18 ธันวาคม 2554 05:53 น.
Hathaikarn
ฉันวิ่งเข้าไป..ในหนังสือ
บทเรียนเขียนชื่อ..ว่าคือ “โลก”
ดิน,น้ำ,ป่า,เขา....เงาไม้โบก
เหว,หิน, โสโครก...วิโยคทะเล
ขั้วโลกเหนือ-ขั้วโลกใต้
ทวีปกว้างใหญ่...ใจ หักเห
แยกตัวออกห่าง....อย่างตังเก
ร้องโอ้ละเห่...เร่ไร้ทิศ
แผ่นทวีปเลื่อน...เคลื่อนอีกฝั่ง
มหาสมุทรดุจหวัง..พลังจิต
ทะเลนี้หรือ...คือชีวิต
ดั่งน้ำกรรมสิทธิ์...ทรงฤทธา
คืบ..ทะเล ศอก...ทะเล
คลื่นซัดพัดเพ...เร่ฟันฝ่า
อุปสรรคขวากหนาม..นามชะตา
หรือโชคนั้นหนา...มาถึง..ฉัน
หน้าหนังสือ...สื่อที่สุด
เอเวอร์เรสต์ผุด...จุดใฝ่ฝัน
สองทีนปีนป่าย...ตะก่ายมัน
ดั่งพลอยอำพัน...นั้นหรือไร??
พร้อมกระโดดวิ่ง...ดิ่งบันทึก
เหวรักเหวลึก....กว่าตึกใหญ่
ชื่อ“มาเรียนา”...ค่าวัดใจ
สิบกิโลฯเองไซร้...ในทะเล
ปิดหนังสือ...คือบทเรียน
บางสิ่งที่เขียน...เวียนสรวลเส
ชีวิตจริงยิ่งใหญ่...ใช่ไกวเปล
ที่จะออกร่อนเร่...ลมเพพัด
พร้อมคำสั่ง-หน้าที่
สมุดข้อความนี้..ที่บัญญัติ
เหมือนมีไม้ขึง...ตรึงแล้วมัด
แถบดิ้นสะบัด...ชัด..ไร้ทาง
สูงสุด-ต่ำสุด
ไร้สิ่งสมมุติ...หยุดสรรค์สร้าง
หรือสวรรค์บัญชา...มาจับวาง
แท้จริง..คนต่าง...ช่างคิด..เอง
ชีวิตเป็นของเรา
มนุษย์อื่นเล่า...เฝ้าข่มเหง
ดิ้นร้นต่อสู้...ดูวังเวง
ทุกพจน์บทเพลง...บรรเลง “ชีวิต”
หทัยกาญจน์
๑๘ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔
13 ธันวาคม 2554 11:25 น.
Hathaikarn
"แสนหวงห่วงดวงใจในดวงตา"
คนหนาวท้อรอใครให้เทียมเทียบ
หากท้อแท้แพ้เปรียบเหยียบจอมเสียม
หยามใจสาดวาดฝันอันไหม้เกรียม
อาจหมดกรอบกรงเหลี่ยมยอดเยี่ยมคำ
ยามเยื้องคอยหงอยเหงารอเฝ้าพี่
รักฝากผ่านพจน์วจีที่งามขำ
ทำงานขานกานท์ขับรับร้อยนำ
เรียงรักน้องนางร่ำจำร่ายริน
จินต์ร้องรอต่อเติมเสริมภาษา
สร้างภาษิตจินตนาว่าสุขศิลป์
วานสู่สมชมเชยเคยเคียงจินต์
คู่คมใจใคร่ดิ้นสิ้นคำลา
สมคู่ล่องท่องเที่ยวเปล่าเปลี่ยวจิต
ปลดปล่อยใจใกล้ชิดสิทธิ์โหยหา
แสนหวงห่วงดวงใจในดวงตา
น้องดูต่างห่างว่าพาเคียงกัน
เพียงคู่แก้วแวววับประดับร้อย
ประดิษฐ์รักถักถ้อยสร้อยรังสรรค์
สร้างรู้สมคมคู่รู้รำพัน
เรียงรักพจน์บทฝันนิรันดรฯ
หทัยกาญจน์
๑๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔
กลบท นาคราชแผลงฤทธิ์จะคล้ายกับกลบทช้างประสานงา(หรืออักษรบริพันธ์)
6 ธันวาคม 2554 19:56 น.
Hathaikarn
อ่านกานท์ถักอักษรกลอนเพียรเขียน
เสียงเรียงร่ำจำเวียนเรียนรินศิลป์
งามตามพจน์รสร่ายสายพิณยิน
ห้วงดวงใจจดจินต์กลิ่นมนต์กล
กาลนานเนิ่นเพลินหลงตรงเช้าเข้า
สายบ่ายย่างบางเบาเฝ้าฝนหล่น
นกผกผินบินโบกโยกตนวน
จ้องมองทิวริวสนยลเยี่ยงเรียง
ดอกออกดวงพ่วงแดดแสดทอดยอด
ราวข้าวร่วงยวงกอดพรอดเพียงเสียง
ทุ่งคุ้งแควแลน้ำสำเนียงเคียง
รับกลับลมห่มเอียงเฉียงธารา
คลื่นครืนซัดพัดเห่เร่หอมกล่อม
ชายทรายหาดวาดล้อมอ้อมภาษา
เมฆเฉกรักปักล้นพ้นวาจา
ร้อยถ้อยบทรจนาพาชื่นคืน
หทัยกาญจน์
๖ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔
กลบทอักษรสังวาส แต่ละวรรคคำที่ ๑-๒ สัมผัสสระ
และคำที่ ๗-๘ สัมผัสสระ
4 ธันวาคม 2554 17:03 น.
Hathaikarn
มองดูดาวดวงหนึ่งคิดถึงพ่อ
น้ำตาคลอคอยคืนตื่นตอนค่ำ
สิบเก้าปีนี้ผ่านวารวันนำ
คือ...ทรงจำจดนั้นครั้นวัยเยาว์
ฟังปู่ย่าตายายคลายคิดถึง
ว่าชายหนึ่งนั้นเลี้ยงดูแลเจ้า
เฝ้าฟูมฟักทะนุถนอมกล่อมตอนเมา
ณ เรือนชานบ้านเก่าข้างเตาไฟ
เพียงโรคร้าย,มลาย,สลายร่าง
ทุกสิ่งอย่างยอดรักหักมอดไหม้
เหลือเพียงภาพทาบกรอบปลอบดวงใจ
กับกระดูกปลูกไว้ในเจดีย์
หากพ่อมองจ้องอยู่ดูลูกรัก
ลูกขอกราบราบตักตามวิถี
พร้อมมาลัยใจร้อยสร้อยมาลี
และมอบพจน์บทกวีนี้แด่คุณ
คำสัญญาว่าดีแทนศรีศักดิ์
จะธำรงคงหลักปักเกื้อหนุน
เป็นคนดีศีลธรรมนำค้ำจุ้น
ให้สมน้ำนมอุ่นคุณข้าวปลา
จะไม่ลืมเลือนจำคำพ่อสอน
ที่เคยร้องร่ำกลอนย้อนห่วงหา
หลับเสียเถิดเกิดใหม่ให้หวนมา
ทั้งชาตินี้ชาติหน้าข้าทดแทนฯ...
หทัยกาญจน์
๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔
4 ธันวาคม 2554 11:14 น.
Hathaikarn
"พระภูมิพลเอกองค์กษัตรา"
พระภูมินทร์ปิ่นเกล้าชาวประชา
พระบุญญาบารมีศรีสยาม
พระเกียรติเฟื่องเลื่องลือระบือนาม
พระมิ่งขวัญนั้นงามท่ามผองชน
พระทรงฤทธิ์สถิตในดวงใจราษฎร์
พระทัยหยาดห่วงใยไทยทุกหน
พระกรณียกิจพิศยินยล
พระภูมิพลเอกองค์กษัตรา
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะฯ
ข้าพระพุทธเจ้า นามปากกา หทัยกาญจน์ ประพันธ์
๔ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔