10 มีนาคม 2547 18:04 น.
kOrOkOsO
นาง แมวสวาท
๑ ขาวละมุนหุ่นห้อง สำอาง
ผิวนุ่มเนียนนวลนาง นิ่มน้อง
อกอวบอิ่มมะปราง สุกผ่อง ยองใย
จักน่ากินตาต้อง หื่นผู้เทียวยล
๑ หากพบสบเนตรแม้น นางใด
หลงลุ่มหลงปานไหน กว่าหั้น
ผิดถูกบ่คิดไกล เมามั่ว เมามัน
สำนึกชั่วดีขั้น ป่องท้องยางอาย
๑ เปรียบขนฟูฟ่องฟ้า อวดโฉม
เดินส่ายสะโพกโจม จู่จ้อง
กระโดดขบกัดโรม รันร่อน ห่อนสู้
เขี้ยวแยกยิงฟันป้อง ลูกน้อยกลอยใจ
๑ นางแมวสวาทค้อน ขึงตา
ระแวดระวังกา กกไว้
หวงหึงห่วงลูกยา ละอ่อน ซ่อนใน
เกาะกกปกรักษ์ใกล้ แม่แม้นหมายห่าง
10 มีนาคม 2547 17:58 น.
kOrOkOsO
กลิ่นไรผม
ราชาวดีพุ่มโปร่งโรงหลังคา
รสสุคนธ์ผกาเลื้อยไต่เลื้อยพัน
ใบเขียวเรียวไข่ไม่สากหลากพรรณ
สองสายพันธ์เถือกเถาเหลือกเหล่ากอ
กลิ่นเจ้าหอมอ่อนอ่อนผ่อนใจยิ่ง
ชวนสะอิ้งจวบทิ้งเจ้าเคล้าคลอ
นั่งนั่งนอนทิ้งงานรุมเร้ารอ
เคลียคอสอชมลั่นทมห่มดล
โมกทิวาราตรีจำปีสาว
ไข่ดาวขาวเหลืองเอื้องสกนธ์
มะลุลีสีเสียดเหนือเบื่อแอ่งชล
พิกุลทนมลเยาว์มาลย์ธารพงไพร
เกาะรั้วพวงสีแสดชอบแดดจัด
ห่างติดคัดเค้าหอมโชยโรยไกล
กลิ่นฟุ้งขจรขจายค่ำคืนวันไป
รื่นชื่นใจเหมือนกลิ่นไรผมนาง
5 มีนาคม 2547 17:02 น.
kOrOkOsO
ผาแดง
ผาแดงแกร่งแฝงชื่อระบือนาม
ระฟ้าขี่ม้าข้ามสามหมอกเถิน
เห็นหญ้าแพรกแทรกสนยลย่องเพลิน
สะดุดเดินท่องหลงพงดงดาน
พักดักจับอุสาทาเกลือย่าง
ถือไหเหล้าข้างเตาไฟอุกลาลาน
ไหม้เกรียมกรอบขอดขอบแทะแกะทาน
จวบตะวันผ่านม่านลาสานแสงทอง
พอค่ำคืนดื่นด่ำยืนมองนภา
แหวกหว่างกลางแขนขาเมฆหมอกย่อง
หยักโยกย้ายส่ายเอวร่อนลอยล่อง
ขยับเคลื่อนละออผ่องสองตาชม
คนคู่ดูละม้ายคล้ายทางช้างเผือก
ฟ้าโปร่งเลือกมองจ้องดาวห่อห่ม
แสงระยิบกระพริบจิบชาข่ม
ลอยกลางหาวกลางลมหน้าคมเหมือน
โอ้เจ้าดาวนวลขาวราวสาวใหม่
แตกเนื้อสาวใยราวละอ่อนขวบเดือน
ก้มลุกคลานขยับแข้งขยับขาคอยเคลื่อน
มองแล้วเตือนให้คิดถึงวันเก่าเก่า
เคยสุขเคยกล่อมร้องเพลงเคลียคลอ
จมูกซุกซอกคอต่อกระซิบเบาเบา
คิ้วยักษ์ทักลูกผูกใจใฝ่เข้า
หมั่นคอยเฝ้าใกล้เยื่อใยไม่ห่าง
บัดนี้ร้างต่างไกลใจเหลือทน
หากมีมนต์จะขอต่อฟ้ากว้าง
ให้จันทร์รีบเลื่อนแรมเคลื่อนคล้อยย่าง
พ่อแขนกางโอบดาวเหมือนโอบเจ้าเชย.
12 กุมภาพันธ์ 2547 18:51 น.
kOrOkOsO
จงกล
.๑ บัวสายบัวฉ่ำน้ำ ชลาศัย
บัวคลี่สะคราญใบ ต่างล้ม
บัวฝรั่งหนามไร้ ดอกเดี่ยว แลดม
บัวผันบัวสวรรค์ห่ม ห่อซ้อนกลิ่นคล้าย
.๑ จงกลอาบกลิ่นเร้า ชโลมใจ
ชูช่อซกเหนือไห อ่างแก้ว
กลีบฟูฟ่องลอยไส เสือกส่อง เลียเงา
ฉายผ่องฉาบผุดแผ่ว คลี่ทึ้งกลีบเรียง
.๑ หอมตลบอบสร้อย เทียมนาง
หอมกลิ่นกลกลิ่นสาง ห่างไซร้
หอมนวลนุ่มเนื้อด่าง สรงร่ำ ทับทิม
หอมแต่งปรุงกมุทไร้ ซ่อนไว้ในมน
.๑ เปรียบบัวสระแห่งน้ำ ลอยออ
แผกต่างสวะสอ เด่นล้วน
ระดาษดื่นตื่นกอ จอดท่อง ธารา
นองเน่าเต็มถี่ถ้วน ดั่งขี้คละคลุ้ง
.๑ บัวกุดเก่าเน่าทิ้ง เพียงมอง
หากเพ่งเล็งแลตรอง บ่มหล้า
ดีหอนเห่าบ่ร้อง เขม็งส่อง กัดตอบ
ดีห่มในมนอ้า เบิ่งฟ้าอวดใย
9 กุมภาพันธ์ 2547 15:55 น.
kOrOkOsO
...นางใหม่...
๑ จักเด็ดดมกลิ่นแก้ว อรชร
หอมหื่นชื่นเกสร ร่อนเล้า
จักกายยั่วออนซอน แรมรี่ ซ่อนซุก
นางไล่ผลักคลอเย้า พี่เคล้าเคลียคลอ
๑ พิศนวลนางเพริศแพร้ว เทียบนา
งามเงื่อนอับสรคว้า จึ่งได้
เรียมสงวนพระกัลยา สงวนยิ่ง ตัวท่าน
ยากค่อยยากจักใคร่ สวาทข้อนรสถั่น
๑ เทียมเทียบนางเก่าก่อน แลเห็น
เมืองเปลี่ยนกระพือเต้น เล่นร้อง
แปลกรับใหม่เหมือนเซ่น ส่งส่วย ธรรมเนียม
ผิดถ่องถูกตริตรอง อย่าให้ไททาส
๑ นางใหม่จิตแผ่วพ้อง พิศุทธิ์
จากย่าเพียรเขียนรุทธ์ กั้นห้าม
สอนห่มบ่มแรมรุจ ยันบ่ ลืมกล
บอกเล่าลูกหลานยาม ร่างใกล้วัยใสซน
๑ ถนอมเนื้อนวลค่าล้ำ ใดใด
ประหนึ่งเพชรยองใย ทั่วหล้า
เลอเลิศกว่าใครใคร คำเฒ่า เยินยอ
ผุดผ่องทองเหล็กกล้า ธารานี้เจ้าครอง.