รถเมล์
เปรี้ยง ขจรไกล
ผมเป็นพนักงานบริษัท เป็นมนุษย์เงินเดือน ที่ทุกวันต้องขึ้นรถเมลล์ไปทำงาน
ผู้คนเบียดเสียด ที่อัดกันเป็นปลากระป๋อง ต่างเร่งรีบเดินทางไปทำงาน ผมได้นทั้งเห็นเด็ก สตรีมีครรภ์ คนชรา ต่างห้อยโห้นราวจับ อย่างกับเป็นพวกกายกรรมเปียงยาง ยังความสงสารให้บังเกิดกับผมเป็นยิ่ง ผมไม่เข้าใจว่าคนสมัยนี้เขาคิดอะไรกัน ยิ่งอยู่ในเมืองก็ยิ่งมีความเห็นแก่ตัว กันมากขึ้น ไม่มีคำว่าน้ำใจ อยู่ในสาระบบการดำเนินชีวิต อะไรก็ได้ที่ทำให้ตัวเองสบาย ก็ต้องรีบทำ
"อ๊ะ มีที่นั่งว่างแล้ว " ผมรีบไปนั่งยังที่ว่างใกล้ ๆ กับที่ผมยืนอยู่ โชคดีที่ตอนนี้รถเมลล์ยังไม่ค่อยมีคนเท่าไร แต่คิดว่าป้ายหน้าก็คงจะมีคนเยอะพอสมควร
ถึงป้ายต่อไปแล้ว มีคนเยอะแฮะ โห มีคนชราด้วย ยืนข้างผมอีกต่างหาก เอายังไงดีหล่ะ ผมเหลือบไปดูป้าย ข้างหน้าต่างรถเมลล์
"กรุณา เอื้อเฟื้อแก่เด็ก สตรีมีครรภ์ และคนชรา"
มันทำให้ผมคิดได้ ผมตัดสินใจที่..........จะนั่งต่อไป ผมไม่ยอมที่จะเสียที่นั่งของผมหรอก มันค่อนข้างจะยากเย็นนักที่ผมจะมีโอกาสสัมผัสกับที่นั่ง บนรถเมลล์ แล้วอีกอย่างผมก็มีของเยอะแยะ พะรุงพะรังไปหมด ผมหอบหิ้วกระเป๋าโน๊ตบุคเพื่อหอบงานกลับไปทำที่บ้านด้วย ไหนจะเอกสารของผมอีกหล่ะ แถมป้าคนนี้ก็ยังไม่แก่เท่าไรหรอก โหนรถเมลล์แป๊บเดียว ก็คงไม่เป็นไรมั้ง คงไม่มีใครมองว่าผมเป็นคนเห็นแก่ตัวหรอก ผมไม่อยากให้ใครเรียกผมว่า คนเห็นแก่ตัว ถ้าใครมากล่าวหาผม ผมก็มีเหตุผลว่าผมถือของพะรุงพะรัง ไม่สามารถจะสละที่นั่งให้ใครได้หรอก นี่แหละ มันต้องเป็นอย่างนี้แหละ เหตุผลที่ผมไม่ลุกให้คนชรานั่ง