23 กันยายน 2547 21:10 น.
keekie
.....อย่ายึดถือ สัญญาคนรักกัน
เป็นแค่คำในค่ำของคืนหนึ่ง
ที่ดวงใจสองดวงต่างร้อยรึง
ในยามรักงามซึ้งถึงดวงใจ
คิดถึงเธอคนหนึ่งคิดถึงมาก
แม้กายจากกันไกลสักแค่ไหน
ความคิดถึงยังเวียนวนอยู่ต่อไป
ยังงดงามทั่วใจทุกเรื่องราว
คืนที่ฝันทุกฝันช่างอำไพ
เต็มทั่วทั้งห้องใจหทัยผ่าว
หนาวก็อุ่นกรุ่นกับรักที่พร่างพราว
ในคืนที่มีดวงดาวในดวงตา
ยังคิดถึงแย้มยิ้มกับแก้มยั่ว
เจ้าที่งามถ้วนทั่วเป็นนักหนา
เสียงกระซิบที่ปลุกปลอบทรมา
มือที่ไล้ลูบหน้าน้ำตาชาย
คิดถึงเจ้าเข้าถึงดวงใจแล้ว
ยามรักแคล้วคลาดดั่งมิคิดหมาย
น้ำตาไหลเย็นเยียบเฉียบเนื้อกาย
ได้แต่เขียนคำร้อยรายเป็นบทกลอน
คืนนี้หนาวร้าวแค่ไหนดวงใจพี่
เจ้าจะมีใครเรียงนอนเคียงหมอน
ใครจะปลอบปลุกใจก่อนเจ้านอน
มือใครจะอาทรยามเจ้ากลัว
ถ้างานหนักพักหน่อยนะคนดี
ขอความปรารถนาดี ทุกถ้วนทั่ว
บันดาลให้เจ้าอย่ามีวันหม่นมัว
ถึงห่างตัวพี่ไม่เคยห่างใจ
...สัญญาที่เคยให้ยังยึดถือ
เพราะเธอคือคนเดียวมิหวั่นไหว
ไม่ได้ครองเนื้อกายไม่เป็นไร
เพียงได้รักเจ้าต่อไปเท่านั้นพอ
.....คำสัญญา ของเรา ค่ำคืนนั้น
ใจสองดวง ร่วมสร้างฝัน มากความหมาย
ฉันและเธอ เคยอิงแอบ แนบชิดกาย
ดาวพร่างพราย รายล้อม กล่อมสองเรา
แม้กายหนาว ราวร้าวเหน็บ เจ็บเหลือแสน
อบอุ่นแม้น เพียงเธอข้าง ร้างความเหงา
เสียงใจเต้น เป็นจังหวะ ผะแผ่วเบา
ทั้งสองเรา อยู่เป็นเงา กันและกัน
อกกว้างอุ่น กรุ่นเย้า เว้าวอนหา
สองดวงตา แสนเศร้า เคล้าชวนฝัน
เสียงกระซิบ พริ้วแผ่ว แว่วสู่กรรณ
พาใจฉัน ฝันถึงเธอ เพ้อร่ำไป
คืนนี้หนาว ดุจราว ค่ำคืนนั้น
ใจหวาดหวั่น สั่นสะท้าน พาลร้องไห้
โอ้ละหนอ ความอบอุ่น เจ้าร้างไกล
ไยดวงใจ ให้พลัดพราก จากห่างจร
ฉันรำพึง คิดถึงเธอ เพ้อเดียวดาย
น้ำตาราย พรายพร่าง ต่างต้องหมอน
เคยมีเธอ อิงแอบ แนบซุกนอน
มาวันนี้ ไร้อาทร เมื่อร้อนใจ
คืนนี้เจ้า เหงาแค่ไหน ดวงใจฉัน
มีไหมใคร ช่วยแบ่งปัน ยามร้องไห้
มีไหมใคร จะปลุกปลอบ ยอดดวงใจ
แสนอาลัย ห่วงหา คราห่างกัน
คำสัญญา ที่เคยให้ ยังยึดถือ
น้ำคำคือ คำสาบาน สานคงมั่น
รอเวลา คราเราสอง ต้องพบกัน
ความผูกพัน ย้ำสองใจ ในสัญญา.....
22 กันยายน 2547 01:28 น.
keekie
มีบางสิ่งบางอย่างอยากจะบอก
ด้วยดวงใจที่ช้ำชอกหมดความหวัง
ความรักจากฉันคนนี้มั่นคงจีรัง
แต่ไม่หวังเหนี่ยวรั้งเธอให้กลับมา
ฉันมักมีเหตุผลกับทุกสิ่ง
เป็นผู้หญิงมั่นใจตัวเองหนักหนา
เก็บงำคำรักไว้ในเบื้องลึกของอุรา
แอบซ่อนมันตลอดมาไม่พูดเลย.....
เธอเคยถามว่ารักกันบ้างไหม
ขอให้ฉันเผยความนัยเอ่ยเฉลย
แค่อยากให้ฉันบอกด้วยความรู้สึกคุ้นเคย
ว่าเราจะลงเอยด้วยการเป็นคนของหัวใจ
มันยากสำหรับฉันที่จะตอบ
ความรู้สึกผิดชอบยับยั้งฉันไว้
เราไม่สามารถเป็นคนคุ้นเคยของหัวใจ
เพราะไม่อาจผลักไสคนใกล้ใจเธอ
สุดท้าย...........
ผลของการมีเหตุผลให้กับทุกสิ่ง
คือผู้หญิงอย่างฉันไม่อาจหวั่นไหว
และไม่อาจทำตามความต้องการของหัวใจ
ต้องปล่อยให้เธอจากไปและเข้าใจว่า...ไม่...รัก...กัน...
21 กันยายน 2547 21:17 น.
keekie
น่าชื่นชม พ่อคุณ พ่อทูนหัว
ละงานครัว มัวมานั่ง ใจคว่ำหงาย
ร่ายเวทมนต์ เสกคาถา น้ำมันพราย
แล้วแปลงกาย เป็นขุนแผน มาดแมนจริง
ออกเดินทาง ผจญภัย ในป่ากว้าง
กลบเคว้งคว้าง เวิ้งว้างใจ หาใกล้หญิง
พบสาวงาม ไม่งาม ตามเป็นลิง
วิ่งล้มกลิ้ง เพื่อชิง เหล่าหญิงงาม
มีทะเล กว้างใหญ่ ไม่ไหวหวั่น
ขุนแผนท่าน เจ้าปัญญา หาเกรงขาม
ทอดสะพาน ข้ามลิ่ว หลิ่วตาตาม
แวววาบหวาม คร้ามใจเหลือ เกลือหายเค็ม
ข้ามฟากได้ หมายไว้ เรือนไทยสวย
สาวระรวย สวยสคราญ ท่านมองเห็น
รีบจ้ำอ้าว ก้าวไว ใจไม่เย็น
แอบแฝงเร้น เข้าเรือนไทย ใจสั่นรัว
เหล่าสาวงาม ตามเรือน สะเทือนไหว
ผู้เกรียงไกร ไปเยี่ยม เยียนถ้วนทั่ว
น้องงามตา กัลยา ต่างหวาดกลัว
ไม่ตามัว หลงรูป พ่อขุนแปลง
นักรบหญิง แห่งเรือนไทย ใจมาดมั่น
มิหวาดหวั่น พรั่นพรึง สิ่งแอบแฝง
ออกสนาม ตามพ่อขุน รุ่นจำแลง
คาถาแปลง แซงแทรก แหลกสลาย
ผู้ยิ่งใหญ่ กลายกลับ ลับสู่ครัว
นั่งตามัว ขรัวขลุก ปลุกใจหาย
ท่านขุนแผน สำแดงเดช เวทย์กลับกลาย
เป็นผู้ชาย หมายมุ่ง ยุ่งเรื่องครัว...
....................................................................................
...หญิงเรือนไทย......มิต้องกลัว.....นักรบหญิง......มาแล้วจ้า...
..................มาปราบอธรรมอ่ะ...................
.............................................................................................
19 กันยายน 2547 14:27 น.
keekie
ในทุกครั้ง ที่มีเธอ อยู่เคียงข้าง
เธอคอยสร้าง ความสุข แก่ใจฉัน
เธอมอบความ ห่วงใย ให้แก่กัน
ทำให้ฉัน หายหวั่นไหว ไร้น้ำตา
ยามฉันมี ทุกข์ในใจ ไม่เคยเอ่ย
มิเคยเผย เฉลยใจ ที่อ่อนล้า
แสร้งทำเป็น เข้มแข็ง และเย็นชา
เพื่อเพิ่มค่า ความแข็ง แกร่งข้างใน
ฉันคนนี้ ได้รู้สึก สำนึกว่า
ฉันมีค่า เพราะมีเธอ คอยถามไถ่
คอยใกล้ชิด อยู่ดูแล ห้องหัวใจ
เหนื่อยบ้างไหม คอยห่วงใย ในฤดี
มาวันนี้ มีความแปลก แทรกในจิต
มิได้คิด จะตีจาก พรากหลบหนี
เพียงหัวใจ เกิดสับสน ขึ้นทุกที
อยากจะมี เวลา ค้นหาใจ
ให้ใจฉัน ได้ตระหนัก พักเพื่อคิด
ว่าชีวิต จะมีเธอ ในแบบไหน
เพื่อให้เธอ ได้ค้น หาหัวใจ
ว่าทำไม ไยเธอ คอยห่วงกัน
ไม่อยากให้ ระหว่างเรา เป็นเรื่องเศร้า
เกิดความเหงา เมื่อไม่มี เธอและฉัน
ไม่อยากให้ เข้าใจผิด ระหว่างกัน
อยากกระชับ ความสัมพันธ์ มั่นฤดี
วอนคนดี ต่อแต่นี้ ขอได้ไหม
ขอถอยใจ ไปตั้งหลัก สักนาที
ค้นหาใจ ของสองเรา ให้ถ้วนถี่
ว่าเป็นพี่ หรือเป็นน้อง ตรึกตรองกัน...
19 กันยายน 2547 03:53 น.
keekie
จะเหงาไหม หากวันไหน ที่ไร้ฉัน
ไร้คนนั้น พูดพร่ำ ค่าคำหวาน
คิดถึงไหม ใครงอแง แต่เมื่อวาน
ใครคนนั้น คอยดูแล ใช่แค่กาย
เพียรเล่าเรื่อง หลายหลาย ให้ลืมทุกข์
เรื่องสนุก สรรหา มาให้หาย
ให้ลืมความ เปล่าเปลี่ยว ยามเดียวดาย
ช่วยมาคลาย สลายเรื่อง ที่เคืองใจ
แล้วทำไม วันนี้ คิดตีจาก
หรือเพราะฝาก ความฝัน กันไม่ได้
หรือเพราะแค่ รักยาก จึงจากไป
แค่ทำไม อย่าหลอก โปรดบอกกัน
หรือมีเรื่อง ขัดข้อง ในห้องจิต
ใจจึงคิด ลบเลือน คนเตือนฝัน
เพราะเหตุใด หัวใจ ไม่มีฉัน
ใครคนนั้น สร้างฝันใหม่ ในใจเธอ
เขาคงเพ้อ คำหวาน ซ่านกว่าฉัน
ทุกคืนวัน เอาใจ ไม่ให้เก้อ
ไม่ปล่อยให้ หลงวัน ฝันละเมอ
หัวใจเธอ ไหวหวั่น แปรผันไป
หรือว่าฉัน คิดมาก หลากอารมณ์
เคยภิรมย์ สมจิต คิดทำไม
หรือเธอกลัว ความฝัน หวาดหทัย
กลัวหัวใจ โหยหา คราไม่มี
กลัวข้ามเส้น ขีดแบ่ง แสร้งว่าเพื่อน
กลัวลืมเลือน ยามใกล้ชิด สนิทฤดี
กลัวจะเคว้ง ลอยคว้าง ยามไม่มี
กลัวชีวี จะวาย เมื่อไร้กัน