โจ๋ซ่ากับสี่ขาตัวป่วน(3)

ยักษ์ใหญ่ใจดี

อาทิตย์ต่อมา นายปังได้ออกจากโรงพยาบาล เรื่องที่โดนรถชนเหมือนกับความฝัน แผลที่บาดเจ็บหายจนหมอยังแปลกใจ ทั้งปังและแก้มไม่ได้คิดอะไรมากและจดจ่อเกี่ยวกับงานกีฬามหาลัย แก้ม(versionดาวมหาลัย)คุมงานฝั่งจัดเวที ส่วนปัง(Version Die Hard4.0) รับหน้าที่General Supporter พูดง่ายๆ คือ เบ๊นั่นเอง
นายปัง ตรงนั้นอย่าระบายให้มันเข้มเกินไปนักสิ เสียงของวิทิต หรือ ที่คนอื่นเรียกติดปากว่ายัยวิก ชายร่างเล็กดูคล้ายผู้หญิง เป็นพี่บัณทิตของมหาลัย แล้วก็อย่าลืมขนกระถางต้นไม้กับเสื้อเชียร์ของน้องๆมาด้วยละ
 ครับๆ ได้ข่าวว่าตูเพิ่งออกจากโรงบาล ผมคิด
เออแก้ม แล้วตกลงพิธีกรชายที่จะมาแทนคนที่เจ็บไปน่ะ หาได้รึยัง วิกถาม
แก้มถามคนอื่นแล้วค่ะพี่ ก็คงเหลือคนเดียวน่ะล่ะค่ะ ยัยก้อยชี้มาทางผม ด้วยรูปร่างหน้าตาไม่เป็นมิตรบวกกับท่าทางนักเลง ทำเอาวิกอึ้งไปครู่นึง
ว่าแต่ปัง เธอมั่นใจว่าจะทำได้เหรอ งานคราวนี้เป็นทางการไม่เหมือนที่เธอเคยพูดให้นิสิตและอาจารย์หัวเราะชอบใจแบบที่ผ่านมานะ
ถ้าไม่มีทางเลือกละก็นะ ผมถอนหายใจเบาๆ
ลืมใครไปรึเปล่าครับ ถ้าให้นักเลงนั่นเป็นหน้าตามหาลัยคงเสียหน้าแย่ เสียงคุ้นหู นายพานนั่นเอง มันยังอาฆาตผมไม่เปลี่ยน ผมเฉยๆ ขี้เกียจพูดกับมัน
เออสิ อย่างพานอาจจะเหมาะสมกับงานนี้มากกว่าก็ได้ วิกพยักหน้า ว่าไงแก้ม คิดว่าจะเป็นพิธีกรคู่กับพานได้มั้ย
เอ่อ.ถ้าพี่วิกว่ายังงั้น..ก็ได้ค่ะ..เดาว่า ยัยแก้มคงโต้แย้งอะไรไม่ได้ เพราะพานเป็นนศ.ดีเด่น หน้าตาดี พ่อรวยด้วย(เกี่ยวมั้ยนี่)
มันแน่อยู่แล้ว หนุ่มหล่อมันต้องคู่กับสาวสวย(ยัยแก้มเนี่ยนะ)เป็นธรรมดาอยู่แล้ว ไอบ้านนอกอย่างแกน่ะฝันไปเถอะ ไปกันเถอะแก้ม ไอพานถากถางผม แล้วโอบไหล่แก้มจากไป ดูท่าสาวน้อยจะมองผมอย่างเศร้าๆ
             เอาวะ เมื่อเพื่อนอยู่ในที่นั่งลำบาก จะไม่ให้ช่วยก็กระไรอยู่  เย็นวันนั้นผมนัดแก้ม(Version เด็กกะโปโล) พร้อมแผนพิฆาตไอพาน เอาให้มันอายจนแทรกแผ่นดินหนีเลย หึๆๆๆๆๆ แผนมีอยู่ว่าผมจะเตรียมข้าวกล่องบูดให้แก้มเอาไปให้พานกินก่อนวันเปิดงาน เอาให้มันขี้แตกกลางเวทีขายขี้หน้าประชาชี หัวเราะทีหลังดังกว่าเฟ้ย หึๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทั่นผู้อ่านคงนึกสภาพนายปังออก เขี้ยวงอกหางโผล่แล้วละคับ ชั่วร้ายจริงๆ
         
              แต่พอถึงวันงาน ยัยก้อยกระหืดกระหอบวิ่งมาหาผม
ปัง!! ปัง!!
อะไรวะ โหวกเหวกเชียว ผมถาม
ก็นายพานน่ะสิ  สงสัยเพราะข้าวกล่องที่นายให้ทำพิษ ตอนนี้เลยท้องเสียอยู่ที่บ้านมาไม่ได้น่ะ
อะไรนะ!!? ก็ชั้นอุตส่าห์ย้ำนักย้ำหนาให้แกกะเวลาให้ดีๆไม่ใช่หรอไง
ก็เมื่อวานฉันกะจะบอกมันอย่างนั้น แต่พอเห็นปุ๊บ มันกลับไม่รอกินเดี๋ยวนั้นเลยน่ะสิ
เวนแล้วไง แล้วจะเอายังไงล่ะ แกขึ้นคนเดียวได้มั้ย
จะบ้าหรอ ข้อมูลให้จำเยอะจะตาย เพราะงั้นถึงต้องมีพิธีกรสองคนไงแก้มเสียงแหวว
งานเริ่มเมื่อไหร่ผมถาม
บ่ายโมงตรงน่ะสิ แกจะหาหรอ หาใครที่ไหนล่ะ
ชั้นเอง ผมตอบหนักแน่น
จะบ้าหรอ ข้อมูลเยอะแยะแบบนี้จำได้ภายในวันเดียวยังเป็นไปไม่ได้เลย
ชั้นคิดแผนขึ้นมาชั้นก็ต้องรับผิดชอบสิ
แล้วงานที่แกทำอยู่ล่ะจะเอายังไง
เออน่ะ ชั้นมีแผนดีๆ แกช่วยชั้นหน่อยนะ
สิบนาทีต่อมา
ทำไมกูต้องมาทำงานยังงี้ด้วยฟะ ป้อมนั่นเอง ผมให้แก้มไปขอร้อง(แกมหลอก)ว่า มีเรื่องให้ช่วยเร่งด่วน พอล่อออกมาได้ ผมก็ออกโรงบังคับให้มันช่วยงานแทนผม ไม่งั้นมันก็ต้องขึ้นเป็นพิธีกรแทน
นะจ๊ะป้อม ถึงว่าเห็นเพื่อสาวน้อยบอบบาง  ความจริงเราว่าอย่างป้อมน่ะชายชาตรี.
พอเถอะยัยแก้ม เสียดายข้าว ป้อมตอบเซ็งๆ
ทำไมป้อมเป็นคนยังงี้อ่ะ ยัยแก้มทำท่านางเอกเข้าบทโศก
ไม่ต้องเลย ชั้นรู้จักไอปังมาตั้งนาน คิดว่ามันไม่เล่าเกี่ยวกับแกมั่งรึไง           
ไอปัง ผัวะ!!!! เสียงรองเท้าฟาดหน้าผมเข้าให้ นี่สิยัยแก้มที่ผมรู้จัก
เออ กูขอร้องละ ทั้งกูและแก้มก็ลำบากเหมือนกันนะเฟ้ย 
ช่วยไม่ได้ ไอป้อมปกติที่เหมือนไม่เอาการเอางาน แต่พอเกี่ยวกับเพื่อน มันไม่เคยปฏิเสธ ทั้งผม แก้ม และป้อมอยู่กันได้เพราะพวกเราคล้ายกันตรงจุดนี้นี่เอง
         เอาละ ปัญหาต่อไปคือ จำสิ่งที่จะพูดให้ได้ทั้งหมดและซ้อมพูดให้ทันเวลางาน ตอนนี้เก้าโมงแล้ว เหลือเวลาอยู่สี่ชั่วโมง เครียดยิ่งกว่าเตรียมสอบโอเน็ตเอเน็ตอีก(เวอร์เข้าไป) ระหว่างที่ผมและแก้มกำลังเคร่งเครียดอยู่นั้น ผมไม่ได้สังเกตเลยว่า มีสิ่งแปลกประหลาดเหนือธรรมชาติที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้อยู่ใกล้ๆตัวผมนี่เอง
        ปัง เซตผมให้ดีๆหน่อยสิยะ แก้มบอกผมขณะที่ผมกำลังซ้อมท่องบทพูดพร้อมกับแต่งตัวไปด้วย ผมกังวลอย่างเดียวคือนี่เป็นครั้งแรกที่ต้องทำงานใหญ่แบบนี้ ผมต้องไปพูดท่ามกลางคนทั้งมหาลัยในหอประชุมใหญ่ ครั้งแรกด้วย เป็นใครก็ต้องปอดเป็นธรรมดา
         อย่าเพิ่งขาสั่นนา เป็นผู้ชายต้องใจกล้าเข้าไว้ แก้มจับไหล่ผมให้กำลังใจ มองผู้ชมผ่านหลังม่านเวที ผมสังเกตเธอ ไหล่เธอสั่นยิ่งกว่าผมอีก ยัยนี่ทำเป็นเก็บอาการเรอะ
        ยัยบ้า ห่วงตัวเองก่อนเถอะ ผมโอบหัวเธอซบไหล่ผมเบาๆ ผมทำยังงี้ประจำตั้งแต่รู้จักกับแก้มแล้ว
       
       ตาบ้า ทำมาดพระเอกเรอะ แก้มปล่อยท่าเฮดล็อครัดคอผมจนหายใจไม่ออก เฮ้ยๆ เดี๋ยวกูก็เดี้ยงไปอีกคนหรอก
        ขอบใจย่ะ แบร่ แก้มปล่อยคอผมออกแลบลิ้นใส่ เวลาเธอยิ้มเธอน่ารักเหมือนเด็กๆ ผมถอนหายใจเบาๆ
          เอาละ ไปกันเถอะ
        อืม
       เสียงผู้คนกระหึ่มเวที เมื่อผมและแก้มก้าวออกไป เสียงฮือฮาอื้ออึงดังขึ้นมาเป็นระยะ คงเพราะคนคงไม่ค่อยรู้จักผมเท่าไหร่นั่นเอง
         
         สวัสดีครับ/ค่ะ ขอต้อนรับเข้าสู่งานกีฬาภายในมหาวิทยาลัยไชยพฤกษ์ ซึ่งเป็นครั้งที่ 27 แล้วที่มีงานนี้ขึ้นมานะครับ
         
       แล้วงานแข่งขันในปีนี้มีอะไรบ้างคะ
       สำหรับปีนี้เราก็จะมี ฟุตบอล บาสเก็ตบอล วอลเลย์บอล..
 เฮ่อ นึกว่าจะไปไม่รอดซะอีก ทำได้ดีเหมือนกันนี่นา นายปังคนนั้นน่ะ วิกนั่นเอง ในฐานะที่ตัวเองต้องรับผิดชอบทุกอย่างในงานกีฬาทุกๆปี ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวก็จะโดนเหล่าอาจารย์รุมสวดทันที
อืม แต่ผมว่าแบบนี้ไม่เหมาะกับมันเล้ย น่าเบื่อ ป้อมที่ยืนอยู่ข้างๆพูดขึ้น
ให้เป็นพิธีกรนะยะ ไม่ใช่พิง ลำพระเพลิง จะได้เล่นตลกทอล์กโชว์ได้น่ะวิกเสียงแหวว ตัดมาที่ผมกับแก้ม
คราวนี้มาแนะนำตัวนักกีฬาของแต่ละคณะกันดีกว่าค่ะ.
ครับ เริ่มจาก คณะสังคมศาสตร์.เฮ!!! คณะมนุษย์ศาสตร์.เฮ!!! คณะวิศวกรรมศาสตร์(ซึ่งเป็นคณะที่ผมเรียนอยู่) ขอมือขวาหน่อยคร้าบบ(พูดพร้อมชูไมค์) ทั้งหอเงียบกันเป็นครู่ใหญ่ ท่าทางตามมุขผมไม่ทัน
ผมมองไปรอบๆ Can you speak Kmain(เขมร) เว่าลาวได้บ่ 
.. วิกอ้าปากค้าง
ฮ่ะๆ อย่างนี้สิไอปังของพวกเรา ป้อมหัวเราะชอบใจ
ผัวะ!!! ยัยแก้มเอาไมค์เคาะหัวผมพร้อมดึงหูผมมาข้างหลัง ขออภัยในความผิดพลาดทางเทคนิคบางประการนะค้า  ทั้งหอหัวเราะชอบใจ
 ต่อไปคณะวิทยาศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ บัญชี และสุดท้าย รัฐศาสตร์ครับ ผมพูดพลางกุมหัวโน
ต่อไปขอเชิญท่านอธิการบดีมหาวิทยาลัยขึ้นกล่าวเปิดงานด้วยค่ะ
งานนี้ เนื่องจากเป็นครั้งที่.. เอาแล้วไง ทุกงานที่เชิญท่านอธิการบดีมาพูด แกร่ายยาวไม่เคยต่ำกว่าสิบนาที แต่เพราะโดนบังคับเลยเลี่ยงไม่ได้ ผมกับแก้มไปยืนรอข้างหลังเวที
หาว ผมแอบหาวอย่างช่วยไม่ได้ เพราะผมต้องมาขนของตั้งแต่ตอนตีห้ากับรุ่นน้องไม่กี่คน แถมต้องมาเตรียมพูดในช่วงเวลาสั้นๆจนถึงบ่ายอีก ต้องเพลียเป็นธรรดา
ตาบ้า เก็บอาการหน่อยสิยะ แก้มกระซิบเบาๆ
ให้ทำไงล่ะ มันง่วงนี่ ขณะนั้นเอง เจ้าลูกหมาตัวป่วนตั้งแต่ตอนแรกไม่รู้โผล่มาจากจากไหนวิ่งเข้ามาดึงขาผม
เฮ้ย ยัยแก้ม ชั้นฝากมันกับแกไว้ก่อนไม่ใช่เรอะ
ช่วยไม่ได้นี่นา ที่บ้านชั้นไม่ยอมให้เลี้ยง เลยต้องมาเลี้ยงที่มหาลัยนี่แหละ
แล้วทำไมมันต้องมาดึงขาชั้นด้วยวะ ผมดึงมันออก
งั่ม โอ๊ย!!!ๆ เอ๋ง ผมโดนมันงับมือเข้าให้เลยเตะกระเด็นไปนอกประตูหลังหอประชุม
ปัง รุนแรงไปหน่อยแล้วนะ แก้มท้วง
ไอหมาบ้า มากัดฉันก่อนทำไม่ล่ะ
แค่ลูกหมาเองนะ
ถ้าแกเก็บมันไว้ดีๆ ก็ไม่เป็นยังงี้หรอก
ไม่รับผิดชอบเลยนะ ทำไมต้องโยนให้ชั้นคนเดียวด้วยล่ะ ไม่นึกเลยว่าแกเป็นคนแบบนี้ พอพูดจบทั้งผมกับแก้มหันหลังให้กัน ทั้งผมและแก้มทะเลาะกันมาก็เยอะ เดี๋ยวก็คืนดีกัน
ใกล้เวลาท่านอธิการพูดจบแล้ว เดี๋ยวเราต้องออกแล้วละ แก้มพูดเรียบๆ
ฮื่อ ผมตอบทั้งๆที่ยังหันหน้าอยู่
อะไรยะ แค่นี้ทำเสียงน่ากลัวเชียว ยังไม่หายโกรธอีกหรอ
เชอะ ไม่รู้ไม่ชี้ 
ตาบ้านี่ ไว้งานจบแล้วค่อยทะเลาะก็ได้ แก้มพูดพร้อมหันผมกลับมา ทันใดนั้นเอง แก้มถึงกับตาค้าง
กรี๊ดดดดดด..แก้มกรีดเสียงดังลั่นแล้วก็หมดสติไป ผมเขย่าตัวแก้ม 
เฮ้ยเป็นไรไปน่ะ
ผมถามด้วยอาการตกใจ คนในหอประชุมและอธิการเริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น มันอะไรกันฟะนี่ ขณะที่ผมยังลนลานอยู่เสียงที่คุ้นเคยลอยเข้าหูผม
งานเข้าแล้วเว้ย เจ้าเด็กบ้า
สิ้นเสียงปุ๊บสติผมดับวูบไปในทันที				
comments powered by Disqus
  • นาฬิกาตาย

    4 มิถุนายน 2551 21:09 น. - comment id 100365

    หนุกมากคับ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน