หลายครั้งในชีวิตคนเรา มีทั้ง ความเหงา ความอ้างว้าง และความหวาดกลัวที่ซุกซ่อน อยู่ในส่วนลึกของหัวใจ และในหลายคนอีกเช่นกัน อยากจะปลดปล่อยความรู้สึกเหล่านี้ออกไป เพราะอยากเป็นอิสระทางความคิด แต่ความรู้สึกเหล่านี้ กลับพัดหวนคืนหา มาหาสู่เรา ครั้งแล้วครั้งเล่าในบางครา มีคนจำพวกหนึ่ง เอามาทุกข์ แปรเปลี่ยนมาเป็นความต้านทาน เพื่อจะได้ อยู่สู้กับโลกที่สับสนในใบนี้ได้ต่อไป แต่ก็มีอีกจำพวก ที่ฟูมฟาย ยึดติด กับอดีต ไม่ว่าผ่านไปไม่กี่ปีก็ลืมไม่ได้ น่าแปลกที่มันสมองคนเรามักเลือกจดจำ ในส่วนที่เลวร้ายมากกว่าส่วนดี ซึ่งมันน่าจับมันสมองออกมาตีและเรียนรู้ใหม่เสียยิ่งนัก ในยาม ที่มีปัญหาว้าวุ่นใจ ฉันเองเป็นคนที่อยู่ในจำพวก ชอบมองแม่น้ำ หรือท้องทะเล ทั้งในยามค่ำคืน ยามที่แสงพระอาทิตย์เริ่มอัสดง แม้กระทั่งในเวลาที่แสงอาทิตย์ หายลับไปกับขอบฟ้า รอดูเส้นขอบฟ้าและขอบน้ำของท้องทะเลมาบรรจบกัน เส้นสายของสายน้ำ ถ้ารับรู้อารมณ์ในแต่ละคน ที่แวะเวียนมาหา คงจะสามารถบอกเรื่องราว ความคิดของใครคนหนึ่งได้ ทะเลเหมือนมีชีวิต บางครั้งในยามค่ำคืน เหมือนได้ยินเสียง ผะแผ่ว แว่วเหมือนเสียงสะอื้น ของท้องทะเล ที่ยังคงอ้อยอิ่งอยากอยู่ในอ้อมกอดของใครยามนี้ ในราตรีที่ทอดยาว มีบางคน อาจนอนไม่หลับ แต่บางคนหลับอย่างสุขสบาย กลไกความคิดของคนต่างกันไป คงเหมือนท้องทะเลที่บางครั้งเงียบสงบ แต่สักพัก มีคลื่น มาเป็นระลอก แต่บางทีเหมือนไม่มี แต่กลับแอบแฝงอยู่ใต้ผิวน้ำรอจังหวะ ที่ถาโถมซัดกระหน่ำซ้ำเติมอย่างไม่รู้ตัว ถ้าเปรียบทะเล คงเหมือนกับชีวิต คน ที่บางครั้ง สุขสงบ แต่หลายครั้ง เงียบเหงา โดดเดี่ยว อ้างว้างจับขั้วหัวใจ คนที่มีชีวิตผูกพันกับท้องทะเล บางทีคงจะเบื่อ และต้องระวังอันตราย ที่แอบซุกซ่อนอยู่ ใต้ท้องทะเล อยู่เสมอไม่ว่าเวลาใด แต่ทะเลสำหรับฉัน คือ สิ่งที่น่าค้นหา และนำเรื่องราวที่เป็นความลับไปปลดปล่อย ให้ท้องทะเลซัดจมหายไป ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไร ก็ไม่มีใครค้นหาเจอ นอกจากตัวฉัน และท้องทะเลเท่านั้นที่รู้