว่า แต่ก็รู้ว่าเราคงบังคับให้มันอยู่สีนี้ไปไม่ได้ตลอดหรอก
ความจริงส่วนลึกอีกอย่างก็คือ สีที่อยากได้คือ สีขาว
เอ.. นั่งเปิดเนทไล่อ่านมาตั้งกะเช้าแระ มีแต่วิธีทำให้มันเป็นสีชมพู หรือสีฟ้า สีแดง สีม่วง
แต่ไม่ยักบอกแฮะ ว่า ถ้าอยากให้เป็นสีขาว ต้องทำยังไง?
31 มีนาคม 2553 15:26 น.
keekie
เธอรักอิสระเป็นที่ยิ่ง
โลกแห่งนี้กว้างใหญ่ เธอมีอิสระจะโบยบินสู่ทุกหนแห่งที่เธอต้องการ หากแต่เธอยังไปไม่ถึง
แผนที่โลกบนผนังห้อง ลูกโลกจำลองบนโต๊ะทำงาน
เธอหอบหิ้วมันไปในทุกหนทุกแห่งที่มีเธอ
ดูขอบอาณาเขต ทุกตะเข็บพรมแดน เธอรู้จักมันจากโลกจำลอง
เธอจดจำมันได้ แม้เท้ามิเคยได้เหยียบ
.
เธอใฝ่ฝันที่รัก ..
เธอแค่ใฝ่ฝัน ..
และแม้เธอได้โบยบินไปทั่วโลกอย่างที่เธอใฝ่ฝัน
แค่นั้นหรือ เพียงพอสำหรับเธอ
โลกใบนี้กว้างใหญ่กว่าตัวมันเอง ..
ที่รัก ..
เธอจักดิ้นรนไปไย ..
นกน้อยที่เธอเคยจับมันขังกรงไว้เชยชม ..
แม้นมันจะร่ำร้องถามหาอิสรภาพเพียงใด .. ก็แค่เสียงร่ำร้อง
คนทั้งโลกจะได้ยินเสียงมันสักกี่คน จะเข้าใจความหมายของเสียงร้องแห่งมันเพียงใด
.. มันก็แค่เสียงร่ำร้องที่เข้าไปไม่ถึงหัวใจเธอ ..
วันนี้นกน้อยตัวนั้นมันตายไปแล้ว ..
แต่ดูเหมือนเสียงร่ำร้องโหยหวนแห่งมันจะสะท้อนก้องอยู่ในหัวใจเธอ ..
ดังก้องอยู่ทั่วทุกสรรพางค์แห่งเธอ ..
ทรมานมากไหมที่รัก?
ยามเสียงร่ำคร่ำครวญหาอิสรภาพแห่งเธอ
แผ่วเบาอยู่เพียงปลายลิ้น ..
ยามที่ทุกคนเข้าใจความหมายในเสียงร่ำร้องโหยหวนนั้น ..
หากแต่มันยังเข้าไปไม่ถึงหัวใจใคร ..
ใครที่อาจหยิบยื่นโอกาสให้เธอได้สมปรารถนา ..
ฉันได้ยิน ..
เพียงแค่ฉันไม่ใช่ใคร ..
ที่จะมอบโอกาสให้เธอได้สมตามปรารถนา
ฉันทรมานมาก ที่รัก ..
ยามได้ยินเสียงนกน้อยร่ำร้อง
และฉันทรมานมากทบเท่าทวีคูณ
ยามได้ยินเสียงร่ำร้องของเธอ
หากฉันคงทำได้เพียง ..
นั่งฟังเสียงโหยหวนนั้นเงียบๆ
หยิบยื่นผ้าเช็ดหน้า ยามน้ำตาเธอหลั่งริน
หยิบยื่นอาหาร ยามเธอหิว
ขอพรอันประเสริฐจงบังเกิดแด่เธอ
จงนำความพอสู่หัวใจเธอ
เพื่อบังเกิดความสงบสุขแห่งจิตใจเธอ
บางที ความทรมานแห่งเธอจะลดลง หากเธอวางลูกโลกจำลองที่เฝ้าแบก ..
ฉันทำได้เพียงแค่นี้ .. ที่รัก
.
13 สิงหาคม 2552 19:50 น.
keekie
บ่ายยังไม่แก่นัก กับกาแฟแก้วที่สองของวัน
ฮานามิรสดั้งเดิมถุงใหญ่ ที่กินเหลือจากคราวที่แล้ว มันถูกขุดมาจากตู้เย็นหลังจากสาหร่ายทอดหมดถุง
ความเป็นจริงก็คือ ฉันไม่ต้องการฮานามิรสดั้งเดิม แต่ฉันต้องการฮานามิรสอร่อย !
เปิดทีวี .. ละครไทยช่องเจ็ด เรื่องเก่าที่เอามาฉายใหม่
พระเอกหล่อมากๆ (ในเรื่อง) จบจากอังกฤษ พ่อแม่รวยมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
ผู้หญิงที่เคยไปอยู่อังกฤษตามกลับมาด้วย แต่พระเอกดันมาพบรักกับนางเอกสวยอย่างแรง (ในเรื่อง)
พ่อแม่รวยอีกเช่นกัน และถูกคาดหวังให้แต่งงานกัน เลยให้นางเอกไปเป็นเลขาของพระเอก
แต่ผู้หญิงที่ตามกลับมาจากอังกฤษไม่ยอม ประกาศตัวเป็นเมีย บลาๆๆๆๆๆๆ
ไม่ต้องเล่าต่อให้จบ ก็พอนึกโครงเรื่องต่อไปออกใช่มั๊ย?
นั่นล่ะ มันเป็นอย่างที่นึกนั่นล่ะ
และความเป็นจริงก็คือ ฉันไม่ต้องการละครรักหวานหรือขม
แต่ฉันต้องการดูอะไรที่มันสนุกๆ สำหรับอารมณ์ฉันตอนนี้ !
เปลี่ยนช่อง .. ข่าวการหาเสียงของนายกหญิงเยอรมัน ที่มีป้ายหาเสียงโชว์ร่องอกในชุดสีดำสุดหรู
นายกหญิงตอบคำถามของนักข่าวที่ว่า "มีเหตุผลในการหาเสียงแบบนี้อย่างไร?"
เธอตอบอย่างมั่นใจตามสโลแกนเคียงคู่ป้ายหาเสียงว่า "เรามีมากกว่าที่จะเสนอ" อูยส์
และความจริงก็คือนักธุรกิจชาวเยอรมันให้สัมภาษณ์ว่า
"ผมไม่ต้องการดูร่องอก แต่ผมอยากได้ยินนโยบายด้านเศรษฐกิจ .." อูยส์
ความจริงอีกข้อก็คือ ฉันต้องการแค่พักสายตาจากถ้อยคำสวยหรูในโครงการที่กำลังร่าง
คือ ก็รู้ล่ะนะว่าคำเหล่านั้นมันเกินจริงไปบ้างในฐานะคนร่าง
และในฐานะคนอ่านก็มองออกอย่างชัดแจ้งว่าตรงไหนทำได้ ตรงไหนทำไม่ได้
และความจริงที่ใครๆ ก็รู้อีกเช่นกันว่าในโครงการไหนๆ มันก็ต้องมีคำแบบนั้นอยู่ในโครงการทั้งนั้นล่ะ
หากต้องการให้มันเกิดขึ้นมาเป็นความจริง ที่มิใช่เป็นเพียงแค่ความฝันอยู่ในกระดาษ ..
เอ่อ .. เมื่อกี้จะพูดว่าอะไรนะ ?
อย่าว่าฉันเลยน่า ชีวิตก็แบบนี้
ต้องพูด ต้องนำเสนออะไรมากๆ เข้าไว้ คนเค้าจะได้ชมว่าพูดเก่ง นำเสนอเก่ง และน่าเชื่อว่ามันจะสำเร็จ
ซึ่งหลายครั้งที่น้ำท่วมทุ่งซะจน ลืมไปว่าปักผักบุ้งไว้ตรงไหน
เอ่อ .. เมื่อกี้ฉันจะบอกว่า แค่ต้องการพักสายตาจากงานสักพัก
เลยเปิดนั่นเปิดนี่ดู เพื่อจรรโลงใจ แต่ ..
เคยมั๊ย? ที่นอนท่าไหนก็ไม่สบาย จะคว่ำ จะหงาย จะตะแคง จะนั่ง จะยืน มันก็ไม่สบาย ไม่ใช่ท่า
น่าน .. มันเป็นแบบนั้นแหละ
.. เปิด IE พิมพ์ "www.google.co.th" แล้วในช่อง search พิมพ์คำว่า "เจริญหูเจริญตา" กด "ค้นหา"
บรรทัดแรกที่เด้งขึ้นมาคือ "เจริญหูเจริญตากันเถอะ แ-อบถ่-าย สาวกระโปรงสั้น"
อูยส์ ..
.
.
ปิดทีวี .. ปิด IE เปิดเอกสารหน้าเดิมที่ค้างไว้
ฉันไม่พักสายตาแล้วก็ได้
กินฮานามิถุงเดิม กับกาแฟที่รสชาดพอใช้ต่อไป
หลังจากสังเกตุสังกาให้ดี ความจริงที่ฉันค้นพบใหม่ก็คือ .. หน้าถุงฮานามิมันก็เขียนบอกไว้ชัดเจนแล้วนิ่นะว่า "รสดั้งเดิม"
มันไม่ได้เขียนว่า "รสอร่อย" ซักหน่อย
นี่ฉันหวังอะไรไม่เข้าท่าหรือป่าวนี่?
เฮ้อ ..
แต่ยังมีอีกวิธีนะ ที่น่าจะทำให้รู้สึกดีขึ้น
นี่งัย .. ลองเลยละกัน
v
v
18 มิถุนายน 2552 11:51 น.
keekie
17 มิถุนายน 2552 เวลา 16.34น.
ถึง .. คุณ ..
นานมากแล้วสิ ที่ฉันไม่ได้เขียนถึงคุณ .. คนที่ฉันไว้ใจ ..และคนที่เคยบอกว่า .. ไว้ใจฉัน ..
คงเพราะเผลอไว้ใจนี่ล่ะมั้ง ที่ทำให้เราต้องเจ็บปวดจนห่างหาย สมดังคำบางคำที่ฉันจำมาจากที่ไหนสักแห่ง
"คนมักทำร้ายเราด้วยความไว้วางใจของพวกเขา วิธีที่ได้ผลที่สุดในการทำร้ายคนที่คุณรัก ก็คือ มอบความไว้วางใจทั้งหมดของคุณให้แก่เขา"
คุณอาจจะยังไม่รู้ซึ้งเช่นฉัน
แต่เชื่อเถอะว่าอีกไม่นานหรอก คุณจะรู้ซึ้งว่าประโยคนั้นมันจริงยิ่งกว่าจริง
อีกไม่นาน ..
ฮะ ฮะ .. เขียนซะซีเรียสเชียว
ความจริงชีวิตมันคงไม่ซีเรียสขนาดนั้นมั้ง หัดทำอะไรแบบไม่ไว้ใจ ไม่ใส่ใจ ไม่ตั้งใจซะบ้าง
เพราะบางครั้งแม้จะด้วยความตั้งใจที่บริสุทธิ์ที่สุด
เราก็มักจะทำให้เรื่องราวเลวร้ายลงทั้งที่เราพยายามอย่างดีที่สุดที่จะทำให้มันดีขึ้น
คุณรู้มั๊ย?
สำหรับฉันแล้ว บ่อยครั้งไปที่ความปรารถนาดี กลายเป็นประสงค์ร้ายซะงั้น
เอ.. จะเล่ายังไงดีนะ?
เอาเป็นว่า ฉันยกเรื่องๆ นึงที่ฉันอ่านเจอจากในหนังสือนิยายเรื่องหนึ่งละกัน ..
"ผมหวนระลึกถึงเหตุการณ์ครั้งหนึ่งในคุก ในโลกที่อยู่ภายในโลกอีกโลก ที่แห่งนั้นผมเพิ่งย้ายเข้าไปอยู่ในห้องขังห้องใหม่ และพบหนูตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งอยู่ในนั้น
สัตว์นั่นคลานผ่านช่องลมแตกเข้ามาในห้องทุกคืน ความอดทนและความพยายามครองสตินั้น คือของมีค่า ที่เราขุดกันในอุโมงค์แห่งความเดียวดายในเรือนจำ
ผมใช้มันกับเศษอาหารเลี้ยงเจ้าหนูตัวน้อย นั้นอยู่หลายสัปดาห์ ในที่สุดก็ฝึกให้มันกินอาหารจากมือผมได้
เมื่อผู้คุมย้ายผมออกจากห้องนั้นอันเป็นการหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนตามปกติ ผมบอกผู้เข้าไปอยู่ใหม่ซึ่งเป็นนักโทษที่ผมคิดว่ารู้จักเขาดี เรื่องหนูที่ผ่านการฝึกตัวนั้น
เช้าวันรุ่งขึ้น เขาเชื้อเชิญผมไปดูเจ้าหนูตัวนั้น เขาได้จับหนูที่วางใจคนตัวนั้นไว้ และจับมันตรึงกางเขน โดยคว่ำหน้าบนกางเขนที่ทำจากไม้บรรทัดหักๆ เขาหัวเราะเมื่อเล่าให้ผมฟังว่า หนูดิ้นรนอย่างไรเมื่อเขามัดคอมันกับไม้ด้วยเส้นด้าย
เขาแปลกใจที่ต้องใช้เวลานานในการดันหมุดผ่านอุ้งตีนที่ดีดดิ้นของมัน
ผมจะพ้นผิดได้หรือในสิ่งที่ทำลงไป คำถามนั้นทำลายการหลับของผมเป็นเวลานานทีเดียวหลังจากที่เห็นเจ้าหนูที่ถูกทรมานตัวนั้น
เมื่อเราทำอะไรก็ตามที่แทรกแซงโลก แม้จะด้วยความตั้งใจที่ดีที่สุด เรามักจะเสี่ยงต่อภัยพิบัติใหม่ๆ ที่อาจจะไม่ใช่การกระทำของเรา
แต่มันก็เกิดขึ้นโดยไม่ปราศจากความเกี่ยวพันกับการกระทำของเรา
คาร์ลาเคยพูดว่า ความผิดที่ร้ายแรงที่สุดบางอย่าง เกิดขึ้นโดยคนที่พยายามจะไปเปลี่ยนแปลงในสิ่งต่างๆ"
หมายเหตุ : ข้อความด้านบน คัดลอกมาจาก ศานตาราม ของ เกรกอรี่ เดวิด โรเบิร์ตส์
ช่างเปิดโลกทัศน์แห่งความปรารถดีได้ยอดเยี่ยมจริงๆ
ถ้าวันหนึ่ง ..
วันนั้น .. มาถึง
คุณจะคิดมั๊ยนะ
ว่ามันเป็นด้วยความปรารถนาดีของฉัน?
ฮะ ฮะ .. เขียนซะซีเรียสอีกแล้ว
ฉันสบายดีค่ะ กินอิ่ม นอนหลับ แค่นี้ก็สุขสุดๆ แล้วมิใช่หรือ
แล้วคุณล่ะ?
ยังตามหาความฝัน และนิยามแห่งความรักอยู่อีกหรือป่าว?
หรือว่าพบแล้ว
ฉันน่ะหรือ?
ก็เคยบอกไปแล้วไงว่า ความฝันของฉันมันถูกฝังกลบไปแล้ว หรืออย่างน้อยฉันก็พยายามฝังกลบมันอยู่
ส่วนนิยามแห่งความรักของฉันนั้น ฉันเลิกค้นหามันไปนานแล้ว
ตั้งแต่ ..ความรัก.. จากไป
สุดท้ายนี้ ฉันหวังเสมอว่าคุณจะค้นพบความฝันที่เฝ้าค้นหา
และได้เข้าใจว่า นิยามแห่งความรักของคุณคืออะไร
ฉันหวัง
เอาล่ะ ฉันเขียนถึงคุณเพื่อให้คุณรู้ว่า ฉันยังอยู่ เท่านั้น
และคุณคงได้รู้แล้วว่าฉันยังอยู่
ระลึกถึงคุณเสมอ
จาก .. ฉัน ..
So kiss me and smile for me,
Tell me that you'll wait for me,
Hold me like you never let me go.
'Cause I'm leaving on a jet plane,
Don't know when I'll be back again.
Oh babe, I hate to go.
17 พฤศจิกายน 2551 12:04 น.
keekie
.
.
คุณรู้จักกรุงทอง 85 มั๊ย?
เด็กสมัยใหม่ คงส่ายหัวไม่รู้จัก
แต่ถ้าถามคนแก่ๆ หน่อย แล้วเคยดูตลกสมัยก่อน รุ่นเด่น ดอกประดู่, เด๋อ ดอกสะเดา, เทพ โพธิ์งาม
ที่มักปล่อยมุกถามคนขายล็อตตะรี่ว่า "พี่ๆ มี 85 มั๊ย?" พอคนขายตอบว่า "มี" มันก็บอกว่า "โอเช 85 ซอง" แค่นี้ก็ขำกันขี้แตก ขี้แตน ไปสามวันเจ็ดวัน
หรือถ้าคนชอบยลบั้นท้ายสิบล้อเก่าๆ สมัยก่อน ก็จะเห็นคำขวัญอันดับสอง "ขาดน้องพี่ไม่ว่า ขาดแปดห้าพี่ลงแดง"
ที่แปะรองจากคำขวัญอันดับหนึ่ง "คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็น .. ตุ๊ด"
เด็กสมัยใหม่นี่ก็คงไม่เคยเห็นอีกล่ะสิ เพราะรถสิบล้อสมัยนี้มีแต่ใหม่ๆ ซิงๆ ถอดด้าม สติ๊กเกอร์ท้ายรถเป็นเวปไซด์ข่าวคาวสมัยใหม่ เกี่ยวกับคลิปหลุดจากค่ายต่างๆ
ซึ่งมันคงเร้าอารมณ์ไม่เท่าสิบล้อเก่าๆ สมัยก่อน เพราะสิบล้อสมัยนี้ไม่มีคำขวัญแปะบั้นท้ายว่า "ห้าม! เสยตูด..ก่อนได้รับอนุญาต"
เฮ้อ!!! "ตอนนี้หลงทาง จะขับตามทำไม?"
กลับมาเรื่องกรุงทอง 85 ต่อ
คงสงสัยล่ะสิ ว่าไอ้บุหรี่ซองเก่าๆ นั่น มันเกี่ยวอะไรกะสลีปปิ้งบิวตี้
ดิฉันรู้จักมันก็เพราะตอนเป็นเด็กสี่ซ้าห้าขวบ ชอบไปเกะกะป้วนเปี้ยนอยู่แถววงเหล้า ซึ่งส่วนใหญ่กลางวงจะมี แม่โขง 1 แบน หรือ แสงโสม 1 แบน
ประหยัดๆ หน่อยก็ หงส์ทองสักกั๊ก ไอ้เหล้ากลมไม่ค่อยได้เห็น คงเพราะคนในวงเหล้า มันบ่จี๊จะซื้อ
ที่น่าแปลกใจก็คือ ตะละคนคอระดับทองแดงในกระทะยังทำอะไรไม่ได้ แต่ทำไมเหล้าแบนเดียวกระดกกันทั้งวง (4 - 5 คน) ยังเมาจนทะเลาะชกต่อยกันได้
ดิฉันงงเหมือนกัน และยิ่งงงขึ้นไปอีก ที่พอเมื่อตื่นมา สร่าง ก็คุยกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เด็กหญิงสี่ห้าขวบเข้าไปถามด้วยความสงสัย
คำตอบเดียวที่ได้รับจากทุกคนคือ "อ้าวหรอ? จำไม่ได้"
ซะงั้น ..
เป็นอันว่า หงส์ทองแบนเดียวสามารถกระชับสัมพันธไมตรีกันได้เหนียวแน่นซะยิ่งกว่า "โคแนก" (COGNAC) ซักขวดซะอีก
ทำมัย ไม่มีใครลองเอาหงส์ทองซักแบนไปนั่งถองอยู่แถวๆ ที่เค้าชุมนุมประท้วงกันมั่ง ตอนแรกอาจเรียกมาชนแก้วกันลำบากหน่อย
แต่พอกระดกได้ซักแก้วสองแก้ว จะเสื้อเหลือง เสื้อแดง เดี๋ยวก็นั่งเข่าเกยกันไม่รู้เรื่อง จะตบจะตี จะทะเลาะกันก็ช่างหัวมัน ปล่อยมันไป
เพราะเดี๋ยวพอสร่าง ตื่นมามันก็บอกเองล่ะ ว่า "อ้าวหรอ? จำไม่ได้"
ถ้าเหล้าแบนเดียว ทำให้หายเสียวกันทั้งเมืองได้แบบนั้น ก็คงดี
เอ๊ะ! ทำมัยยังขับตามกันมาอยู่ได้ ก็บอกแล้วว่าหลงทาง !
กรุงทอง 85 ทำให้เด็กหญิงสี่ห้าขวบคนนั้น ที่วิ่งเล่นอยู่ข้างวงเหล้าจำมันได้แม่น เพราะมักถูกใช้ให้วิ่งไปซื้อเป็นประจำ
จนคนขายจำได้ หยิบส่งให้เมื่อเห็นหน้า โดยไม่ต้องบอกต้องกล่าว
เด็กหญิงถือซองบุหรี่สีขาว ตัวหนังสือ GOLD CITY และใต้รูปสิ่งก่อสร้างอันศิวิไลซ์ มีตัวหนังสือเขียนว่า
CIGARETTES
THAILAND TOBACCO MONOPOLY
ดิฉันเห็นคนในวงเหล้าสูบมันได้สูบมันดี คงเพราะไม่มีคำขวัญแปะอยู่ท้ายซอง "บุหรี่ทำให้สมรรถภาพทางเพศเสื่อม"
เด็กหญิงสี่ห้าขวบคนนั้นเติบโตขึ้นมาพร้อมกับมัน กลิ่นของมัน รูปลักษณ์ของมัน จนเข้าใจมุกตลกที่ดูใน ST video และอ่านคำขวัญท้ายสิบล้อเข้าใจ
รูปร่างควันเป็นยังไง วิธีการแกะซองบุหรี่แบบเก๋า (เจ้ง) วิธีการจุดบุหรี่ ดูป๊อง ป๊อง พยานาก วิธีการเอาตัวรอดเมื่อบุหรี่หมด
ก็แบบว่า .. นะ ลูกผู้ชายขอกัน .. จนเสมือนประหนึ่งว่า ดิฉันสูบซะเอง
วงเหล้าวงนั้นยังคงอยู่ แม้ว่าสมาชิกในวงจะผลัดเปลี่ยนหน้าค่าตาไปบ้าง
คนนั้นเข้าโรงพยาบาล ต้องเจาะคอ ต่อท่อ หายใจ
สมาชิกในวงเดียวกันก็ผลัดกันไปเยี่ยมเยียน แล้วมานั่งสนทนาบอกกล่าวความน่าสงสารกันในวงเหล้าวงเดิม
หงส์ทองยี่ห้อเดิม แต่อาจเปลี่ยนขนาดกันไปบ้าง จากแบนเป็นกลม ด้วยเพราะตังค์ในกระเป๋ามันมากขึ้นตามอายุ
แม้เด็กหญิงสี่ห้าขวบคนนั้นที่บัดนี้เติบโตพอจะทำมาหาเงินได้แล้ว
จะเคยหิ้วรีเจนซี่มาฝาก เพราะเห็นใครเคยสรรเสริญว่า รสมันนุ่ม แต่คนในวงเหล้าบอกคำเดียวสั้นๆ ว่า "อ่อน"
หงส์ทองเลยครองใจพี่น้องกันต่อไป เช่นเดียวกับ กรุงทอง 85 ที่แม้แต่มาโบโร่ จะดำ แดง เขียว ขาว ก็เบียดมันไม่ลง
ดูดไป ดื่มไป พร้อมคำบ่นว่า น่าสงสารสมาชิกคนนั้น ที่ต้องเจาะคอ เมื่อไหร่จะหาย มาก๊งกันได้อีก
รอบต่อไป ก็คนที่บอกว่าสงสารนั่นล่ะ ที่เป็นคนเข้าไปนอนในโรงพยาบาล เกี้ยวพยาบาลคนสวยตอนหมอเจาะคอให้มั่ง
เลยรู้รสว่า ความจริงแล้ว การนอนบนเตียงในโรงพยาบาลมันก็ใช่ว่าจะไม่น่ารื่นรมย์ซะทีเดียว
มีสิ่งจรรโลงโลก มากกว่า นอนอยู่บนเตียงที่บ้านซะอีก พอออกมาได้ ก็มาบอกกล่าวพี่น้องในวง ตอนนั่งดูด และดื่มกันต่อ
คงเป็นเพราะงี้ล่ะมั้ง ที่ทำให้สมาชิกคนอื่นที่ยังไม่เคย ผลัดกันเข้าไปนอนเจาะคอในโรงพะบาล จนครบถ้วนกันทุกคน
และนำมาเป็นหัวข้อสนทนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันในวงเหล้า ตอนก๊งกันพร้อมหน้าพร้อมตา
เด็กหญิงคนนั้น อ้อ .. คงต้องบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นแล้วสินะ
ผู้หญิงคนนั้นได้แต่มองด้วยสายตาที่เป็นห่วง เพราะรู้ว่า คำเตือน ใช้ไม่ได้ผล
มองตั้งแต่วันนั้น จนวันนี้
วงเหล้าวงเดิมยังอยู่ ..
หงส์ทองจากแบนเป็นกลม เหมือนเดิม
แต่มีสามสิ่งที่ขาดหายไป
หนึ่ง กรุงทอง 85 ที่สมาชิกในวงทั้งหมด ดูดไม่ไหวแล้ว หรืออาจเป็นเพราะ ไม่เคยเห็นมันในตู้กระจกขายบุหรี่มานานแล้ว ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ในเซเว่นจะมีขายหรือป่าว ความจริง ไม่ว่าจะยี่ห้ออะไร จะ mild จะ blend ก็คงไม่ไหว เพราะต้องเจาะคอกันครบถ้วน
สอง สมาชิกคนหนึ่งในวง ที่กำลังนอนอยู่ที่โรงพะบาล เตรียมตัวบายพาส เส้นเลือดหัวใจสองสามเส้น ที่ตีบตันจากสารนิโคตินอันสะสมเกือบสี่สิบปี
พร้อมกับฝังไมโครชิพบนกล้ามเนื้อหัวใจ เนื่องจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเกือบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ และไหนๆ ก็บายพาสแล้ว เลยถือโอกาสศัลยกรรมตกแต่งซะ
เนื่องจาก กล้ามเนื้อหัวใจส่วนที่ตายนั้นกลายเป็นผังผืด อันเป็นที่สะสมของเลือดที่ไปคั่งค้างอยู่ที่นั่น จนเป็นลิ่มเลือด ซึ่งอันตรายเหลือเกินกับการที่
วันร้ายคืนร้าย ลิ่มเลือดนั้นจะร่วงหล่นอย่างไร้ทิศทาง ด้วยเหตุร้อยแปดพันเก้า จนไปอุดตันเส้นเลือดอื่นๆ อันเป็นเหตุให้เกิดอัมพฤกษ์อัมพาต
สาม เด็กหญิงคนนั้น อ้อ ต้องบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นแล้วสินะ
ผู้หญิงคนนั้น ตัวประกอบที่ขาดหายไป เพราะต้องตื่นจากการหลับไหลอันยาวนาน ลุกขึ้นมาปฏิบัติการกวาดเงินทุกกอง เพื่อสิ่งที่ขาดหายไปในข้อสอง
เคยดูการ์ตูนนะ
สลิปปิ้งบิวตี้ ที่รอเจ้าชาย มาจูบปาก แล้วเจ้าหญิงจะฟื้นขึ้นมา แต่งงาน อยู่อย่างมีความสุขกับเจ้าชายตลอดไป
กรุงทอง 85 มาจูปปาก ปิ้วๆ ตะโกนคำขวัญท้ายรถสิบล้อเย้วๆๆๆ "เมาเหล้าเสียหลัก เมารักเสียใจ" ดิฉันก็ไม่สน
มันก็เอาใหม่ "รักแท้คือการเสียสละ รักอมตะคือรักเขาข้างเดียว" ดิฉันเลยแหวะ บอกคำเดียวสั้นๆ "ลิเก!!"
มันก็ไม่ยอมแพ้ บอกอีก "ยามกินพี่จะป้อน ยามนอนพี่จะปล้ำ" คราวนี้ ดิฉันเลยยืมอวัยวะเพศของคนข้างๆ ส่งให้มัน (ก็ดิฉันไม่มีนี่)
ไอ้กรุงทอง 85 นั่น มันเลยหุบปาก จ๋อยแดก หายแซ้บไป
ปล่อยให้ดิฉัน นั่งนึกถึงคำขวัญท้ายรถสิบล้อสมัยก่อนอยู่แบบนี้เหอะ อย่ามายุ่งกับดิฉันเลย ไอ้กรุงทอง 85 !!!
หญิงหนึ่งในดวงใจ หญิงทั่วไปคือกำไรชีวิต
ชายแรกเป็นความรู้ ชายชู้เป็นประสบการณ์
รักน้องจริงยิ่งกว่าลิงรักกล้วย
หรือบางที ท้ายรถมีร่า ก็แอบมอง "กรุณาอย่ายกเล่น!"
กับเบนซ์ Sport SLK ยังมีติด "ขโมยเศษตังค์แม่มาซื้อ .. "
เออ .. ก็เพลินๆ ดีเหมือนกันแฮะ
"ขับเร็วเพราะเมาม้า ขับช้าเพราะมองเธอ"