มหัศจรรย์ของความสามัคคี
ลุงแทน
หากเรามองไปรอบ ๆ ตัวของเราเอง เราจะพบกับสิ่งมีชีวิตที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์ ซึ่งสิ่งมีชีวิตทั้งหลายเหล่านี้ล้วนมีมีจุดเริ่มต้นและวิถีการดำเนินชีวิต ที่เหมือนกัน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ? ...
เพราะว่าการเริ่มต้นของทุกสิ่งนั้นมักจะเริ่มต้นด้วยจุดเล็กเสมอๆ ลองนึกทบทวนถึงตัวเราเอง ที่กว่าจะมาเป็นมนุษย์สร้างโลกให้มีความสวยงามนั้น ต้องผ่านกระบวนการสืบพันธุ์ จนก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่เรียกว่า “การปฏิสนธิ” ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของรังไข่และตัวอสุจิโดยเริ่มจากเซลล์เล็กๆ หลอมรวมกันเป็นรังไข่พร้อมที่จะทำการปฏิสนธิกับตัวอสุจิ (ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ขยาย 100 เท่าส่องดู จึงจะสามารถมองเห็นถึงลักษณะทางกายภาพของตัวอสุจิได้) ต่อมากลายเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งมีชีวิตครั้งใหญ่
แต่กว่ามนุษย์เจริญเติบโตต่อได้ ต้องอาศัยอุณหภูมิ และค่า ph ที่พอเหมาะจึงจะกลายเป็นเอ็มบริโอที่จะเจริญต่อไป แต่ถ้าขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วมนุษย์ที่ทรงคุณค่าไม่มีทางก่อกำเนิดขึ้นมาได้ เลย
ไม่ใช่เฉพาะมนุษย์เท่านั้น ที่มีจุดเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ กลายเป็นสิ่งใหญ่ๆ แม้แต่พืชที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตวงจรระบบนิเวศ ก็ยังเริ่มต้นจากเมล็ดพืชเล็ก ๆ สามารถกลายเป็นดอกไม้ ต้นไม้ที่ประดับโลกด้วยความสวยสดงดงาม กระนั้นก็ตามยังขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ไม่จะเป็น ดิน น้ำ ลม และความพร้อมของเมล็ดที่พร้อมจะก่อกำเนิดเป็นสิ่งมีชีวิตยืนหยัดเพื่อโลก ซึ่งไม่ใช่ของใคร ไม่ใช่ของพืช ของสัตว์ ของมนุษย์ แต่เป็นของสรรพสิ่งบนโลก
ดังนั้น พลังอันยิ่งใหญ่ทั้งหลายมักจะเกิดจากการรวมตัวของสิ่งเล็กๆ มดตัวเดียวไม่สามารถสร้างรังยิ่งใหญ่ได้ แต่ถ้ามีมดหลายตัวรวมกัน ก็จะสามารถสร้างรังได้ยิ่งใหญ่เท่าๆ กับที่อยู่อาศัยของคน เสียงปรบมือเพียงเสียงเดียวไม่สามารถที่จะส่งเสียงดังได้ถึงกิโลเมตร แต่ถ้าเป็นเสียงปรบมือหลายพันคนก็จะมีเสียงที่ดังถึงหลายพันเมตรฉันใด มนุษย์ไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งสวยงามได้ด้วยตัวคนเดียวได้ฉันนั้น
ศักยภาพของมนุษย์ เมื่อร่วมแรงร่วมใจกันย่อมเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ สามารถสร้างโลกให้น่าอยู่ได้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดจากการรวมตัวกัน นั่นก็คือมหัศจรรย์แห่งความสามัคคี มดแดงตัวเล็กมีความสามัคคีในการสร้างรัง แล้วมนุษย์อย่างเราที่ถือว่าเป็นสัตว์ประเสริฐ จะไม่สามัคคีกันเพื่อสรรค์สร้างโลกนี้ให้น่าอยู่บ้างเลยหรือ...?????