จดหมายเปิดผนึกถึงคุณสมัคร........?????
ลุงแทน
จดหมายเปิดผนึกถึงคุณสมัคร.......?????
3 มิถุนายน 2551
เรียน ฯพณฯ สมัคร สุนทรเวช
ในฐานะที่เป็นเพื่อนบ้านคนหนึ่งของท่าน ขออนุญาตเรียกสติท่านกลับมาอีกสักหน เราเคยเห็นกันมานาน ท่านนั้นก่อนมาเป็นนายกฯ ก็ดูมีความสุขดี จัดอยู่ในขั้นผู้มีอันจะกิน ขั้นเศรษฐีคนหนึ่งในซอย 81 เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านของท่านแล้ว เปรียบกันไม่ได้เลย บ้านหลายหลังชำรุดทรุดโทรม หลังคาไม่ได้ซ่อมแซม แม้อยู่มา 30 ปีแล้ว ในขณะที่ท่านขยายอาณาเขตบ้านกว้างขึ้นๆ มีการรื้อ ก่อสร้างใหม่ เป็นระยะๆ ปัจจุบันน่าจะเป็นบ้านที่ใหญ่ที่สุดในหมู่บ้าน ท่านคิดได้บ้างหรือยังว่าในบั้นปลายของชีวิต ท่านจะเลือกให้มันจบลงอย่างไร หรือว่าท่านจะไม่เลือก เมื่อก่อนที่ท่านไม่ได้เป็นนายกฯ ประเทศไทยก็เป็นมา และเป็นไปตามวิถีทางที่ผิดบ้าง ถูกบ้าง วุ่นวายบ้าง สงบบ้าง แต่ก็อยู่กันมาได้
ขอให้นึกถึงคุณทักษิณ เจ้านายของท่าน คุณทักษิณไม่ยอมเลือกลงจากตำแหน่งนายกฯ เมื่อปี 2548 ผลที่ตามมาเป็นอย่างไร ต้องใช้ชีวิตเร่รอน ผลาญทรัพย์ที่ได้มาทั้งที่ชอบและมิชอบ ด้วยเชื่อมั่นว่า สามารถเอาชนะประชาชนผู้ไม่หลงเงินได้ ตอนนี้ถามว่าหมดไปกี่หมื่นล้านแล้วในการทวงตำแหน่งคืน นี่ไม่นับส่วนที่กำลังจะถูกยึดอีกนับแสนล้าน คุณทักษิณ มั่นใจว่า การลงทุนสร้างภาพของตนและฐานมวลชนที่อดีตคนที่ออกมาจากป่าร่วมมือกับนักการ เมืองฉวยโอกาสช่วยกันปลุกระดมด้วยอำนาจเงินและความชำนาญในยุทธวิธี จะเป็นหนทางไปสู่เป้าหมาย จนลืมคิดไปว่าคนเหล่านั้นเขาก็มีเป้าหมายของตนที่แจ่มชัดยิ่งกว่าของคุณ ทักษิณ ลองไม่มีเงินมาหล่อเลี้ยงดูสิ คนเหล่านี้จะหายเข้ากลีบเมฆ ถ้าคุณทักษิณเพียงแต่ได้คิดโดยใช้ธรรมะ ตัดสินใจคืนอำนาจให้ประชาชนไปตั้งแต่วันนั้น วันนี้คุณทักษิณจะมีชีวิตอยู่อย่างสงบสุข ยิ่งกว่าเศรษฐีคนใดในโลก เพราะเมืองไทยนั้นน่าอยู่ คดีความต่างๆ ก็จะไม่มี เพราะในสังคมไทยนั้น เรามีวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่ คือ การให้อภัย จึงไม่มีใครคิดจะเอาผิด ตามจองล้างจองผลาญดอก จะได้รับการสรรเสริญจากประชาชนด้วยซ้ำไป เพราะสิ่งดีๆ ที่คุณทักษิณทำให้กับประเทศก็มีอยู่ไม่น้อย แต่แล้ววันนี้เป็นอย่างไร เมื่อคุณทักษิณไม่ยอมเลือกโอกาสทองนั้น แต่เลือกทางนรก อย่าได้หวังว่าที่สุดแล้วประชาชนจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ไม่มีวันหรอก พวกเขามีมากเกินไปที่จะไม่ยอมยืนอยู่กับความพ่ายแพ้ เป้าหมายของพวกเขายิ่งใหญ่กว่าของคุณทักษิณมากนัก มันคือจิตวิญญาณแห่งความรักชาติไงล่ะ อย่าประเมินเพียงแค่จำนวนคนที่ตั้งใจออกมาบนท้องถนน ผลของโพลสำนักไหนก็ตามยืนยันตรงกันว่า คนส่วนใหญ่ที่เขามีข้อมูล เขาไม่รับต่อไปอีกแล้ว ส่วนหนึ่งของคนเหล่านี้แหละที่พร้อมจะออกมาสู่ท้องถนน เมื่อสถานการณ์ต้องการเช่นนั้น
ส่วน ฯพณฯ เล่า มีอะไรที่เทียบได้กับนายจ้างของท่าน ไม่มีเลย ทั้งสติปัญญา สังขาร สุขภาพ บุคคลผู้จงรักภักดี ท่านมีแต่เพื่อนที่ไร้วิญญาณ กระทะ หม้อ ตะหลิว ไงล่ะที่ท่านวิ่งไปหาเสมอไม่ว่าท่านจะเดินทางไปที่ใด แม้ไปต่างประเทศ ท่านก็ทราบอยู่แก่ใจว่าสถานะของท่านตอนนี้ คือ กำลังดิ่งลงจากหน้าผา ยังไม่ถึงก้นเหวดอก ประชาชนกำลังยื่นกิ่งไม้ ให้ท่านจับ ขอให้ท่านเลือกเอาว่าท่านจะคว้าเอาไว้ หรือจะยึดมั่นถือมั่นว่า ขอลงไปให้สุดๆ อย่าหวังพึ่งกำลังทหาร ตำรวจอยู่เลย เขาเหล่านี้ก็ไม่เคยช่วยตนเองได้ ผลงานกันยายน 2549 ยืนยันให้เห็นอยู่โทนโท่ ท่านอย่าลืมว่าทหาร ตำรวจ เมื่ออยู่นอกเครื่องแบบ เขาก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง พ่อ แม่ ลูกเมีย พ่อตา แม่ยาย ก็เป็นประชาชนที่ท่านคิดจะปราบเขา เขาจะไม่ใส่เกียร์เดินหน้าเต็มที่ให้กับท่านดอก เมื่อท่านไปแล้ว เขาก็ยังต้องอยู่กับประชาชน เพื่อนบ้าน ญาติมิตร จะให้เขาตัดขาดจากสายสัมพันธ์ดังกล่าวเพื่อท่านซึ่งรับจ้างคนอื่นมานั้นดูจะ เป็นไปได้ยาก
ท่านชอบอ้างว่า นี่มันปี พ.ศ.ไหนแล้ว ใครจะมาทำอย่างโน้น อย่างนี้ไม่ได้หรอก ท่านบอกตัวท่านเองสิว่านี่มัน พ.ศ.2551 ไม่ใช่ พ.ศ.2519 ภายใต้บังคับของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 การที่ท่านคิดว่าท่านจะสามารถปลุกระดมให้ทหาร ตำรวจ จัดการกับประชาชนได้อย่างเมามัน โดยอาศัยพระราชบัญญัติความมั่นคง เป็นเครื่องมือนั้น ทหาร ตำรวจ ที่บ้าระห่ำไม่ยอมลืมหู ลืมตาดูโลกนั้นมีอยู่แต่ไม่มากเท่ากับพวกที่มีการศึกษา รู้เท่าทันนักการเมืองตกยุค ท่านรู้หรือเปล่าว่าตำรวจเดี๋ยวนี้แม้เป็นชั้นประทวน เขาขวนขวายศึกษาต่อจนสำเร็จขั้นปริญญาตรี จนถึงระดับปริญญาโท ก็ยังมี เขาอ่านหนังสือ เขาดูข่าวสารจากอินเทอร์เน็ต เขาไม่ยอมให้ท่านจูงง่ายๆ เหมือน พ.ศ.2519 หรอก หรือท่านหวังจะให้มวลชนคนไทย ที่ประกอบด้วย ขี้เมา คนถูกหลอกด้วยสินจ้าง และอันธพาลรับจ้างราคาถูก ซึ่งมีการระดมกันอย่างหนักในตอนนี้ ให้เข้ามาทำร้ายฝ่ายพันธมิตรฯ จะได้เกิดสงครามท้องถนน ให้เลือดตกยางออกสมใจของท่าน ขอถามว่า ตัวท่านจะได้อะไรในความเลวร้ายที่จะเกิดขึ้นนั้น ท่านคุยเสมอว่าเป็นนักการเมืองชั้นเซียน ท่านอ่านเกมไม่ออกอีกหรือ ลงท้ายผู้ต้องรับผิดชอบในความเลวร้ายหนีไม่พ้นตัวท่าน
ในฐานะเป็นเพื่อนบ้านผู้ปรารถนาดี จึงขอเรียนเสนอแนะท่านอย่างสุภาพว่า ได้เวลาที่ท่านจำเป็นต้องคว้ากิ่งไม้ที่ไร้หนาม ซึ่งประชาชนยื่นให้นี้ได้แล้ว และรีบปีนออกมาเสียจากเหวนรกนั้น แปลเป็นภาษาไทย พ.ศ.2551 ตรงไปตรงมาว่า “ถึงเวลาเก็บของกลับบ้านเสียที”
จาก ผู้ที่ยังเต็มใจเป็นเพื่อนบ้านของท่าน