25 สิงหาคม 2547 22:14 น.
hallelujah
กระจกบนแผ่นหิน
ท่ามกลางสิ่งปลูกสร้างรอบกาย---
เม็ดฝนหล่นสาย...
ดั่งคล้ายฟ้าไห้หดหู่
อนรรฆเม็ดใสถั่งพรู
จากสูงลงสู่ต่ำดิน
คร่ำคร่ำ... ครืนครืน...
ฟ้าโศกสะอื้นไป่สิ้น
เกิดเป็นแอ่งน้ำบนแผ่นหิน
สะท้อนภาพถิ่นฟ้าใส
...เนิ่นนาน จึ่งซา
จากน้ำเม็ดหนาห่าใหญ่
ปรับเปลี่ยนแปลงเป็นละอองใส
นุ่มนวลวิไลสู่ดิน
กระนั้นเอง...
ข้าพเจ้าเพ่งกระจกบนแผ่นหิน
ได้เห็นฟ้าสวยใสไร้ราคิน
ประทับภาพอาบจินต์ให้สุขงาม
คันฉ่องส่องฟ้า
ฤๅคือปุจฉาฟ้าถาม
เนิ่นนานหรือยังมนุษยทราม
ที่หลงลืมความงามทิพยะ
เวียนว่ายอวิชชา
มัวเมามายาสวยสะ
อิ่มเอมอัตตากามะ
สนองราคะแห่งตน
ธรรมชาติ...
ถูกเจ้าฟันฟาดมากล้น
เพื่อปรับแปรเป็นผลิตผล
วัตถุ ที่ชนบูชา
มนุษย์
ต่างคนต่างงุดก้มหน้า
ดิ้นรนเพื่อให้ได้มา
มิแหงนมองฟ้าใสงาม
น้ำตาฟ้าหยุด...
กระเพื่อมจุดสุดท้ายแห่งคำถาม
เกิดบนผิวกระจกวะวับวาม
ฟ้าอร่ามในกระจกก็ติงไหว
กระจกบนแผ่นหิน
น้ำตาฟ้ารินสร้างให้
หวังคนผู้งุดหน้าไซร้
ได้เห็นทิพย์ไท้ที่แท้จริง
หวังมนุษยชาติ---
เลิกอุบาทว์ , หันเหลียวมองสรรพสิ่ง
ว่าอะไรคือความงามที่แท้จริง
ธรรมชาติ? หรือสิ่งอันมายา?
กระจกบนแผ่นหิน
น้ำตาหลั่งรินจากฟากฟ้า
ก็แค่น้ำเจิ่งบนแผ่นหินธรรมดา
คิดหรือว่าผู้คนจะเหลียวใย...
********************