8 มิถุนายน 2545 18:18 น.
Jennie
มนุษย์ใช่ว่าทำตัวเองให้เป็นประโยนช์แต่งยังสามารถทำประโยชน์ต่อ
ประเทศชาติได้อีก ขึ้นอยู่กับตัวเราว่าจะทำอย่างไรให้เจริญ
ไม่ต่อแข่งขัน ไม่เอารัดเอาเปรียบต่อมวลมนุษย์ชาติ
แค่นี้ก็พอแล้วสำหรับการทำประโยนช์
อยู่ที่ใจเราเองว่าทำอย่างไร
อย่างให้ใครอื่นได้ว่าเอาได้
เอาแต่ได้ไม่ยอมเสียเปรียบ
เอาแต่ผลประโยนช์ไม่ยอมเสีย
แล้วตัวคุณแหละทำแบบไหน
ถามใจตัวเองก็พอไม่ต้อง
ให้ใครอื่นได้มาถามว่า
คุณทำเพื่อตัวเองหรือเพื่อใคร
3 มิถุนายน 2545 16:15 น.
Jennie
จุดหมุ่งหมายของมนุษย์คือไร ก็คือตัวเราเองเป็นผู้ให้คำตอบอยู่แล้ว
แต่ว่ามนุษย์ไปถึงจุดมุ่งหมายหรือไม่ แล้วถึงจุดหมายที่ได้วาดฝันหรือป่าว
คนเราเกิดมาได้ครั้งเดียว เกิดมาแล้วยอมดีใจที่เกิดมาครบ 32 ประการ อย่างให้ใครอื่นได้ว่าเอาได้ ว่าเกิดมาทั้งทีไม่ทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อตนก็พอแล้วไม่ต้องให้ถึงสังคม แค่นตนเอง ทำให้เกิดความสุขไม่เอารัดเอาเปรียบทางสังคม ไม่ทำให้ใครเดือนร้อน แค่นี้ก็พอแล้ว
3 มิถุนายน 2545 01:50 น.
Jennie
ฉันอยากเป็นนักกวี
เพราะใจรัก .........
ฉันอยากเป็นนนักการเมือง
เพราะรับใช้ชาติ...................
ฉันอยากเป็นหมอ
เพราะรักาคน................
ฉันอยากเป็นฑูต
เพระพบปะผู้คน...............
ฉันอยากเป็นเจ้าขอร้านอาหาร
เพราะฉันชอบทำอาหาร...........
ตอนเด็ก ...ผู้ใหญ่ถามไงเจ้าตัวน้อย โตขึ้นอยากเป็นไรค่ะ เด็กก็ตอบอยากเป็นนักกวี หมอ ฯลฯ แต่พอโตขึ้นมาคิดอีกแบบ ความแน่นอนคือสิ่งไม่แน่นอนเสมอไป จงเป็นตัวเราเองดีที่สุด ไม่ทำให้ใครเดือนร้อน แค่นี้ก็พอแล้ว จงทำในสิ่งที่ชอบ จงทำในสิ่งที่รัก
3 มิถุนายน 2545 01:36 น.
Jennie
ในโลกแห่งความเป็นจริง
สังคมไม่กล้ายอมรับ ไม่กล้า
เผชิญหน้า ไม่กล้าการกระทำ
กลัวความล้มเหลว กลัวความมืด
ไม่ใช่หรอกแต่ไม่กล้าทำต่างหากไง
มนุษย์ทุกคนต่างมีความคิด
ความอ่านแต่ไม่กล้าที่จะทำหรือ
การเริ่มต้นเพราะว่ากลัวการล้มเหลว
แต่อย่างเพิ่มว่าไม่จริง เพราะว่า
ความจริงก็อย่างมีคนกล้าทำกล้าลอง
เริ่มต้นต้นใหม่
หรือเรียกว่ามนุษย์ที่ไม่พัฒนาตนเอง