13 มิถุนายน 2546 21:36 น.
Jeff
1. มีชายคนหนึ่งเดินทางไปที่ทะเลแดง
ซึ่งทะเลแห่งนี้ถ้าโยนของลงไปของนั้นจะเปลี่ยนไป
เขาจึงโยนรองเท้าสีเขียวลงไป
ถามว่ารองเท้าจะเปลี่ยนเป็นอะไร
2. มีคน 100 คน ยืนบนหน้าผา อยากรู้ว่า คนที่เท่าไหร่จะตกหน้าผาตาย?
3. ปลาอะไร ขี้เกียจ
4. พระบูชารุ่นใดห้ามแขวนอยู่บนคอพร้อมกัน
5. ล้างจานยังไงมือไม่เปียก?
6. ปลาอะไรคุมทะเล
7. มดอะไรว่ายน้ำได้
8. ครูอะไรทั้งชีวิตมีปากกาด้ามเดียว
10. ระฆังชาติใดดีที่สุด
11.พระอะไรหาเรื่องตาย
12. นัทมีเรีย , เสกโลโซ, เบริด ธงไชย ไปทัวคอร์นเสริตที่ต่างประเทศ
แล้วเกิดเครื่องบินตก แต่นัทมีเรียไม่เป็นอะไร
แล้วนัทมีเรียจะช่วยใคร
13. อะไรเอ่ย ทำเพื่อวัดอย่างเดียวเลย ห้ามตอบว่าพระ
14. นกอะไรเอ่ยปากอยู่ใต้เท้า ปีกก็อยู่ใต้เท้า
15. อะไรเย็นที่สุดในโลก
16. สมมติว่าคุณเป็นเจ้าของร้านอาหารร้านหนึ่ง ทั้งร้านมีโต๊ะอาหาร 4 โต๊ะโต๊ะหนึ่งโต๊ะสองเพิ่งสั่งอาหาร โต๊ะสามจ่ายเงินเเล้ว เเต่โต๊ะสี่ เบี้ยวคุณจะทำอย่างไร
17. กทม. ย่อมาจากอะไร
18. ปลาอะไรเอ่ยขี้เท่าเกาะ?
19. โรคอะไรถูกที่สุด
20. สโนว์ไวท์ทำไมถึงไม่มีขี้มูก
21. ชีวิตอะไรเอ่ยวิ่งไปทดเลขไป
22. อะไรเอ่ย? ทำไมซาลาเปาถึงอาย
แล้วทำไมขนมถึงจีบซาลาเปา?
23. ทำไม ยี่สิบลบสิบเท่ากับสิบห้า
24. ทำมัยบางคนถึงเจ็บหนังหัว
25. คนเป็นเอดส์เพราะอะไร
26. ปาอะไรโดนแล้วเดี้ยง ปาอะไรโดนแล้วสลบ
27. ชมรมดนตรีไทยกลัวชมรมอะไรมากที่สุด
28. ทำไมฝนจึงตก?
29. ศิลปินชายคนไหนที่ผู้หญิงชอบมากที่สุด
30. ผู้หญิงกับตู้เย็นมีอะไรที่พิเศษเหมือนกัน
31. CLINTON ย่อมาจากอะไร ?
32. ช้าง.ร้องว่าอะไร
33. เกาะอะไร เห็นฉันวิ่ง
34. เบียร์อะไรกินแล้วไม่เมา
35. มันอะไรไม่มีขน?
36. มดอะไรใหญ่กว่ามด เอ็กซ์
37. ไก่อะไรเอ่ยเป็นฆาตกร
38. ในยูโร2000 ทีมอะไรแข่งแล้วตลกที่สุด
39. อะไรเอ๋ยเวลาเรายืนมันห้อย เวลาเราเดินมันแกว่ง
40. มีคนยืนต่อแถวกันอยู่200คน คนที่เท่าไหรเป็นคนอีสาน
41. พี่น้อง 3 คน ขี่ควายกลับบ้าน คนพี่นั่งหัว คนกลางนั่งกลาง อีกน้องนั่งท้าย ท่านทราบไหมว่าควายจะหนักตรงไหนมากที่สุด
42. ปลาอะไรอยู่ในทะเล
แถม 43. อาภาพรนครสวรรค์ชอบสัตว์อะไร
ถ้าทายเสร็จแล้ว ก็ลงไปอ่านเฉลยได้ข้างล่างนะ
6 มิถุนายน 2546 20:23 น.
Jeff
บ่ายวันหยุดวันนึง ด้วยความที่บ้านรกจนเหลือทน ผมเลยตั้งใจว่าจะจัดการกับมันขั้นเด็ดขาด ทิ้งให้หมด อย่าเสียดาย สมบัติบ้าทั้งนั้น ขนมันออกไปกองหน้าบ้าน
รอรถซาเล้งมาซื้อบ้าง หลายๆอย่างก็ทิ้งไปเลยบ้าง พยายามอย่าเก็บไว้ ความเสียดายกับความรกเป็นของคู่กัน
มีจักรยานสีฟ้าเก่าๆอยู่คันหนึ่ง อายุขนาดผมเนี่ย ถ้าจะเอาออกไปขี่ คงเหมือนละครสัตว์โชว์ อุบาทว์น่าดู
ของเก่าๆทั้งหลายเลยถูกนำมากองอยู่หน้าบ้านเต็มไปหมด ทั้งการ์ตูน หนังสือมากมาย ขนไป ก็ขายไป ตลอดบ่าย
แต่แล้ว ก็มีเด็กชายคนนึงอายุประมาณ 12-13 คงเป็นเด็กในแฟลตใกล้ๆหมู่บ้าน มาด้อมๆมองๆ สุดท้ายก็เดินเข้ามาถามว่า
พี่ครับ ผมอยากได้หนังสือ กับจักรยาน แต่ผมไม่มีเงินให้พี่หรอกครับ
ผมเงยหน้าขึ้นไปมองแล้วตอบกลับไป
เฮ้ย อ้ายน้องหนังสือหน่ะ เลือกเอาไปได้เลย ตามสบาย
อืมม์ แต่จักรยาน เอาไงดีหว่า เพราะลุงรับซื้อของเก่าเค้าก็จะเอา.
เด็กชายนิ่งเงียบ บอกขอบคุณผมเบาๆ ด้วยแววตาเศร้าเล็กๆ ก้มหน้า ก้มตา เลือกหนังสืออ่านเล่น หนังสือการ์ตูนเก่าๆ แยกออกไว้
แต่ก็แอบชำเลืองมอง รถจักรยานเก่าๆไปด้วยความเสียดาย
ผมสังเกตเห็นอยู่สักพัก ในใจนึกขำ ในที่สุดก็บอกลุงรับซื้อของเก่าว่าไม่ขายจักรยานแล้ว หันไปบอกเด็กชายว่า
ถ้าอยากได้ก็จะให้ แต่ต้องช่วยพี่ทำงานแลกกันดีมั๊ย
เด็กชายยิ้มสดใส พยักหน้าอย่างดีใจ
ตลอดบ่ายนั้นผมเลยมีลูกมือมาคอยช่วยขนของ รดน้ำต้นไม้ เพื่อแลกกับจักรยาน สีฟ้า คันเก่าๆ
สองสามวันต่อมา ผมผ่านเข้าไปในแฟลต นึกว่าจะเข้าไปหาอะไรกินรองท้องก่อนกลับบ้าน แล้วก็ได้เห็นเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึง หัดถีบจักรยาน โดยมีพี่ชายคอยวิ่งจับท้ายรถให้ มีน้องชายคนสุดท้องวิ่งตามหลังอยู่อีกคน ทั้งสามคนหัวเราะเสียงดังสดใส น้องๆผลัดกันหัดถีบจักรยาน โดยมีพี่ชาย ยังคงวิ่งคอยตามจับท้ายรถ ไม่ให้ล้มไปตลอดทาง
ผมนั่งกินข้าวไปจนเสร็จ ก็ยังไม่เห็นพี่ชาย มีโอกาสได้ถีบจักรยานเลย แต่ทั้งสามก็ดูมีความสุขดี รุมเล่นจักรยานสีฟ้า คันเก่าๆ
วันอาทิตย์ต่อมา วันแห่งความขี้เกียจ ผมนอนเปิดทีวีดูอยู่ในบ้าน มีเสียงเด็กๆ อยู่หน้าบ้าน เหมือนอยากเรียกผม แต่ไม่กล้า พอเดินออกไปก็พบพี่น้องสามคน
ทันทีที่เห็นผม น้องชาย และน้องสาว รีบหนีไปหลบอยู่ข้างหลังพี่ชาย แต่ก็ยังแอบโผล่หัวมามอง หัวเราะกันคิกคัก ผมอมยิ้มถาม
ว่าไงมีอะไรอ้ายน้อง
พี่ชายยืนตัวตรงตอบด้วยเสียงดังฟังชัด
พี่ครับมีงานอะไรให้ทำอีกมั๊ยครับ น้องสาวผมอยากได้ตุ๊กตาครับ
ผมยิ้มในใจอย่างนึกขำ แล้วก็เลยอดดูทีวี มาคอยสอนไอ้ตัวเล็ก 3 คน ปลูกต้นไม้ ตลอดบ่ายวันนั้น ก่อนที่จะให้เงินพี่ชายไปซื้อตุ๊กตาให้น้องสาวจอมยุ่ง
ในใจนึกสงสัยว่าอาทิตย์หน้า อ้ายเด็กพวกนี้ แห่มากันอีกแหง๋ๆเลย
6 มิถุนายน 2546 20:22 น.
Jeff
นานมาแล้ว มีต้นแอปเปิลใหญ่อยู่ต้นนึง
และก็มีเด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนนึงชอบเข้ามาอยู่ใกล้ๆและเล่นรอบๆต้นไม้นี้ทุกๆวัน
เขาปีนขึ้นไปบนยอดของต้นไม้ และก็กินผลแอปเปิล และก็นอนหลับไปภายใต้ร่มเงาของต้นแอปเปิล
เขารักต้นไม้ และต้นไม้ก็รักเขา
เวลาผ่านไป เด็กน้อยโตขึ้น และเขาไม่มาวิ่งเล่นรอบๆต้นไม้ทุกวันอีกแล้ว
วันนึง เด็กน้อย กลับมาหาต้นไม้ เด็กน้อยดูเศร้า
มาหาฉัน และมาเล่นกับฉันเหรอ ต้นไม้ถาม
ฉันไม่ใช่เด็กเล็กๆแล้วนะ ฉันไม่อยากเล่นรอบๆต้นไม้อีกแล้ว ฉันต้องการของเล่น ฉันอยากได้เงินไปซื้อของเล่น เด็กน้อยตอบ
แต่ฉันไม่มีเงินจะให้ ....เก็บลูกแอปเปิลของฉันไปขายสิ เพื่อเอาเงินไปซื้อของเล่น ต้นไม้ตอบ
เด็กน้อยตื่นเต้นมาก เขาเก็บลูกแอปเปิลไปหมด และจากไปอย่างมีความสุข หลังจากเขาเก็บแอปเปิลไปหมดแล้ว เขาไม่กลับมาหาต้นไม้อีกเลย
ต้นไม้ดูเศร้า......
วันหนึ่ง เด็กน้อยกลับมา เขาดูโตขึ้น ต้นไม้รู้สึกตื่นเต้นมาก
มาหาฉัน และมาเล่นกับฉันเหรอ ต้นไม้ถาม
ฉันไม่มีเวลามาเล่นหรอก ฉันมีครอบครัวแล้ว ฉันต้องทำงานเพื่อครอบครัวของฉันเอง เราต้องการบ้าน ช่วยฉันได้ไหม
แต่ฉันไม่มีบ้าน... ตัดกิ่งก้านของฉันไปสิ ....เอาไปสร้างบ้าน
ดังนั้นเด็กน้อยตัดกิ่งก้านทั้งหมดของต้นไม้ไป และจากไปอย่างมีความสุข
อีกครั้งที่ต้นไม้ถูกทิ้งให้เดียวดาย และเศร้า....
วันหนึ่งในฤดูร้อน เด็กน้อยกลับมา ต้นไม้ดีใจมาก
มาหาฉัน และมาเล่นกับฉันเหรอ ต้นไม้ถาม
เปล่า ฉันรู้สึกผิดหวังกับชีวิต และเริ่มแก่ขึ้น ฉันอยากแล่นเรือไปพักผ่อนไกลๆ ให้เรือฉันได้ไหม
ใช้ลำต้นของฉันได้ เอาไปสร้างเรือ เพื่อหนูจะได้เล่นเรือไปและมีความสุขต้นไม้ตอบ
ดังนั้น เด็กน้อยตัดลำต้นของต้นไม้ไปสร้างเรือ เขาล่องเรือไป และไม่เคยกลับมาอีกเลย
หลายปีผ่านไป ในที่สุดเด็กน้อยกลับมา
ฉันเสียใจ เด็กน้อย ฉันไม่เหลืออะไรจะให้อีกแล้ว ไม่มีผลแอปเปิลให้ ....
ฉันไม่มีฟันจะกินแล้ว
ฉันไม่มีลำต้นให้ปีนอีกแล้ว
ฉันปีนไม่ไหวแล้ว ฉันแก่แล้ว เด็กน้อยตอบ
ฉันไม่มีอะไรเหลือให้อีกแล้ว สิ่งเดียวที่เหลือ มีเพียงรากที่กำลังจะตาย
ตอนนี้ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แค่อยากได้ที่พักพิง ฉันเหนื่อยมาหลายปีแล้ว
รากของต้นไม้แก่ๆ จะเป็นที่พักพิงของหนูได้ ...... มาสิ นั่งลงข้างๆฉัน ...หลับให้สบาย.....
เด็กน้อยนั่งลงข้างๆ ต้นไม้ดีใจ ยิ้ม...และน้ำตาไหล........
นี่เป็นเรื่องสำหรับทุกๆคน ต้นไม้ในเรื่องคือพ่อแม่
เมื่อเราเป็นเด็กตัวเล็กๆ เรารักที่จะเล่นกับพ่อและแม่....
เมื่อเราโตขึ้น เราทอดทิ้งพ่อและแม่ และกลับมาหาท่านเมื่อเราต้องการบางสิ่งบางอย่าง หรือเมื่อเรามีปัญหา
ไม่ว่าอย่างไร พ่อและแม่ของเราก็จะอยู่และให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่ท่านทำได้ หวังเพียงเรามีความสุข
คุณอาจจะคิดว่า เด็กน้อย ในเรื่องโหดร้าย แต่นั่นคือความจริงที่สะท้อนให้เห็นว่าพวกเราทำกับท่านอย่างไร ........
แล้วต้นไม้ของคุณล่ะ ....... เด็กน้อย .....???
เรียบเรียงจาก The Giving Tree ของ เชล ซิลเวอร์สเตน
6 มิถุนายน 2546 20:16 น.
Jeff
ทำไมเวลาที่ฝนตก เรามักจะคิดถึงคนที่เรารัก เราผูกพัน
และบางครั้งก็รู้สึกเหงาด้วย
เมื่อก่อนนี้ ท้องฟ้า แผ่นดิน และผืนน้ำ เป็นเพื่อนรักกัน
ทั้งสามอยู่ใกล้ชิดติดกัน จนกระทั่งโลกได้กำเนิดพืชและสัตว์ขึ้น
แผ่นดินและผืนน้ำก็มัวแต่ดูแลเอาใจใส่พืชและสัตว์ จนละเลยและไม่สนใจท้องฟ้า ท้องฟ้าก็เริ่มรู้สึกน้อยใจ และถอยตัวห่างออกไป ห่างออกไปทุกที ทุกที
จนถึงวันที่มีนกตัวแรกออกโบยบิน แผ่นดินและผืนน้ำจึงได้รู้ว่าท้องฟ้าได้จากไปไกลแสนไกล แผ่นดินและผืนน้ำพยายามส่งเสียงเรียกท้องฟ้า แต่ท้องฟ้าอยู่ไกลมาก เลยไม่ได้ยิน
นกตัวนั้นจึงอาสาที่จะไปบอกกับท้องฟ้า นกก็บินขึ้นสูง สูงขึ้น สูงขึ้น และส่งเสียงเรียก แต่เสียงนกนั้นเบาเกินไป ไปไม่ถึงท้องฟ้า แต่นกก็สัญญาว่า ต่อไปนี้นกทุกตัวจะบินขึ้นสู่ท้องฟ้า เพื่อนำข่าวจากแผ่นดินและผืนน้ำไปบอก
ผืนน้ำและแผ่นดินรู้สึกเศร้าใจที่เพื่อนได้ห่างออกไปไกล และคิดถึงเพื่อนเหลือเกิน ผืนน้ำพยายามที่จะม้วนตัวเป็นเกลียวคลื่นครั้งแล้วครั้งเล่า
แผ่นดินพยายามยกตัวสูงจนตั้งตระหง่าน แต่นั่นก็ยังสูงไม่พอ ยังไม่ใกล้ท้องฟ้า
พระอาทิตย์ซึ่งเฝ้ามองดูเหตุการณ์มาโดยตลอด
ก็บอกกับทั้งสองว่า เราอาจจะช่วยพวกเจ้าได้ พระอาทิตย์จึงอาสาช่วย โดยการส่องแสงลงมายังผืนน้ำและแผ่นดิน
ทำให้ระเหยกลายเป็นไอ ลอยไปรวมตัวกันเป็นก้อนเมฆ ลอยขึ้นไปบอกข่าวแก่ท้องฟ้า เล่าเรื่องราวต่างๆเป็นรูปตามที่
แผ่นดินและผืนน้ำได้พบเจอมา และบอกว่าแผ่นดินและผืนน้ำคิดถึงมาก อยากให้ท้องฟ้าลงมาสนิทแนบชิดเหมือนเมื่อก่อน
ท้องฟ้าได้รับรู้เรื่องราว ก็รู้สึกเสียใจ แต่ก็กลับลงไปไม่ได้
ฉันกลับลงไปไม่ได้หรอก เพราะฉันเติบโตขึ้น และอยู่สูงเกินไป ลงไปไม่ได้แล้ว ฉันได้แผ่ขยายตัวเองจนกว้างขวาง ที่ฉันทำได้ก็เพียงแต่เฝ้ามองดูอยู่ไกลๆ และโอบกอดแผ่นดินและผืนน้ำไว้อย่างอ่อนโยนเท่านั้น
และถึงแม้จะมีนกบินมาส่งข่าว แต่ฉันก็ยังคิดถึงแผ่นดินและผืนน้ำ
และอยากจะบอกกับทั้งสองว่า ฉันเองคิดถึงเพื่อนมากมายเพียงใด
ก้อนเมฆก็ตอบว่า อยู่บนนี้นานๆก็เหงาเหมือนกัน บางทีก็อยากกลับลงไปข้างล่างบ้าง
ท้องฟ้าเลยบอกว่า ฉันก็เหงาเหมือนกัน แต่ว่าฉันกลับลงไปไม่ได้ แต่เจ้าลงไปได้นี่ ถ้าอย่างนั้นฉันจะส่งเจ้ากลับลงไป และความคิดถึงของฉันก็หนักมากพอที่จะส่งพวกเจ้าลงไปหมดทั้งท้องฟ้า
จากนั้นก้อนเมฆทั้งหมดก็รวมตัวกัน และรวมเข้ากับความคิดถึงอันมากมายของท้องฟ้า แล้วตกลงมาเป็นหยาดฝน ส่งผ่านความรัก ความคิดถึงมายังแผ่นดินและผืนน้ำ
จึงไม่แปลก ถ้าเมื่อใดที่ฝนตก แล้วเราจะรู้สึกคิดถึงคนที่เรารัก
คนที่เราผูกพัน และบางครั้ง ท้องฟ้าก็ส่งความเหงาลงมาด้วย
----------------------------------------------------------------------
ถ้าหากอ่านบทความซึ้งๆนี้แล้ว เกิดรู้สึกคิดถึงใครขึ้นมาจับใจ ... ถ้าอยากบอกความรู้สึกคิดถึงใครคนนั้น
ส่งผ่านทางกระทู้นี้ ก็เชิญได้เลยนะครับ @^__^@
6 มิถุนายน 2546 20:14 น.
Jeff
@ถ้าไม่มีแม่ แฟนเราก็จะไม่มีคนรักดีๆ อย่างนี้หรอ
เผลอๆเธออาจต้องอยู่เป็นโสดก็ได้นะ
@แม่ไม่เคยหลอกให้เราหลงรัก
@ เพราะเราเต็มใจรักแม่โดยไม่ต้องหลง
@ แม่อาจเคยตีเราให้เจ็บตัว แต่ไม่เคยทำให้เราเจ็บหัวใจ
@ แม่ส่งเสียเรา แต่เราต้องส่งเสียแฟน
@ แม่ไม่เคยบอกเลิก
@ แม่เป็นแบงค์ส่วนตัวที่เวลากู้ไม่เคยคิดดอกเบี้ยและไม่ค่อยทวงคืน
@ แม่เห็นเราเดินแก้ผ้าตั้งแต่เล็ก โดยไม่เคยติเรื่องรูปร่าง
@ แม่เป็นคนที่เห็นเราดีกว่าแฟนของแม่เสมอ
@ ขอหอมแม่ไม่ยากเท่าขอหอมแฟน
@ แม่ยอมตัดสะดือตัวเองเพื่อให้เราเกิดมา
@ แม่สอนให้เราพูดได้ เพื่อจะไปบอกรักแฟนตอนเราโต
@ (แย่จัง) แฟนไม่ได้มีนม (สดจากเต้า) ให้กินฟรีเหมือนแม่นี่หว่า
@ แม่ยอมเป็นยัยอ้วนลงพุงตั้ง 9 เดือน เพื่อให้เราอาศัยอยู่ข้างใน
@ ก็ในประเทศนี้ไม่มี วันแฟนแห่งชาติเหมือนวันแม่ใช่มั๊ย