8 กันยายน 2552 09:43 น.
JK_katedee
คนไทยแทบทุกคน คงไม่มีใครไม่รู้จัก ..ควาย.. หรือไอ้ทุย เพื่อนยากที่อยู่คู่มากับกระดูกสันหลังของชาติ อย่างชาวนา ฉันเอง เกิดและเติบโตมาในสังคมชนบท หรือที่หลายคนเรียกว่า บ้านนอก และเป็นครอบครัวของชาวนาครอบครัวหนึ่ง ......ควายเป็นสัตว์เลี้ยงที่มีบุญคุณกับเรา ชาวนาไทยมานาน หลายชั่วอายุคน
นับตั้งแต่ลืมตาขึ้นมา เติบโต และจำความได้ ฉันมองเห็น ควายอยู่ในทุกๆแห่งและได้เห็นประโยชน์ของมันในทุกๆที่ เริ่มตั้งแต่การเดินทางออกจากบ้าน ฉันยังจำได้ว่า ....พ่อให้ไอ้แดง ควายถึกของเราเทียมเกวียนลากสัมภาระออกเดินทางไปยังที่นาของเรา ที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน มันใช้งานได้ดีและแบ่งเบาภาระการแบกขนสิ่งของต่างๆ เช่น ปุ๋ยคอกสำหรับผัก และข้าว ซึ่งปุ๋ยคอกเองก็ได้มาควาย นอกจากนั้นฉันและพี่ชายยังได้อานิสงค์ไม่ต้องเดินให้เหนื่อย อาศัยนั่งเกวียนตามพ่อกับแม่ไปยังนาแปลงน้อยของเราด้วย
เมื่อเราเดินทางมาถึง พ่อปล่อยให้มันและเล็มหญ้าก่อน ที่จะเริ่มทำงาน งานของ
ไอ้แดง คือการช่วยพ่อลากคันไถ ไถพรวนดินในนาของเรา นอกจากเพื่อปลูกข้าวแล้วยังเพื่อการเกษตรอย่างอื่นด้วย อาทิเช่น อ้อย ปอ และพืชผักอื่นๆที่พ่อและแม่อยากปลูกในแต่ละปี
เมื่องานของไอ้แดงแล้วเสร็จนั้นแหละ เราถึงได้เริ่มลงมือปักดำตามขั้นตอน หลังสิ้นฤดูปักดำ และย่างเข้าฤดูเก็บเกี่ยวในเดือนพฤศจิกายน พ่อใช้มูลของควายที่ยังสดและใหม่อยู่ผสมกับน้ำทาลานดิน ไว้สำหรับข้าวเปลือกที่เก็บเกี่ยวแล้วพร้อมที่จะ ตี ฟาด หรือ สี ในปัจจุบัน ฉันสงสัยว่า ทำไมต้องใช้ขี้ควาย เพราะในสมัยนี้คนนิยมการใช้ผ้าตาข่ายไนลอน พ่อกับแม่บอกว่า ขี้ควาย หรือมูลของควาย เมื่อแห้งแล้วจะเกาะตัวเหนี่ยวแน่น ราวกับเทคอนกรีต แต่มีประโยชน์มากกว่านอกจากไม่สิ้นเปลื้องเงินทอง แล้วยังได้ประโยชน์เป็นปุ๋ยให้หน้าดินได้อีก
ฉันยังอดแปลกใจไม่ได้ว่า ...ทำไม? คนเราถึงได้มักนำเอา ควายมาใช้ในการเปรียบเปรยถึงสิ่งที่ งี่เง่า โง่เขลาและไร้ประโยชน์ เช่นนั้น เพราะตัวฉันเองรู้สึก ทึ่ง และสำนึกในประโยชน์ของ ไอ้ทุย หรือ ควายไทยอยู่เสมอ แม้ปัจจุบันเราจะหันมาใช้เครื่องจักรแทน เป็นเพราะเหนื่อยล้า หรือเพราะเกียจคร้านในการหาหญ้าซึ่งเป็นอาหารเพียงอย่างเดียวให้มัน ในฤดูที่ว่างเว้นจากการทำนา
ใครกันเล่าที่เกียจคร้าน และโง่เขลา การหันหาเครื่องจักรเพื่ออำนวยความสะดวก เป็นสิ่งที่ดีแล้วจริงหรือ ในขณะที่คุณก็รู้ดีว่า ควายไทย นอกจากจะไม่ไร้ประโยชน์แล้วนั้น มันยังไม่เคยให้โทษแก่ใครอีกด้วย
8 กันยายน 2552 09:31 น.
JK_katedee
มีความคิดหลากหลาย มีคำถามมากมาย แต่บางครั้งคำตอบของคำถามอาจมีเพียงคำตอบเดียว แม้ว่าคำตอบนั้นจะตรงใจและชัดเจนหรือไม่ แต่ท้ายที่สุดสิ่งที่เราจะสามารถทำได้ก็มีเพียง ยอมรับมัน
ความรัก.... อาจเกิดขึ้นได้หลากหลายทั้งรูปแบบและรสชาติ ขมบ้าง หวานบ้างหรืออาจจืดจาง และมีอยู่ไม่น้อยที่เจ็บปวดเพราะเกิดความรักขึ้นมาก เกินคำว่า สองเรา
หลายปีที่ผ่านมา ฉันไม่เคยรู้สึกขาด หรือ อ้างว้าง เพราะในยามที่ฉันรู้สึกสับสนและวุ่นวาย ฉันมี เขา
มาเติมเต็มและแบ่งเบาความรู้สึกเหล่านั้น แม้ว่าครอบครัวของเราสองคนจะต่างมุมมอง ต่างทัศนะ และการคบหากันของเราก็เป็นเรื่องที่เรารู้กัน เพียงเรา ฉันเคยบอกกับตัวเองว่า มันเป็นไปไม่ได้...แต่ขอเวลาให้ฉันได้มีอุ่นไอในหัวใจบ้าง....แม้แค่ช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้นพอ.....และเวลาของฉันนั้น สั้นกว่าที่คิด เวลา 8 ปี สำหรับความสุขและความรู้สึกดีๆมันสั้น แต่เวลาแค่ 3 นาที กับการบอกลายาวนานกว่า ทฤษฏีของอัลเบริต์ ไอน์สไตน์ เป็นจริง ฉันบอกกับตัวเองในขณะที่นิ่งฟังเหตุผลของเขากับผู้หญิงอีกคนที่กำลังพร้อมจะเป็นแม่ของลูกให้เขา ฉันเข้าใจ และรักของฉันเป็นรักของน้องสาวที่มีต่อพี่ชายเท่านั้น สาบานได้ว่าฉันไม่ได้รู้สึกแบบนั้น แต่ฉันกำลังพูดเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของผู้หญิงที่กำลังจะถูก ทิ้ง
ใช่ สุดท้าย สิ่งที่ฉันสามารถทำได้ก็คือ ....การเดินจากมา... และปล่อยให้เหตุการณ์ในบทบาทของผู้เล่นคนอื่นดำเนินต่อไป
เจ็บบ้าง ร้อนบ้าง หรือแค่อุ่นๆ.....สบายสบาย แต่อย่างน้อย ฉันก็ดีใจที่ได้มีโอกาสรับรู้ความรู้สึกเหล่านั้น ขอบคุณความรัก ที่เดินผ่านมา แม้หนาวเหน็บหรือร้าวรอนแต่...แน่ใจได้ ฉันสบายดี