ผมจะอยู่เพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตย คำกล่าวของนายสมัคร สุนทรเวช นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วหรือครับในความคิดของท่าน จริงอยู่ท่านมาจากการเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนเลือกท่าน แต่สถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้กำลังเป็นอย่างไร ท่านกำลังปิดหูปิดตาตัวเองอยู่หรือครับ ท่านคิดว่าท่านจะรักษาประชาธิปไตย ท่านไม่ออก ท่านจะให้ทำประชามติ นี่เป็นความคิดที่ผมไม่เห็นด้วยครับ ท่านคิดว่า พันธมิตรจะเสียเวลามาทำ ประชามติกับท่านมั้ยครับ แล้วท่านคิดหรือเปล่าว่าประเทศต้องสูญเสีย งบประมาณประเทศชาติอีกซักเท่าไหร่ ในการดึงเกมของท่าน กว่า 7 เดือนที่ท่านเข้ามาดำรงตำแหน่ง ประชาธิปไตยที่ท่านหมาย จะผดุงมันไว้ คือการยกพรรคพวกของท่าน ยกพลเมืองเลวผู้มากอำนาจที่เพิ่งพ้น ข้อกล่าวหาขึ้นมาบริหารประเทศงั้นหรือครับ นี่เรื่องของประเทศชาติซึ่งนับเป็น เรื่องใหญ่ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่ท่านจะนำมาเป็นเครื่องทดสอบในการให้โอกาศคน นะครับ ภารกิจของท่าน ก็มีแต่เรื่องแก้ ไขรัฐธรรมนูญเพื่อหนีคดียุบพรรค และ เพื่อช่วยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ และครอบครัวหลุดพ้นจากคดีต่างๆ ประหนึ่งว่าเป็น หน้าที่ที่สำคัญของตำแหน่งนายก ผมเป็นคนหนึ่งที่อยากให้ท่านลาออก ประเทศไทยบอบช้ำแล้วนะครับ ผมไม่ได้มาปลุกระดมนะครับ ผมเพียงแต่อยากระบายในสิ่งที่ผมคิด ผมไม่สนับสนุนความรุนแรง ไม่สนับสนุนความเป็นกฎหมู่ ซึ่งก่อความวุ่นวาย และความเดือดร้อนให้ประเทศชาติ ผมสมเพชสื่อที่บิดเบือน ปิดหูปิดตา ประชาชน ซึ่งผมคิดว่าก็คงได้รับอิทธิพลมาจากรัฐบาล สำหรับผู้ที่ไปร่วมชุมนุม ผมเชื่อว่าคงมีเจตนาดีต่อประเทศ แต่ถ้ายัง ยึดถือประชาธิปไตยอยู่ ควรจะมองว่าการชุมนุมที่ถูกต้อง และแสดงความบริสุทธ์ ใจจริงๆ ไม่ควรมีอาวุธนะครับ เพราะหากมีชีวิตใดชีวิตหนึ่งที่ต้องสูญเสีย คำถามไม่ได้อยู่ที่ว่าเป็นพันธมิตร หรือ นปก. แต่เขาเป็น คนไทย ครับ รู้มั้ยครับว่าตอนนี้ ประเทศไทยก็เหมือน ผู้ประสบอุบัติเหตุถูกรถชนอาการ สาหัสคนหนึ่ง ซึ่งคู่กรณี และบุคคลที่สามก็ต่างถกเถียงกันว่า ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ โดยไม่หันมามองคนเจ็บ ไม่มีใครนำผู้บาดเจ็บไป รักษา ไม่มีใครหยุดฟังความปวดร้าวของผู้บาดเจ็บ ขณะทั้งที่สองฝ่ายมัวเถียง กันอยู่ รู้บ้างไหมครับ ว่าความทุกข์ทรมานที่ประเทศไทยได้รับนั้น ทำให้เขา กำลังจะตาย... ประเทศไทยกำลังจะตาย แล้วนะครับ ทุกท่าน
7 กันยายน 2551 01:50 น. - comment id 101460
ใช่ จริงแท้แน่นอน ลุงหมักต้องเสียสละ เพื่อ............????
7 กันยายน 2551 07:34 น. - comment id 101463
เผาพริก เผาเกลือดีกว่า อย่าไปใช้ความรุนแรงเนน้อ อิอิ
7 กันยายน 2551 17:29 น. - comment id 101476
แอบมาเปิดอ่านจดหมายนายกคะ
7 กันยายน 2551 18:13 น. - comment id 101480
หวังว่าท่านจะได้อ่านนะคะ เป็นแรงใจให้บางคนได้ฉุกคิดค่ะ
8 กันยายน 2551 01:11 น. - comment id 101485
เห็นด้วยค่ะ
11 กันยายน 2551 14:08 น. - comment id 101545
ไม่มีใครดึงเกมอะไรหรอกครับ ประชาชนส่วนใหญ่เขามอบหมายให้มาทำหน้าที่ก็ต้อง ทำ จะไปฟังเสียงคนกลุ่มๆ นึงที่ไม่ได้ผลประ โยชน์อย่างเดียวไม่ได้ครับ ข้ออ้างทั้งนั้นที่บอกว่าประเทศเสียหาย แล้วการที่แก้รัฐธรรมนูญก็ไม่ได้ที่จะไปช่วยพรรคการเมืองเดิมให้พ้นผิดแต่อย่างใด คุณลองฟังดูให้ดีนะครับที่เขาจะแก้ แก้ข้อใด ผมอ่านดูแล้วยังไม่มีข้อไหนเลยที่จะช่วยให้พรรคพ้นผิด และที่สำคัญท่านทราบไหมครับว่าขณะนี้ที่กำลังชุมนุมของพันธมิตร ได้ข้าวกล่องแล้วใส่เงิน 500 บาทในใต้กล่องข้าว ท่านจะว่าอย่างไร
12 กันยายน 2551 17:37 น. - comment id 101557
อาจใช่ครับที่ว่าไม่มีใครดึงเกม แต่เป็นการเอาชนะกันมากกว่า ผมคิดว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรกระทำก่อนที่จะมีการกระทำผิดรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายขึ้น หากประเทศสามารถเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายได้หลังจากการกระทำผิดแล้ว อย่างนี้จะเรียกความยุติธรรมได้จากไหนครับ ในเมื่อรัฐธรรมนูญก็ผ่านการยอมรับจากเสียงข้างมากให้ผ่านรับร่างแล้ว ผมเห็นด้วยกับคำกล่าวของอาจารย์ เกษียร เตชะพีระ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่กล่าวว่า สิ่งที่ควรแก้ไขมากกว่ารัฐธรรมนูญยังมีอีกมาก โดยเฉพาะ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นการสร้างอำนาจรัฐซ้อนรัฐ ส่วนกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีความพยายามที่จะรวบรัดโดยรัฐบาล จะทำเองโดยไม่เอาประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วม สิ่งที่น่าวิตกหากยังคงดำเนินการแก้ไขกันไปเช่นนี้ คือ ประชาชนจะได้รับระบอบประชาธิปไตยครึ่งใบที่ไม่เสรี เรื่องกลุ่มพันธมิตรที่ได้เงิน 500 บาท ตามที่คุณกล่าว ผมไม่มีความคิดเห็น เพราะผมไม่ทราบครับ ว่าจริงเท็จเป็นอย่างไร อีกอย่างผมไม่ใช่กลุ่มพันธมิตรครับ แต่ผมก็ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า บางครั้งประชาชนที่ไปอาจไม่ได้เห็นดีเห็นงามกับข้อตกลงของแกนนำพันธมิตร ซักเท่าไหร่ แต่เค้าไปเพราะต้องการให้นายกลาออก ส่วนความจริงอีกอย่างที่ผมแน่ใจก็คือ กลุ่มพันธมิตร มีทั้ง อาจารย์ ดารา หมอ พระ ซึ่งเค้าคงไม่ได้เห็นแก่เงิน 500 นั่นหรอกครับ สิ่งที่ผมแสดงจุดยืนมาตลอดคือ ต้องการให้นายกลาออก โดยไปใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ คือการลงชื่อถอดถอนนายกครับ แต่เริ่มเดิมที กรณีชิมไปบ่นไป ที่นายสมัครบอกว่าเป็น วิทยากรกิตติมศักดิ์ ไม่ได้เป็นลูกจ้าง แต่กลับได้เงินเดือน 80,000 บาท ซึ่งศาลก็ตัดสินแล้วว่า ให้นายสมัคร หมดสภาพการเป็นนายก เพราะถือว่ามีส่วนได้ผลประโยชน์ ซึ่งจริงๆแล้วเค้าควรจะออกซะ แต่ก็ยังใช้ช่องโหว่ของกฎหมาย บอกว่าสามารถกลับมาเป็นนายกได้ นี่เป็นการท้าทายอำนาจศาลด้วยรึป่าวครับ กับผู้ที่บอกว่าจะรักษาประชาธิปไตย แล้วจำเป็นไหมครับ ว่านายกจะต้องเป็นนายสมัคร สุนทรเวช ที่ทำแบบนี้ก็เหมือนเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ให้รุนแรงขึ้นไปอีก เค้าเห็นประเทศอยู่ในสายตาไหมครับ หรือแค่คิดว่าจะยอมเสียหน้าไม่ได้ ก็ไม่พ้นแค่การเอาชนะกันหรอกครับ สุดท้าย ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ และผมเชื่อมั่นว่าเราก็ต่างรักชาติเหมือนกัน