22 พฤศจิกายน 2550 00:48 น.

.....วันที่ตรงกับคำว่าสายเกินไป.....

finallove

ผมเริ่มจะเข้าใจสถานะการแล้วว่าเรื่องของผมกับเธอมันคงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีก ตั้งแต่วันที่เธอเปิดใจให้คนใหม่เข้ามาแทนที่คำว่าเรา นับจากวัน
นั้น จนมาถึงวันนี้ 342 วัน จะร่วมปีอยู่แล้ว ทำไมผมถึงไม่เคยลบเธอออกจากใจ
ได้สักที ทั้งที่พยายามมาโดยตลอด อาจเป็นเพราะคำๆเดียวที่ไม่ต้องใช้เหตุผล
มารองรับ ไม่มีแม้แต่คำอธิบายว่าทำไมคนเราถึงได้ต้องทำอะไรเพื่อใครคนนึง
ได้มากขนาดนี้ ทำไมถึงต้องรอ ทำไมต่อมิทำไม มันเต็มไปหมด คงไม่ต้องบอกแล้วใช่ไหมว่าคำนั้นคือคำว่าอะไร
ตลอดเวลาที่เธอเลือกจะไป ผมก็ทำทุกวิถีทางที่จะยื้อเธอไว้จนผมบอกกับหัวใจ
ที่อดทนรอมาโดยตลอดว่าเหนื่อยมาพอหรือยัง คงจะยื้อต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ 
มันน่าจะมีทางออกให้กับหัวใจที่มากกว่าคำว่า.....จมอยู่กับอดีต....แล้วปีนขึ้นมาจากบ่อน้ำตาเสียที ผมบอกกับตัวเองว่าขอให้ผมทนพิษบาดแผลที่มันเจ็บอย่างนี้ต่อไปไม่ไหวเร็วๆสักที ผมจะได้เริ่มต้นออกเดินในเส้นทางใหม่จะได้เก็บน้ำตา
ไว้ใช้ในโอกาสอื่นๆบ้าง เพราะตอนนี้ มันเหนื่อยจนท้อใจ มันเจ็บไปถึงข้างใน
มันปวดจนทนไม่ไหว สุดท้ายเธอก็ไม่เคยเข้าใจ ผมเป็นเธอผมก็จะไม่พยายาม
เข้าใจ ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอยังเหลือเขาแต่ผมไม่....ไม่เหลือแม้กระทั้งเธอ....
เธอคนที่ผมเคยกลั้นน้ำตาไม่อยู่ แล้วขอร้องให้เธอทบทวนช่วงเวลาดีๆของเรา
เธอคนที่ผมเคยบอกว่าผมจะทำตัวใหม่ในแบบที่เธอต้องการ เธอคนที่ผมบอกว่า
จะลดน้ำหนักเพื่อให้เธออยู่ และเธอคนที่ผมสัญญาว่าจะทำทุกๆวันให้เหมือน
เป็นวันสุดท้ายของเรา...ขอเพียงแค่เธอให้โอกาสสักครั้ง
เพียงแค่ครั้งเดียว แต่ผมกับไม่..ไม่เคยได้รับโอกาสจากเธอเลยสักครั้ง
ไม่มีคำตอบ ไม่มีแม้กระทั้งคำลา แต่รู้ความหมายและเข้าใจตรงกันว่าตลอด 7 ปี
ที่ผ่านมา ผมไม่เคยมีค่าพอสำหรับโอกาสที่จะได้ดูแลเธอไปตลอดชีวิต มันเจ็บเกินจะอธิบายเป็นตัวอักษร จริงๆแล้วมันทำให้ผมเข้าใจแล้วว่า รักที่ไม่ได้เกิดจากรักโดยตรงแต่เกิดจากความสงสาร ความเกรงใจ และความดี สุดท้ายมันก็ต้องจบลงด้วยน้ำตาและความบอบช้ำของหัวใจ มันเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจว่ารักที่ผมเคยคิดว่าเป็นรักแท้ของผม มันไม่เคยมีอยู่จริง แต่ถ้าย้อนเวลากลับไปในวันแรก
ที่ผมเจอเธอได้ ผมก็จะยังคงเลือกเส้นทางนี้ เพราะตลอดเวลาที่เราคบกัน 
 เราเคยหัวเราะด้วยกัน เราเคยร้องไห้ด้วยกัน เราเคยมีกันและกัน
และที่สำคัญ.......เราเคยรักกัน(ใช่ไหม)........ถึงแม้ผมจะรู้ว่าตอนจบมันจะเจ็บได้
ถึงขนาดนี้ก็ตาม และทั้งหมดนี้ ช่วงเวลาที่ยากที่สุดก็คือ ช่วงเวลานี้ 
เวลาที่ผมจะจบเรื่องราวทั้งหมดและเป็นฝ่ายถอยออกมาจากชีวิตเธอพร้อมกับตัดเส้นใยที่โยงระหว่างตัวผมถึงเธอ ซึ่งสำหรับเธอแล้วมันอาจจะไม่เหลือแม้แต่เส้น
ใยบางๆเลยก็ตาม แต่ในใจลึกๆก็ได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่ง
เธอจะรับรู้ว่า ใครที่รักเธอจริง ซึ่งนั่นมันอาจจะเป็นวันที่ 
.....วันที่ตรงกับคำว่าสายเกินไป.....				
8 พฤศจิกายน 2550 03:21 น.

ทำเพื่อใคร

finallove

การให้ความสุขกับตัวเองซะบ้างมันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่กับบางความสุขมันก็แรกมาซึ่งความเจ็บปวด แต่เราก็ยังเลือกที่จะเจ็บ
ไม่รู้ทำไม ได้แต่ถามตัวเองว่าทำไมถึงต้องทำอะไรต่อมิอะไรเพื่อคนที่เขาอาจจะรับรู้หรือเขาอาจจะไม่เคยรับรู้เลยก็ตาม บางทีขอแค่ได้เป็น
ส่วนห่างๆส่วนหนึ่งในชีวิตเขาก็เพียงพอแล้ว ขอแค่ได้รับรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเขา ได้ทำอะไรเล็กๆน้อยๆเพื่อเขา  ได้เขียนรูปของเขา
ได้อ่านหนังสือที่เขาเคยอ่าน ได้เลี้ยงหมาที่เขาชอบ นานๆได้พูดคุยกันสักครั้ง ได้เป็นคนสุดท้ายที่เขามองเห็นเวลาที่เขาไม่เหลือใคร
 ขอแค่ได้เป็นก้อนหินให้เขาเหยียบเพื่อที่จะข้ามลำธารไม่ให้เท้าของเขาเปียก แล้วทำให้เขาจดจำได้ว่าเคยเหยียบลงบนหินก้อนนี้ 
เท่านั้นมันก็เพียงพอแล้ว และนี่มันก็เป็นการเติมเต็มความสุขแบบเจ็บๆได้แล้ว มีหลายๆคนคงจะสงใสว่ามันคุ้มกันหรอกับสิ่งที่ทำ
แล้วถ้าเขาไม่เคยรับรู้เลยหละ ตอบได้เพียงแค่หวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะรับรู้มัน ถึง
ถึงแม้มันอาจจะเป็นวันที่สาย แต่มันจะสำคัญอะไรเพราะ
ที่เราทำอยู่มันก็คือการให้ความสุขกับตัวเองไม่ใช่หรอกหรือ เมื่อวันนั้นมาถึง 
วันที่เขาได้มายืนในจุดที่เรายืน เขาอาจจะมองเห็น
ตัวตนของเรา ที่เราพยายามแสดงให้เขาเห็นในความมืดมาโดยตลอดก็ได้ 
อย่างน้อยมันก็ทำให้เขา "คิดถึงเรา"  แค่นี้ก็อุ่นใจแล้ว ลองย้อนถามตัวเราเองสิ
ว่าที่เรากำลังทำอยู่นี้เราทำเพื่อใครเรากำลังทำเพื่อเขาหรือทำเพื่อตัวเอง
...ยิ้มๆเข้าไว้....

...............การที่เราไม่พูดก็ไม่ได้หมายความว่าเราไม่เจ็บ......................				
24 กันยายน 2550 03:59 น.

ในคืนวันที่ 24 กันยายน 2550

finallove

คุณเคยอยากฝันถึงใครซ้ำๆกันหลายๆวันไหม ? ผมเป็นคนนึงที่อยากจะฝันถึง
คนที่ผมอยากฝันถึง หลายๆวันแต่ มันไม่เคยจะทำได้ 
ยิ่งเราพยายามฝันถึงมากเท่าไหร่มันก็ยิ่งจะเปลี่ยนเรื่องที่เราฝันไม่รู้ทำไม 
จนมาวันนึง วันที่ผมได้ฝันถึงคนที่ผมรักที่สุด 7 วันติด
นั้นหมายความว่าผมฝันถึงเธอทั้งอาทิตย์  ฟังดูเหมือนผมจะเป็นผู้ชายที่โชคดี ได้ฝันอย่างที่ตัวเองต้องการมาตลอดแต่จริงๆแล้วไม่เลย......
       เมื่อเรื่องราวในอดีตไม่มีความหมายให้คนที่เรารักจดจำ  เมื่อวันที่คำว่า
 "เรา" ไม่ได้มีแค่เรา  มันยังคงเป็นความเจ็บปวดที่ฝังอยู่ในใจ
มาจนทุกวันนี้ สิ่งที่ผมฝันถึงคือเธอผู้เป็นที่รักได้อยู่กับคนที่เธอรัก ซึ่งใครคนนั้น......ไม่ใช่ผม....แต่เป็นคนที่ช่วยเธอสร้างบาดแผลในใจผม
ผมไม่รู้ทำไมมันถึงได้ฝันซ้ำๆกันได้ยาวนานขนาดนั้น แล้วทุกครั้งที่ตื่นมันก็
จะลงเอยด้วยน้ำตา  มันทราน ราวกับว่ามีคนจงใจให้เป็นแบบนั้น
เรื่องมันเริ่มขึ้นในเช้าวันศุกร์ที่15 ธันวาคม 2549 เวลาประมาณ 10 โมงเช้า  
ทำไมผมถึงจำได้งั้นหรอ ลองอ่านต่อแล้วจะเข้าใจ ผมอาบน้ำแต่งตัว
แล้วไปหาเธอที่บ้านของเธอ  เพื่อที่จะไปง้อเธอ เรามีปัญหากันมาเกือบเดือนแต่ผมจำไม่ได้ว่าเรามีปัญหาอะไรกันอาจเพราะปัญหามันไม่สำคัญสำหรับผม 
พอไปถึงผมก็เจอกับน้องสาวเธอ มันมีรางบอกเหตุแล้วว่าต้องมีอะไรแน่ๆ 
จนน้องสาวเธอบอกว่าพี่สาวไม่ได้อยู่คนเดียว ผมเดินขึ้นไปหาเธอพร้อมด้วยเสียหัวใจที่เต้นแรงจนได้ยินชัด ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก ภาพที่เห็นเธอเปิดประตูแล้วมองน่าผมด้วยความเฉยชาผมก้าวขาเข้าไปในห้องแล้วมันก็เหมือนกับในหนัง
เขาแหงนน่ามองผม สิ่งเดียวที่ผมทำได้ในตอนนั้นคือประคองร่างที่ไม่มีแรงออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด มันราวกับว่าหัวใจโดนฉีกอย่างแรง หายใจไม่ออก 
สมองไม่ทำงาน ผมออกมาไกลสุดได้แค่ชั้นล่างน่าห้องน้ำบ้านเธอ ผมล้มตัวลง
ขาสองข้างเหมือนโดนทุบด้วยค้อนขนาดใหญ่ไม่มีแม้แรงที่จะเดินต่อ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลไม่ยอมหยุด ทำไม ทำไม ทำไม คำถามเดียวในตอนนั้น
ทำไมถึงทำกับผมแบบนี้  ผมนั้งอยู่พักใหญ่ๆพยามยามโทรหาทุกคนที่จะช่วยหยุดผมได้ในตอนนั้น หยุดอะไรงั้นหรอ ในตอนนั้นความคิดที่จะ
....ฆ่าตัวตาย....มันเกิดขึ้นง่ายยิ่งกว่าการหายใจซะอีก ทุกสายที่ผมคุยด้วยพยายามบอกให้ผมออกมาจากที่นั้นให้ได้  แต่ก็ไม่สามารถหยุดผมได้
ผมหันไปเห็นน้ำยาล้างห้องน้ำขวดสีชมพูที่เหมือนจะกวักมือเลียกผมให้มา
ลองชิม ผมหยิบขวดมาตั้งข้างหน้า นั้งตัดสินใจอยู่นาน แล้วสิ่งที่หยุดผมก็คือ
เธอ  เธอหยิบมันออกไป ในตอนนั้นผมรู้สึกดีใจมากอย่างน้อยเธอก็ยังเป็นห่วงผมแต่แล้วคำพูดที่ตามมาจับความหมายได้ว่า ถ้าผมเป็นอะไรไปครอบครัว
ของผมจะต้องโทษเธอ สิ่งที่เธอห่วงไม่ใช่ผม  ไม่ใช่ผมเลย ในวันนั้นผมอยากจะให้เธอเอามีดมาปักที่อกข้างซ้ายของผมเลยด้วยซ้ำ เพราะผลของมันไม่ได้ต่างจากสิ่งที่เธอทำอยู่ มันก็เหมือนผมตายทั้งเป็นอยู่แล้ว  ถ้าเหตุการแบบนี้เกิดกับเธอ เธอคงจะรับรู้ถึงความปวดร้าวที่ผมเจอได้เป็นอย่างดี  แต่ก็ช่างมันเถิด 
สุดท้ายผมก็ยังอยู่ ผมผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าความเจ็บปวดมันจะลดลง มันกับทำให้ผมทรมานมากขึ้น ไม่รู้จะทำยังไงกับชีวิติต่อ  นี่เองที่เขาเรียกกันว่า" อกหัก " ความรู้สึกมันยากที่จะบรรยาย รองไม่ได้เจอกับตัวไม่มีทางได้รู้ว่ามันถึงขั้นที่เรียกได้ว่า ปางตาย ผมให้เวลารักษาแผลที่เธอทำขึ้นในใจผม นานพอดูมันผ่านมา 283 วันแล้ว แต่ความเจ็บไม่เคยจางหายเลย ตลอดระยะ
เวลาที่ผ่านมาผมพยายามทำทุกวิถีทางที่จะให้เธอกลับมา เพราะผมรู้ว่าผมอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอแต่ไม่มีวันนั้นอีกแล้ว ไม่มีอีกแล้วจริงๆ ทุกวันนี้ได้แต่โทษตัวเองว่าทำไมผมถึงปล่อยให้เหตุการหล่าวนั้นมันเกิดขึ้น อาจเป็นเพราะผมรักเธอไม่มากพอหรืออาจเป็นเพราะ เราไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นคู่กัน แต่อะไรหละที่ทำให้ผม
เสียใจได้มากขนาดนี้ ผมไม่เคยลืมรอยยิ้มของเธอ อ้อมกอดของเธอ มือของเธอ
กลิ่นเส้นผมของเธอ ทุกๆอย่างที่เป็นเธอยังคงกัดกินก้อนเนื้อเล็กๆที่เรียกว่า
หัวใจของผมอยู่ตลอดเวลา ผมคิดถึงเธอมากๆ มากเหลือเกิน จริงๆแล้วผมอยากเจอเธอมากๆอยากโทรไปหาเธอ อยากได้ยินเสียงเธอ แต่ก็ต้องห้ามใจเพียงเพราะไม่อยากให้เธอและเขามีปัญหากัน  ผมไม่รู้จะอยู่ในฐานะอะไรดี เพราะกลัวจะกายเป็น" มือที่สาม " ทำให้เขาแตกแยก ฟังดูแล้วมันน่าหัวเราะ  มือที่สาม ผมต่าง
หากที่มาก่อน เคยมีคนบอกกับผมว่าถ้าเรารักเขาจริงๆก็ต้องปล่อยให้เขาไปมี
ความสุข ผมได้แต่ถามตัวเองว่า......ถ้าผมเห็นเขามีความสุขผมน่าจะมีความสุขไม่ใช่หรอ......แล้วทำไมมันถึงยังเจ็บอยู่อย่างนี้ ทุกวันนี้ผมทำได้แค่เพียงแอบ
ส่งอีเมลให้เธอ ขอร้องให้เธอกลับคืนมา...... แต่ที่ผ่านมาก็ได้รู้ว่าเมลของผมมันก็ไม่ได้ต่างจากเมลขยะทั่วๆไปที่คอยสร้างความรำคาญใจให้เธอ จนมาถึงวันนี้ 
ในคืนวันที่ 24 กันยายน2550 ผมบอกกับตัวเองว่า ผมจะลืมเธอให้ได้เพราะ ผมเหนื่อยกับการที่จะต้องแอบร้องไห้ในโรงหนัง ในร้านอาหาร บนรถโดยสารและในทุกๆที่ ที่ผมคิดถึงเธอ เหนื่อยกับการที่จะต้องเปิดเพลงเสียงดังในห้องนอนเพื่อที่จะกบเสียงร้องไห้ของตัวเองไม่ให้คนอื่นได้ยิน เหนื่อยกับสิ่งที่เป็นอยู่ สิ่งที่ทำอยู่ สิ่งที่ไม่มีวันเป็นไปได้ มันน่าจะพอได้แล้วกับสิ่งที่เขาไม่เคยรับรู้เลย ความรักที่เต็มไปด้วยน้ำตามันจะมีค่าอะไร ผมจะต้องหยุดมันแต่ผมจะทำได้จริงหรอ เพราะในขณะที่เขียนนี้น้ำในตามันก็ยังไม่หยุดไหล ผมต้องใช้เวลานานแค่ไหนกันที่
จะหยุดฝันถึงเธอ............ผมรักเธอมากจริงๆ    

....ลาก่อนผู้หญิงที่ผมรักที่สุด....				
22 พฤษภาคม 2550 01:26 น.

คืนของวันที่ 9 มีนาคม 2550

finallove

มันคือเรื่องราวของเด็กหนุ่มวัย 19ปี ผู้ซึ่งสัตทาใน
ความรักและยังเชื่อมั่นในความรักที่เขาครอบครองอยู่โดยไม่รู้เลยว่าวันหนึ่ง
สิ่งที่เขาเชื่อและสัตทามันจะกลับมาทำร้ายเขา เขาเฝ้าดูแลสิ่งที่เรียกว่า ความรัก อย่างทนุถนอมตลอดระยะเวลา7 ปี จากเด็กหนุ่มซึ่งมีความสุขกับสิ่งที่เขาคิดว่า
มันคือรักแท้และมันจะเป็นรักสุดท้ายของเขา กลับกลายเป็นชายหนุ่มวัย 26ปี 
ที่ต้อนทนทุกทรมานกับความเชื่อ ความศรัทธาในวัยเยาเพียงแค่คิดว่ารักแท้มี
อยู่จริง แต่สิ่งที่หลงเหลือจากคำว่ารักแท้ก็มีแค่เพียง คาบน้ำตาบวกกับการที่ไม่เหลือใคร ...ไม่มีอีกแล้ว คนที่เคยอยู่ข้างกาย คนที่เป็นได้ในทุกๆอย่างของชีวิต คนที่เปรียบเสมือนเฟืองตัวสุดท้ายที่จะขับเคลื่อนแรงบันดาลใจ และเป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไปในแต่ละวัน.......ต่อให้ร้องจนไม่เหลือน้ำตา ก็คงไม่มีค่าไม่มีความหมายเป็นได้แค่เพียงคนที่ยังรักเธอ มันไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆ.........สิ่งที่เขายังคงเฝ้ารอในทุกๆวินาทีก็คือ สายลมแห่งความเชื่อที่จะมีโอกาสพัดพา เธอผู้เป็นที่รักกลับคืนมา ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเธอจะต้องเลิกลากับคนรักใหม่เสียก่อน
 .....เมื่อไหล่..... วันไหน......นานเพียงใด.... ยังคงเป็นคำถามที่ติดอยู่ในความ
รู้สึกของชายหนุ่มตลอดระยะเวลา 85 วันที่ผ่านมา สิ่งที่เขาไม่เคยเชื่อเลยก็คือ ความรักจะสามารถทำร้ายคนที่ทุ่มเททุกอย่างให้กับคำว่า " รัก " ได้  และยังสอนให้คนๆนึง  ได้เรียนรู้ถึงคำ 3คำ         " ทรยศ "  " ปวดใจ "  " ปางตาย " เขาเคยคิดว่าคำหล่าวนี้จะมีแค่ใน หนังสือ เนื้อเพลง และละครน้ำเน่าเท่านั้น ...นี่
..นี่มันชีวิต...ชีวิตจริง....เคยมีคนกล่าวไว้ว่า " ..เวลารักษาได้ทุกแผล.. " แต่
แผลนี้คงจะใช้เวลาค่อนข้างนานเพราะมันเป็นแผลที่เต็มไปด้วยน้ำตาและ
การรอคอย บวกกับสิ่งที่ค้างคาภายในใจ ...ทำไม..ทำไม..ทำไม..ดูจะเป็นคำถามยอดนิยมที่ยังคงติดตัวชายหนุ่มไปในทุกๆที่ ในทุกๆเวลา ไม่ว่าเขากำลังจะทำอะไรอยู่ก็ตาม และในคืนนั้น ในคืนของวันที่ 9 มีนาคม 2550 เขากำลังค้นหาทางออกให้กับความปวดร้าวที่ยังคงกัดกินหัวใจในทุกๆค่ำคืน และต้องการที่จะหยุด
การหลั่งรินของน้ำในตา  เขาหันไปเห็นสมุดจดงานเล่มเล็กๆที่หน้าปกมีรูปหมีน้อยกำลังยิ้มพร้อมปากาที่เคยใช้เฉพาะจดงาน ...ทางออก...ทางออกเดียวในตอนนั้นของเขาก็คือการเขียน เขียนอะไรก็ได้ เพื่อบรรยายความรู้สึกในตอนนั้น ซึ่ง
จริงๆแล้วการเขียนเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มไม่ค่อยจะชอบสักเท่าไรนัก และไม่เคยคิด
ที่จะเขียนอะไรที่ดูจะเป็นจริงเป็นจัง แต่มันก็เป็นทางออกเดียวในตอนนั้นจริงๆ 
เขาใช้เวลาพอสมควรในการเขียนเรื่องราวต่างๆโดยไม่สนเลยว่าคำที่ใช้ อักษรที่ใช้และตัวสะกดที่ใช้จะถูกหรือจะผิด เขาแค่อยากจะเขียนเพื่อจะเขียน หลังจากการเขียนสิ้นสุดลงเขาก็ได้เรียนรู้เพิ่มอีกอย่างหนึ่งว่าการเขียนเป็นอีกทางออกหนึ่งที่จะช่วยให้คนที่อยู่ในอารมที่เรียกว่า " อกหัก " รู้สึกดีขึ้นได้ และสิ่งที่ชายหนุ่ม
พยายามเขียนนั่นก็คือเรื่องที่ท่านพึ้งจะอ่านจบไปนั้นเอง..........


{ อยากจะให้การเขียนในครั้งนี้เป็นแนวทาง และเป็นทางออกให้กับอีกหลายๆ
คนที่กำลังตกอยู่ในสภาพเดียวกันนี้ครับ   ทุกช่วงเวลาของชีวิตมักจะมีทางออกที่ดีที่สุดเสมอ}				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟfinallove
Lovings  finallove เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟfinallove
Lovings  finallove เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟfinallove
Lovings  finallove เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงfinallove