6 มิถุนายน 2546 20:33 น.

พ่อครับผมรักพ่อ

Jeff

..... พ่อของผมเป็นคนดุ เสียงดังและมักจะอารมณ์เสียกับเรื่องต่างๆ อยู่เสมอ

เมื่อผมยังเป็นเด็กวัยรุ่น ผมไม่เคยเข้าใจกับคำสั่งของพ่อเลย บางอย่างมันก็เป็นเรื่อง ที่ฝืนความรู้สึกของผมโดยสิ้นเชิง การไปเตะฟุตบอลแล้วกลับบ้านค่ำเหมือนเพื่อนคนอื่นไม่ถูกต้องนักในสายตาของพ่อ ผมต้องกลับมาช่วยงานที่บ้านทุกวัน บางครั้งผมก็คิดว่าพ่อไม่เคยเข้าใจผมเลย ไม่ได้รักผมเลยแม้แต่นิดเดียว

เดือนธันวาคมของทุกปีโรงเรียนของผมมีการจัดงานวันพ่อ โดยมากจะมีการจัดบอร์ดเกี่ยวกับในหลวง แต่ปีนี้มีอะไรที่พิเศษกว่าอาจารย์ให้พวกเราเขียนการ์ดวันพ่อ การ์ดจะต้องถูกทำขึ้นเองและให้อาจารย์ตรวจก่อนส่งทางไปรษณีย์ไปที่บ้านของแต่ละคน สำหรับผมแล้วเรื่องการ์ดนี้ไม่ได้มีความสำคัญไปมากกว่าการได้เตะฟุตบอล หรือ ว่าเตะตะกร้อ กับเพื่อนเลย มันออกจะเป็นความกระดากอายด้วยซ้ำที่จะต้องเขียนการ์ดอวยพรให้กับพ่อ หลายวันนั้นผมทำอะไรหลายอย่างกว่าจะได้ทำการ์ดก็เป็นวันสุดท้ายก่อนที่จะส่งการ์ดสีฟ้าทำมาจากกระดาษแข็งที่เหลือมาจากจัดบอร์ดที่โรงเรียน ลายขลิบสีทองข้างๆผมก็ได้มาจากหมวกวันปีใหม่เก่าๆของน้อง ผมเขียนข้อความลงไปว่า .ขอให้พ่อมีความสุขและหายป่วยจากโรคที่เป็นอยู่ ผมคิดว่าถ้าผมเป็นอาจารย์ไอ้การ์ดใบนี้คงได้คะแนนไม่เกินห้าจากเต็มสิบแน่ๆ สองวันต่อมาผมกะว่าการ์ดจะต้องถูกส่งมาถึงที่บ้าน ทุกเย็นเมื่อกลับถึงบ้านผมจะรีบไปที่ตู้ไปรษณีย์เพื่อที่จะเก็บการ์ดของผมก่อน พ่อจะได้รับมัน

หลายวันต่อมาผมก็ไม่เห็นมีการ์ดส่งมาที่บ้านแล้วผมก็ลืมเรื่องนี้ไป

วันหนึ่งพ่อใช้ให้ผมไปหยิบของที่โต๊ะบัญชีเมื่อไขล็อคกุญแจและดึงลิ้นชักออกมา ผมพบการ์ดใบนั้นวางอยู่ ผมไม่รู้ว่าพ่ออ่านมันรึยัง ความรู้สึกของผมตอนนั้นคือเจ้าการ์ดใบนี้คือสิ่งที่ไม่น่าเก็บไว้ มันไม่ได้ทำมาจากความตั้งใจของผมเลยมันน่าจะหายไป แต่ว่าผมก็ยังไม่อยากจะทิ้งมันไปเลยนำมันซ่อนไว้ในลิ้นชักข้างๆกัน ต่อมาเมื่อผมเปิดลิ้นชักอีกครั้งก็พบการ์ดใบนี้วางอยู่เสมอ
คราวนี้ทุกครั้งที่ผมเจอมันผมจะนำมัน ไปเก็บไว้ที่อื่นเสมอ และ ไม่ว่ากี่ครั้งที่ผมเปิดลิ้นชักเดิมก็จะพบว่ามันอยู่ที่เดิมเสมอ ครั้งสุดท้ายที่ผมพบมันผมเก็บมันไว้ในที่ที่คิดว่าจะไม่เจอมันอีกเลย
และ เรื่องนี้พ่อกับผมไม่เคยพูดถึงมันเลย

จากนั้นไม่นานพ่อก็จากไปด้วยโรคประจำตัว

ห้องของพ่อเหมือนกับถูกปิดตาย ไม่มีธุระจำเป็นจริงๆหรือว่าทำความสะอาด ก็จะไม่มีคนเข้าไปในห้องนั้นเลย ผมเข้ามาเรียนต่อในที่ใหม่มีเรื่องใหม่ ให้พบให้เจอทุกวัน ความทรงจำหลายอย่างเกี่ยวกับพ่อก็จางหายไป....

จนวันหนึ่งผมเจอปัญหา ในหัวของผมมีแต่เรื่องสับสน อยากหนีปัญหาไปไกลๆไม่อยากเจอแม้แต่ผู้คน ผมกลับมาที่บ้านไขกุญแจห้องพ่อแล้วเข้าไปในนั้น ที่ห้องของพ่อทุกอย่างยังเหมือนเดิม ข้าวของทุกชิ้นยังอยู่ครบเหมือนครั้งที่พ่อยังอยู่ ในห้องเงียบมากผมได้ยินแม้แต่เสียงหัวใจของตัวเอง

ผมเดินไปที่โต๊ะบัญชีที่พ่อมักจะนั่งอยู่ที่นั่นเสมอ ตอนนั้นผมคิดว่าถ้าพ่อยังอยู่พ่อจะทำอย่างไร จะแนะนำผมอย่างไร แล้วจะช่วยผมแก้ปัญหาอย่างไร ทันใดนั้นผมคิดถึงเรื่องเก่าๆเรื่องนึงขึ้นมา ผมรีบเอากุญแจไขลิ้นชักโต๊ะบัญชีด้วยความหวังว่ามันจะยังอยู่ เมื่อเปิดลิ้นชักผมก็พบมัน การ์ดสีฟ้าขลิบทอง ยังดูโดดเด่นอยู่ลิ้นชักของพ่อ มันยังอยู่ที่เดิมเหมือนทุกครั้ง 

@ ถึงตอนนี้ผมรู้แล้วว่าพ่อรักผมมากขนาดไหน

@ ทุกครั้งที่การ์ดใบนี้หายไปพ่อจะหามันแล้วนำมัน มาเก็บไว้ที่เดิม

@ ไม่ว่ามันการ์ดที่ไม่มีราคาค่างวดใดๆและแทบจะหาความสวยงามใดๆไม่ได้เลย พ่อก็เก็บมันไว้เสมอ และ

@ สิ่งที่พ่อสอนผมด้วยการกระทำมันมากกว่าคำพูดทั้งหมด

@ พ่อสอนให้ผมมีความรับผิดชอบกับการกระทำของตนเอง

@ ให้มีความอดทนและไม่ท้อแท้กับปัญหาใดใด

@ เหมือนพ่อเคยเจอเสมอและผ่านมาได้ทุกครั้ง

ผมรู้สึกขึ้นมาทันทีว่าปัญหาที่ผมเจอตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย กำลังใจจากการ์ดใบนั้นเหมือน จะค่อยๆแผ่ซ่านจากมือเข้ามาสู่หัวใจผม ในใจของผมรู้สึกอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาดเหมือนกับพ่ออยู่ในนั้น

ผมวางการ์ดเก็บไว้ที่ลิ้นชักตามเดิมและออกมาจากห้องของพ่อด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง กับเมื่อตอนที่เข้ามา 

ก่อนประตูจะปิดลงผมบอกออกไปด้วยความรู้สึกที่พ่อก็มีให้ผมมาตลอดว่า

" พ่อครับ ผมรักพ่อ "				
6 มิถุนายน 2546 20:27 น.

รักครั้งสุดท้าย

Jeff

ชายหนุ่มวัย 18 คนหนึ่งกำลังป่วยด้วยโรคมะเร็ง...
มะเร็งระยะสุดท้ายที่ไม่สามารถเยียวยารักษาให้หายได้อีกแล้ว
และก็พร้อมจะจากไปในทุกขณะ

เขาใช้ชีวิตอยู่กับบ้านมาตลอด มีคุณแม่เป็นผู้ดูแล

แล้ววันหนึ่งเขาก็เกิดเบื่อหน่ายชีวิตประจำวันอันจำเจซ้ำซาก อยากจะออกไปนอกบ้านสักครั้ง

เมื่อรับรู้ความในใจของบุตรชายเช่นนั้นแล้ว ไหนเลยผู้เป็นมารดาจะไม่โอนอ่อนผ่อนตาม
เขาจึงมีโอกาสออกไปเดินเล่นละแวกบ้าน ผ่านร้านค้ามากมาย...จวบจนพบร้านขายซีดีแห่งหนึ่ง
เขาก็ต้องหยุดชะงัก

จ้องมองเข้าไปในร้านแห่งนั้น..ที่นั่นเขาได้เห็นเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันคนหนึ่ง

และในทันใดชายหนุ่มก็แจ่มชัดอย่างยิ่งว่าเธอคือรักแรกพบของเขาที่อุบัติขึ้น ณ.>บัดนั้น

เขาเดินเข้าไปข้างในร้าน ขณะสายตาจับจ้องอยู่แต่เธอ กระทั่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอโดยไม่รู้ตัว
จะให้ฉันช่วยอะไรได้บ้างคะ เธอเอ่ยถามพร้อมกับส่งยิ้ม

ช่างเป็นรอยยิ้มที่หวานที่สุดเท่าที่เขาเคยสัมผัส มันทำให้เขาอยากประทับริมฝีปากเธอในทันที
เขาตอบตะกุกตะกักออกไปว่า เอ้อ ผมอยากได้ซีดีสักแผ่นครับ จากนั้นก็ทำทีหันไปเลือกซีดีได้แผ่นหนึ่ง
ก่อนจะกลับมาอยู่เบื้องหน้าเธออีกครั้งเพื่อชำระเงิน

คุณอยากให้ฉันห่อกระดาษด้วยมั้ยคะ

เธอถามพร้อมส่งยิ้มหวานมาให้ด้วยอีกหน เขาพยักหน้า 
เธอจึงหันหลังไปจัดการให้จนเสร็จเรียบร้อยแล้วยื่นให้ชายหนุ่ม

กลับมาถึงบ้านเขาจัดการเก็บแผ่นซีดีไว้ในตู้ เพราะไม่ได้สนใจบทเพลงในแผ่นซีดีแม้แต่น้อย
สิ่งที่เขาสนใจก็คือคนขายนั่นต่างหาก

หลังจากวันนั้นแล้ว ชายหนุ่มก็แวะเวียนไปที่นั่นเป็นประจำทุกวัน
ซื้อซีดีมาวันละแผ่นเสมอ พร้อมกับอนุญาตให้หญิงสาวห่อกระดาษทุกครั้ง
รวมทั้งเมื่อกลับมาบ้านก็เก็บมันไว้ในตู้เหมือนที่เคยปฏิบัติมา เขารู้สึกขวยเขินที่จะชวนเธอออกไปเที่ยวด้วยกัน
ทั้งๆที่เบื้องลึกนั้นปรารถนาเหลือเกิน แต่ก็...ไม่กล้าพอ

เมื่อคนเป็นแม่รับรู้ในเวลาต่อมาท่านก็คะยั้นคะยอให้ลูกชายทำตามใจปรารถนาของตน

รุ่งขึ้นเขาจึงรวบรวมความกล้าทั้งหมด ไปยังร้านนั้นอีกครั้ง
ซื้อซีดีหนึ่งแผ่นเหมือนวันก่อนๆ และระหว่างที่เธอหันหลังให้นั้น
เขาก็ตัดสินใจทิ้งเบอร์โทรศัพท์ของตนไว้บนโต๊ะก่อนวิ่งออกจากร้านไป

สองสามวันต่อมาคุณแม่ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์
จึงรับสายและพูดว่า สวัสดีค่ะ หญิงสาวในร้านขายซีดีนั่นเองที่เป็นผู้โทรมา
เมื่อสาวน้อยถามหาคนเป็นลูกชาย ผู้เป็นแม่ก็เริ่มร่ำไห้ แล้วบอกว่า

หนูคงไม่รู้หรอกว่า...เขาเพิ่งจากไปเมื่อวานนี้เอง

ถัดจากนั้นเสียงจากคนถามก็คล้ายจะถูกปลิด
คงเหลือแต่เพียงเสียงสะอื้นเบาๆของผู้เป็นแม่...

ในวันนั้นเอง ผู้เป็นแม่ก็เข้าไปในห้องของลูกชายเพื่อหวนระลึกถึงเขาอีกครั้ง...
เริ่มด้วยการสัมผัสเสื้อผ้าที่เขาเคยสวมใส่

และทันทีที่เปิดประตูตู้ ก็ต้องประหลาดใจ เมื่อพบซีดีที่ยังห่อกระดาษไว้
กองอยู่เต็มไปหมด คุณแม่เลือกหยิบมาแผ่นหนึ่ง นั่งลงบนเตียงและเริ่มแกะออกดู

ทันใดนั้นก็มีกระดาษเล็กๆแผ่นหนึ่งหล่นลงมา...

คุณแม่หยิบมันขึ้นมาอ่าน

สวัสดีค่ะ คุณดูน่ารักจังเลย อยากออกไปเที่ยวกับฉันบ้างรึเปล่า

กระทั่งเธอแกะซีดีแผ่นถัดๆมา ก็ยังพบกระดาษแผ่นเล็กๆ

มีข้อความเช่นเดิม......				
6 มิถุนายน 2546 20:26 น.

สิ่งเล็กๆที่ยิ่งใหญ่ในคุณค่า

Jeff

กรวดเม็ดเล็ก ๆ รวมกันเป็นภูเขาสูงใหญ่ 
ก้าวเดินก้าวเล็ก ๆ เป็นระยะทางได้หลายกิโล 
การกระทำเล็ก ๆ ด้วยความรักความกรุณา 
สร้างโลกให้สดใส สดสวยด้วยรอยยิ้ม 
คำพูดเล็ก ๆ สามารถบรรเทาปัญหาที่แสนจะยากเย็น 
อ้อมกอดเล็ก ๆ เช็ดน้ำตาให้เหือดแห้ง 
เทียนไขเล็ก ๆ ส่องแสงนำทางในความมืดมิด 
ความจดจำสิ่งเล็ก ๆ คงอยู่นานหลายปี 

ความฝันใฝ่เล็กๆ นำไปสู่ความยิ่งใหญ่ 
ชัยชนะเล็กๆ นำไปสู่ความสำเร็จที่ปรารถนา 
สิ่งเล็กๆ ต่าง ๆ ในชีวิต 
นำมาซึ่งความสุขอันยิ่งใหญ่ 

ถ้าเราได้คิดสักนิดถึงสิ่งเล็ก ๆ เหล่านี้แล้วหละก็ 
ความอบอุ่นเมื่อคิดถึงเธอก็ผุดขึ้นในใจ 
มันเป็นความสุขใจอันสุดแสนจะบรรยาย 
.. เสมอและตลอดไป ..				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟJeff
Lovings  Jeff เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟJeff
Lovings  Jeff เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟJeff
Lovings  Jeff เลิฟ 0 คน
  Jeff
ไม่มีข้อความส่งถึงJeff