22 พฤศจิกายน 2551 00:34 น.
fltsover
เมื่อก่อนผมเข้าออกร้านหนังสือแห่งนี้ไม่บ่อยนัก
แต่พักหลังมานี้เป็นไงไม่ทราบ คิดอยากอ่านขึ้นมา เลยมาที่นี่บ่อยขึ้น
แล้วผมก็เจอกับเธอ.....
ด้วยพฤติกรรมแปลกๆ ทำให้เธอดูเป็นคนแปลกๆในสายตาของหลายๆคน
ผมสังเกตเธอมานานพอที่จะคาดได้ว่า เธอจะมาที่นี่ทุกๆวันศุกร์
มานั่งลงอ่านหนังสือบนพื้นแทนที่จะไปนั่งตรงเก้าอี้ที่ทางร้านเตรียมไว้ให้
และที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ เธอมีที่นั่งประจำของเธอ มุมๆนั้นที่ไม่มีใครสนใจ
เหมือนกับว่ามุมนั้นเป็นโลกของเธอ
ในตอนแรกผมไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากมายนักหรอก
แต่จู่ๆเป็นอะไรไม่ทราบ ผมเริ่มอยากรู้ว่าโลกใบนั้นมันมีดีอะไร
ผมตัดสินใจอยู่นานก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปสู่โลกใบนั้น
ผมเดินไปเดินมา เดินวนอยู่แถวนั้นหลายรอบ
เพื่อดูว่าโลกในมือเธอชื่ออะไร มีหน้าตายังไง
แต่แล้วผมก็ทำให้โลกที่เคยเงียบเหงาของเธอต้องสะดุดลง
ผมทำมันตก ด้วยความที่กลัวว่าเธอจะรำคาญ ผมเลยเอ่ยขอโทษ รีบหยิบมันขึ้นมา
แล้วเดินจากไป......
ผมทำความรู้จักกับโลกใบใหม่ใบนี้ได้ไม่นานก็รู้ว่ามันเป็นโลกที่แสนวิเศษ
และเริ่มเข้าใจวาทำไมเธอถึงได้หลงใหลมันนัก
แต่ทำไมถึงมีน้อยคนที่จะสนใจมัน...บทกวีที่หงอยเหงา
ผมกลับไปที่นั่นอีกหลายครั้ง เดินเข้าออกโลกใบนั้นบ่อยขึ้น
รวมถึงได้เจอกับเธอบ่อยขึ้น
เราทักทายกันด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าจะไม่เคยรู้จักกัน และยังไม่รู้จักกัน
แต่ผมยินดีที่ได้ก้าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในโลกใบนั้นของเธอ
19 พฤศจิกายน 2551 16:13 น.
fltsover
วันนั้นเป็นอีกวันที่แสนจะธรรมดาสำหรับคนธรรมดาอย่างฉัน
กับร้านหนังสือร้านเก่าที่มักจะแวะเวียนไปหาอะไรอ่านคลายเหงาอยู่เป็นประจำ
ที่เก่าเวลาเดิม จนพนักงานในร้านจำได้
ฉันจะมาที่นี่ทุกเย็นวันศุกร์เพื่อพักผ่อนสมองที่เหนื่อยล้าไปกับบทกวีด้วยอากัปกิริยาที่สบายๆ
ชั้นมักจะนั่งลงบนพื้นเอาหลังพิงชั้นหนังสือแล้วก็อ่านๆๆอย่างใจเย็น
ช่วงแรกๆพนักงานในร้านต่างจ้องมองดูฉันอย่างฉงน บ้างก็เข้ามาต่อว่า
แต่ตอนนี้ทุกคนยินดีให้ฉันนั่งอ่านอย่างสบายอารมณ์
เพราะพวกเขารู้ว่าฉันจะซื้อหนังสือกลับไปก็ต่อเมื่อฉันอ่านหนังสือเล่มนั้นจบแล้ว
และอีกเหตุผลหนึ่งก็คือดูเหมือนว่าฉันจะเป็นคนเดียวที่สนใจซื้อกวีนิพนธ์อยู่ประจำ
แม้นานๆจะมีขาจรแวะเวียนมาบ้างก็ตามที
แต่แล้วความสงบเงียบของมุมหนังสือที่ถูกทอดทิ้งก็ก็ถูกทำลายลงด้วยเสียงของแข็งตกกระทบพื้น
"ขอโทษครับ" เขาหันมาบอกฉัน ก้มลงหยิบหนังสือที่อยู่บนพื้น แล้วเดินจากไป
ณ นาทีนั้นแม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ แต่ฉันก็จำเขาได้อย่างแม่นยำ
ความรู้สึกภายในของฉันมันเปลี่ยนไป นี่ฉันเป็นอะไรกันแน่!!
หลังกลับมาออกมาจากร้านหนังสือ ตลอดทั้งสัปดาห์นั้นฉันก็ไม่เหมือนเดิม
รู้สึกกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก อยากแวะไปที่ร้านนั้นทุกวัน
เหมือนกับว่าฉันอยากเจอเขาอีกครั้ง...
แล้ววันที่รอคอยก็มาถึง วันนี้เป็นวันศุกร์
ฉันรีบมาร้านหนังสือให้เร็วกว่าปกติ มานั่งที่เดิมเหมือนทุกครั้ง
ในมือถือหนังสืออยู่หนึ่งเล่ม แต่สายตาของฉันกวาดไปทั่วร้าน
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในร้าน
ใช่แล้ว!! ใช่เขาแน่ๆ
เขาเดินตรงมาทางที่ฉันนั่งอยู่ มองหาหนังสือ แล้วนั่งลงบนพื้นห่างจากฉันไปเล็กน้อย
ฉันนั่งนิ่ง แต่ภายในสั่นระรัว อย่างที่ควบคุมไม่ได้
ก่อนจะลุกจากไปเหมือนว่าเขาจะหันมายิ้มให้ฉัน เพียงแต่ฉันไม่กล้าหันไปมอง
เรื่องราวเป็นไปอย่างนี้อยู่นานหลายเดือน
ชั้นได้เพื่อนใหม่ในมุมของฉัน มุมที่ไม่เคยมีใครสนใจ นอกจากเขาคนนั้น
ทุกวันนี้แม้เราจะยังไม่รู้จักกัน ไม่แม้แต่จะเอ่ยคำทักทายกัน
แต่ฉันยินดีที่จะแบ่งพื้นที่ของมุมๆนี้ให้เขานั่ง
ยินดีที่ได้รับรอยยิ้ม และพร้อมที่จะยิ้มตอบกลับไปทุกครั้ง
ขอบคุณนะที่ทำให้มุมๆนี้ไม่เหงาอีกต่อไป...