เคยมีชีวิตคนเรามีอะไรมากมายที่ผ่านเข้ามาให้ซึมซับรับรู้ ในชีวิตคนเรามีผู้คนมากมายที่ผ่านเข้ามาให้รู้จักมักคุ้น แต่ในผู้คนมากมายเหล่านั้น อย่างน้อยคงต้องมีใครบางคนที่ทำให้เรารู้สึก “ไม่ธรรมดา” ที่จะนึกถึงเรียกว่าเป็น “ความพิเศษ” ที่เราจะยกเว้นเอาไว้จากความปกติทั่วไปของจิตใจ ก็ในเมื่อคำว่า “พิเศษ” หมายถึงความจำเพาะ ความแปลกแยก ความดีงาม ความอบอุ่นในหัวใจ กระนั้นทำไมเราไม่ปฏิบัติต่อเขาให้ตรงกับที่ใจคิด ให้ “ความรู้สึกดีดี” จากจิตใจที่ดีดี ให้ “ความอาทรถึง” จากจิตใจที่นึกถึง ให้ “ความห่วง” จากจิตใจที่เป็นห่วง ให้ไปเถอะ ให้ไปอย่างดีดี แต่มี “สติ” ให้ไปเถอะ ให้ไปอย่างอบอุ่น แต่ไม่ “คุกรุ่น” ให้ไปเลย ให้ไปเท่าไหร่ก็ได้ แต่เมื่อให้ไปแล้วต้อง “ไม่ร้อนรุ่มกลัดกลุ้ม” และหากเมื่อใดจิตใจอาจระส่ำระสาย สะดุดกับอะไรขึ้นมาบ้าง ก็จงหยุดพักตรึกตรอง อย่าปล่อยให้พายุอารมณ์โถมพัด “สิ่งดีดี” จนกระจัดกระจาย เพราะ “การให้ความหมาย” ไม่ใช่ “การตั้งความหวัง” คนสองคนให้ความหมายซึ่งกันและกัน แต่คนสองคน “จะไม่ตั้งความหวังในกันและกัน” เพราะการตั้งความหวังมักนำมาซึ่ง “การเรียกร้อง” “ความอยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ” โดยที่ไม่รู้ตัว มันร้อนนัก หนาวนัก และไม่เป็นสุข เราต้องไม่ลืมปรับอุณหภูมิจิตใจเอาไว้ที่องศาอุ่นๆ หากเริ่มรู้สึกตัวว่า ความร้อนเริ่มทวีขึ้น เราต้องค่อยๆเดินออกมาสูดอากาศเย็น หากตรงกันข้ามเราก็ต้องหลบเร้นจากความหนาวมาอาบไอแดดเช่นกัน และอย่าลืมว่า “ความพิเศษ” ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นพิเศษมากหรือพิเศษสุด หรือพิเศษอย่างยิ่งในคนคนเดียว ทั้งเราและเขาอาจจะมีคนพิเศษในวิถีชีวิตได้หลายลักษณะ พิเศษในเรื่องนั้น พิเศษในเรื่องนี้ ในเมื่อหัวใจเป็นของเรา เราก็ย่อมเลือกให้ความพิเศษกับใครก็ได้ที่ เราจะไม่ต้องแลกกับความทุกข์อย่างพิเศษกลับมา จงให้ “ความพิเศษ” เป็นชีวิตชีวา เป็นแววตาที่แจ่มใส เป็นความห่วงใยที่เมื่อนึกถึงทีไรก็ยิ้มได้ ไม่วิ่งหนี แต่ไม่วิ่งตาม ไม่หักห้าม แต่ไม่กระโจนใส่ ไม่เป็นน้ำตาลที่หวานอ่อนไหว แต่เป็นความอบอุ่นในหัวใจและเอื้ออาทร จงเป็นความแจ่มใสในอารมณ์ของตัวเอง เป็นความชุ่มชื่น สดใส เช่นสายน้ำ เป็นสีสันงดงามเช่นมวลผกา เป็นสีเขียวของใบไม้ ที่เย็นที่ตาและที่ใจ และที่ตรงนี้ จะอีกนานเท่าใด ไม่ว่า “คนพิเศษ” คนนั้นจะอยู่ใกล้ หรือต้องจากกันไกล “ความพิเศษ” นั้นก็จะคงอยู่อย่างมีคุณค่า ณ ที่เดิม ที่ซึ่งใจข้างซ้ายตรงกัน .....คัดลอกจากเมล.....
1 ตุลาคม 2551 23:13 น. - comment id 101877
2 ตุลาคม 2551 09:56 น. - comment id 101886
จงให้ ค ว า ม พิ เ ศ ษ เป็นชีวิตชีวา เป็นแววตาที่แจ่มใส "เ ป็ น ค ว า ม ห่ ว ง ใ ย ที่ เ มื่ อ นึ ก ถึ ง ที ไ ร ก็ ยิ้ ม ไ ด้" ไม่วิ่งหนี แต่ไม่วิ่งตาม ไม่หักห้าม แต่ไม่กระโจนใส่ ไม่เป็นน้ำตาลที่หวานอ่อนไหว แต่ "เ ป็ น ค ว า ม อ บ อุ่ น ใ น หั ว ใ จ" และเอื้ออาทร จงเป็นความแจ่มใสในอารมณ์ของตัวเอง เป็นความชุ่มชื่น สดใส เช่นสายน้ำ เป็นสีสันงดงามเช่นมวลผกา เป็นสีเขียวของใบไม้ ที่เย็นที่ตาและที่ใจ และที่ตรงนี้ จะอีกนานเท่าใด ไม่ว่า ค น พิ เ ศ ษ ค น นั้ น จ ะ อ ยู่ ใ กล้ ห รื อ ต้ อ ง จ า ก กั น ไ ก ล" ค ว า ม พิ เ ศ ษ นั้นก็จะคงอยู่อย่างมีคุณค่า ณ ที่เดิม ที่ซึ่งใจข้างซ้ายตรงกัน + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + เป็นคนหนึ่งที่ชอบใช้คำว่า "ค น พิ เ ศ ษ" กับคนที่มีความรู้สึกดี ในความรู้สึกของตัวเอง และความคิดคือเขามีความพิเศษในเหตุผลของเรา บางคนอาจเข้าใจไปในทางชู้สาว "ค น พิ เ ศ ษ" ไม่ใช่คนรัก มันเป็นความรู้สึกที่ปรารถนาดีต่อกัน ไม่ว่าเป็นเพื่อนหญิง หรือชาย ในความหมายของเราคือ เป็นความรู้สึกที่ไม่มีเงื่อนไข รู้สึกดี ดี บางมุมมองของอีกหัวใจหนึ่ง อาจไม่ใช่... สำหรับตัวเอง "เ มื่ อ นึ ก ถึ ง ที ไ ร ก็ ยิ้ ม ไ ด้" ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน หรือใครก็แล้ว นั่นคือความรู้สึกที่ทำให้ตัวเองมีความสุข แต่บางครั้งก็เป็นความทุกข์สำหรับคนอื่น เพราะความรู้สึกไม่ตรงกัน เหตุผลไม่ตรงกัน อาจแปรความหมายของคำว่า "ค น พิ เ ศ ษ" ไปในอีกเหตุผลของเขาเอง จะด้วยอะไรก็แล้วแต่อีกหัวใจจะคิด... เพราะนั่น "เ ป็ น ค ว า ม อ บ อุ่ น ใ น หั ว ใ จ" ที่สร้างไว้ในใจ "เ พี ย ง มี ใ ค ร ไ ว้ ใ ห้ คิ ด ถึ ง ย า ม อ่ อ น แ อ" "ค น พิ เ ศ ษ" บางครั้งตัวเองหาเหตุผลไม่ได้ แต่มันมีเหตุแน่นอน... และ "ค น พิ เ ศ ษ" ต้องมีความต่างจากคนอื่นมากมาย... ขอบคุณ คุณลุงแทนมากมาย....
7 ตุลาคม 2551 12:44 น. - comment id 101977
อบอุ่นดี ดีค่ะลุงแทน อยากให้ความพิเศษกับคนพิเศษ อยากได้รับความพิเศษกับคนพิเศษ แต่ไม่มีใครที่พิเศษ เมื่อเราเป็นแค่ใจที่เศษๆที่เขาไม่เอา
20 ตุลาคม 2551 01:53 น. - comment id 102058
ชอบมากค่ะลุงแทน เป็นอะไรที่ตรงใจ อยากคุยกับคุณจังเลยค่ะ ไม่อยากเป็นคนพิเศษหรอก กลัวหลงคารม chongko_t@hotmail.com