2 มกราคม 2551 01:41 น.
Jeminine
คงไม่สำคัญ ว่ามันจะใช่ความรัก..
หรือเป็นความรู้สึก ของคนแค่รู้จัก จะเพ้อฝัน
เพราะมีเพียงคนเดียว ที่เห็นว่าสำคัญ
ซึ่งก็คือฉัน..แค่ฉัน...ตลอดมา
เกลียดฉันเสียก็ได้...
เทียบกับการทำเหมือนฉันไม่มีตัวตนใดๆ คงดีกว่า
อย่างน้อยการเกลียด..ก็ทำให้รู้ว่าเธอเห็นฉันบ้างบางเวลา
ให้ฉันรู้สึกว่า..ยังมีตัวตน
มันผ่านไปแล้วหรือ..ความรัก
ทำไมร่องรอยบางอย่าง ยังสร้างความลำบาก อยู่บ่อยหน
เจ็บปวดบางครั้ง กับการคิดถึงใครสักคน
เป็นความร้าวรอน ร้อนรน เหลือเกิน
ช่างเถอะ เธอจะคิดอย่างไร
ฉันยอมรับ ในความเปลี่ยนไป และความห่างเหิน
ความรัก หมดใจ ของคนที่เธอไม่อยากร่วมทางเดิน
เป็นแค่ความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่ แต่ดูเล็กน้อยเหลือเกิน สำหรับเธอ
20 ธันวาคม 2550 00:06 น.
Jeminine
นานแล้ว..ที่ไม่กล้าจะกลับมา
กลัวบรรยากาศที่คุ้นตา..จะทำให้เหงา
รอจนวันที่ความรู้สึกบางอย่างได้บรรเทา
ขอทดสอบความเข้มแข็งของใจดวงเก่าอีกที
ไม่รู้..ทำไมต้องกลับมา..
แค่อยากจะกลับมายืนมองท้องฟ้า..จาก..ที่นี่
แค่อยาก..จะสูดกลิ่นหอมของบรรยากาศดีๆ
และสัมผัสร่องรอยความทรงจำที่มีจากวันวาน
มีความรู้สึกร้อยพันอยู่ที่นี่
วนเวียนเหมือนหิ่งห้อยน้อยที่บินริบหรี่ในความฝัน
มีภาพรอยยิ้ม รอยน้ำตา คละเคล้ากัน
เชื้อเชิญให้ฉันยิ้มทั้งน้ำตาไปพร้อมกับมันเพียงลำพัง
ฉันคงกลับมาเพียงเพื่อ..จะระลึกถึง
ใครคนหนึ่ง..ที่เคยเป็นทั้งหัวใจ และความหวัง
หากในอีกเมื่อไรไม่รู้ เขาจะผ่านมาทางนี้อีกครั้ง
อยากให้เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกคิดถึงจางๆ ..
ที่ฉันเก็บรวบรวมไว้ให้จากวันอ้างว้าง..และห่างไกล
26 มิถุนายน 2548 15:23 น.
Jeminine
ทำไมกลิ่นสายฝนจึงเหงานัก
หรือเพราะคนขาดรักแสร้งว่าเหงา
หยาดใสใส หล่นจากฟ้า มาเบาเบา
ฟังคล้ายเสียงเพลงเศร้าคลอเคล้าใจ
ใต้แผ่นฟ้าสีหม่นของคนเหงา
มองทางใดก็ว่างเปล่าคราวหวั่นไหว
เกินจะฝืนขืนตัวและหัวใจ
ให้เปิดรับความสดใสของคืนวัน
เฝ้ารอคอยแสงตะวันที่ฉันรัก
ได้หลบพักความเหงาเมื่อคราวฝัน
ฉันเหน็บหนาว ฉันอ่อนล้ามาเนิ่นนาน
หวังเพียงให้ไออุ่นนั้นช่วยบรรเทา
ทำไมกลิ่นสายฝนจึงเหงานัก
หรือเพราะคนขาดรักแสร้งว่าเหงา
หากมีรุ้งพาดผ่านฟ้ามาเบาเบา
ใจคนเหงาคงอุ่นได้ในสักวัน
26 พฤศจิกายน 2545 13:30 น.
Jeminine
ฤดูกาลแห่งความเหงา
เริ่มต้นเบาเบา...ตรงข้างหมอน
น้ำตาที่รื้นรื้น...เมื่อตื่นนอน
เพียงผ่าวผ่าว ก็อุ่นร้อนที่สองตา
มองใบไม้...สะบัดไกวไกลจากขั้ว
อยู่ใกล้ตัว หากแต่ใจไกลยิ่งกว่า
คิดถึงอ้อมแขนอุ่นคนคุ้นตา
เพียงมองฟ้าก็เหว่ว้าได้เหลือเกิน
กี่ไอแดดอุ่นไอก็ไม่เท่า
อ้อมกอดใครคนเก่าที่ห่างเหิน
ไร้คนเดินเคียงข้างร่วมทางเดิน
ทางข้างหน้าเหว่ว้าเกิน...จะก้าวไป
คิดถึงไออุ่นนั้นที่ฉันรัก
แม้อยู่ไกลเกินฝากคำพร่ำอ่อนไหว
ในวันคืนที่ความรักมาจากไป
ฤดูหนาวเข้าแทนใจไม่จากลา
7 พฤศจิกายน 2545 13:10 น.
Jeminine
ม้าก้านกล้วย
ท้องฟ้าที่ไร้จันทร์คืนวันนี้
ใยยังมีแสงนวลล้วนสว่าง
ฉงนใจจึงมองไปในฟ้ากว้าง
พลันก็พบแถบทางอันพร่างพราว
พาดขวางกลางนภาเวลาค่ำ
บนฟ้าดำดึกดื่นรื้นรอยขาว
กระจุกจุดดารารางเป็นทางยาว
สุกสกาวกว่ากลุ่มดาวที่วาววับ
ทางช้างเผือก ลอยเด่น เป็นแถบสวย
สว่างด้วย แสงขาว ราวประดับ
เกล็ดเพ็ชรแก้ว พราวกระพริบ ระยิบระยับ
ตรึงประทับ ใจกระทั่ง ทรุดนั่งมอง
นึกถึงนวนิยายโศก
ผู้ลาโลกทั้งยังรักหักทรวงหมอง
สัญญาก่อนจากลาน้ำตานอง
จะขอครองคู่นิรันดร์บนชั้นฟ้า
เกษียรสมุทรฤามีที่นัดพบ
ฉันขาดครบคู่ฤดีที่ครวญหา
รอนคู่ร้างใครไร้เมตตา
จะไปหาคนรออยู่เป็นคู่รัก
ขอหลับฝันจะท่องทางช้างเผือกขาว
เผื่อมีสาวสวยสะพรั่งมานั่งดัก
เผื่อพบเนื้อคู่ของตนคนที่รัก
เผื่อรู้จักคนรักฉันนั้นเป็นใคร
+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+-+
Jeminine
เธอจะมองเห็นฉันใหมในคืนหนาว
ด้วยดวงดาวนับล้านร้อยคอยส่องแสง
ดาวดวงเดิมในคืนก่อนเริ่มอ่อนแรง
เกินแข่งแสงรัศมีที่วาวแวว
ตรงโค้งขาวดาวพร่างทางช้างเผือก
ดุจด้ายเชือกร้อยแสงเป็นแท่งแถว
สะบัดพริ้วริ่วร่ายไกลเป็นแนว
วับวาวแววบนฟ้ากว้างพริบพร่างพราย
ด้ายสีแดงเส้นน้อยที่ร้อยเกี่ยว
ใครคนเดียว คนนั้น ที่ฉันหมาย
จะพาเขา ก้าวข้ามทาง ห่างแสนไกล
มาพบใจ ใครคนนี้ ที่เฝ้ารอ...