โคนลนิเอเตอร์ ตอนที่1 กำเนิดโคนิเอเตอร์

KINGINDIE

โคลนิเอเตอร์  ตอนที่1  กำเนิดโคลนิเอเตอร์
   ปี พ.ศ. 2640 ได้มีเหตุการณืที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ในใจกลางเมืองใหญ่ ติดอันดับโลกอย่าง กรุงเทพ วันที่ 20 กพ.2640 เวลา 06.00 น. ผู้คนทั่วกรุงเทพตะลึงกับภาพที่ได้เห็น มันคือ อสูรกาย ตัวขนาดเท่าตึกใบหยกเมื่ออดีต ยืนตระหง่านอยู่กลางกรุง แต่ไม่ได้ทำลายบ้านเมืองแต่อย่างได กลับยืนเฝ้าดูฝูงสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ที่อยู่ในอาการตกใจ ฝูงสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีทางสู้มันได้เลย นั้นคือมนุษย์ ไม่มีการเคลือนไหวของทหาร เพราะโลกในสมัยนั้น ได้ห่างหายจากสงคราม ทั่วโลกเป็นพันธมิตกันหมด ทำให้ไม่มีการสร้างอาวุธ เพื่อทำสงครามกันอีก จึงไม่มีอาวุธไดๆที่จะมาต่อกรกับเจ้าอสูรกายตนนี้ สิ่งมีชีวิตสองชนิดต่างก็จ้องมองกันอย่างสงสัยว่า แกเป็นใคร แกคือตัวอะไร แต่ความสงสัยก็มีไม่นานนัก เจ้าอสูรกาย ก็จับชายคนนึงมา พลิกไปพลิกมา ตรวจดูอย่างละเอียด ก่อนที่มันจะงับหัวชายคนนั้นจนกระจุย และก็เคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย พร้อมกับมีสีหน้าที่ชื่นอกชื่นใจ ก่อนที่จะหย่อนร่างไร้หัวตามลงไปอย่าง สยดสยอง เสียงกรีส..ของผู้คนเบื้องล้างเริ่มดัง ความกลหน ทั่วกรุงเทพก็เกิดขึ้น ผู้คนวิ่งหนีตาย กันอย่างจ้าละหวั่น แต่จะหนีไปไหนล่ะ เมื่อเจ้าอสุรกายนั้นแค่เอื้อมมือ ก็กินรัศมีเป็นกิโลแล้ว 08.00น. ยังไม่มีการตอบโต้ไดจากทางทหาร ดูเหมือนมันจับมนุษย์ใส่ไว้ในพาชนะอย่างนึง ก่อนที่มันจะกระโดดขึ้นฟ้าหายไปในอวกาศ
      21 กพ. 2640 สหประชาชาติเรียกประชุม การคุมคามเรื่องนี้เป็นการด่วน มีคำถามมากมาย มันเป็นตัวอะไร มันมาจากไหน แล้วมันมาทำไม มันเป็นตัวอะไรเราไม่รู้ แต่เราขอตั้งชื่อมันตามลักษณะ และสถานที่ๆมันปรากฏ เราเรียกมันว่า "ยักษ์" ตั้งชื่อตามวรรณคดีของประเทศไทย สถานที่ๆเห็นมันเป็นครั้งแรก  มันมาจากไหน  NASA ให้คำตอบได้ นาซ่า ได้ส่งยานติดตาม เจ้ายักไปตอนที่มันกระโดดกลับไปในอวกาศ มันมากับยานอวกาศของมัน นาซ่า รายงานว่า มันคือ แนวหน้า เหมือนกับการออกมาหาอาหาร มาแค่ตัวเดียวก่อนเพื่อมาดูลาดลาว และจับคนไปเป็นตัวอย่าง นั้นก็คืออาหารของมันนั้นเอง น่าซ่า ยังรายงานอีกว่า ดาวของเจ้าพวกยัก อยู่ห่างจากโลก ประมาณ 2.5 ล้านปีแสง แต่ระยะห่างขนาดนี้ไม่ใช่ว่าจะใช้เวลานานในการเดินทางในอวกาศอีกต่อไปแล้ว นาซ่า คำนวนว่า อีก 18 ปีมันจะกลับมา และไม่ใช่แค่ตัวเดียว
     วันที่ 22 กพ. 2640 สหประชาชาติ ระดมนักวิทยาศาตร์ ระดับหัวกะทิ จากทุกประเทศ คิดค้นอาวุธ เพื่อต่อต้านการคุมคามที่เกิดขึ้นอีก 18 ปีข้างหน้า มีการเสนอให้สร้างอาวุธขึ้นมาใหม่ หลังจากที่นานาประเทศไม่ได้สร้างอาวุธมานานมาก จรวดนิวเคลียร์ ยังคงเป็นประเอกในการประชุมในครั้งนี้ แต่นั้นก็เป็นทางเลือกนึง ที่เราต้องยอมรับว่าอาจเป็นอาวุธชิ้นสุดท้ายที่ไว้ต่อกรกับมัน แต่จะยิงมันตอนไหนล่ะ ในเมื่อตอนที่มันมา แม้แต่ นาซ่าเอง ยังไม่ได้สันยานอะไรเลย แล้วจะยิงมันขนาดที่อยู่ในโลกนี่นะเหรอ แล้วประชาชนล่ะ มันก็ไม่ต่างอะไรกับที่พวก ยัก ทำหรอก เพราะสุดท้ายก็จะจบด้วยหายนะของชาวโลกเอง "เราต้องสร้าง ยัก ของเราขึ้นมาเอง" ด๊อกเตอร์ สุวิทย์ พูด ทุกคนเงียบแล้วก็หันมามองทางด๊อกเตอร์ สุวิทย์ กันหมด "เราต้องสร้าง ยัก มาสู้กับมัน" ฮ่าๆๆๆๆๆ
ตามมาด้วยเสียงหัวเราะดังลั่นไปทั้งห้องประชุม "เราจะสร้าง ยัก มาได้ยังไง คุณ สุวิทย์ คุณก็พูดเหมือนหนังการ์ตูนไปได้ หรือคุณให้เราสร้าง อุลตร้าแมนดีล่ะ 555 ผมเป็นคนญี่ปุ่นแท้ๆยังไม่คิดอะไรแบบนี้เลย" ด๊อกเตอร์ ทาฮาระ พูดแนวเย้ยหยันในความคิดของ ด๊อกเตอร์สุวิทย์ "ผมว่าแค่เรายิง มิสซาย ใส่มันก็จบแล้ว สร้างเครื่องยิง ให้มันใหญ่ๆ วางไปให้ทั่วโลก ผมว่า มันคงไม่ทนไปกว่าลูกระเบิดหรอกนะ เพราะมันก็มีชีวิตเหมือนกับเรา มันก็ต้องตายเป็นเหมือนกัน" ด๊อกเตอร์ ทาฮาระแนะนำ "แล้วถ้ามันไม่ตายล่ะ" ด๊อกเตอร์สุวิทย์โต้ "ถ้ายิงจรวดใส่มันแล้วมันยังไม่ตาย คุณคิดหรือว่า ไอ้ความหวังลมๆแล้งๆของคุณ ไอ้ยักของคุณอ่ะจะทำไรมันได้"   "เอาล่ะ พอๆๆๆ"   จัสมิน ประธานในที่ประชุม ปรามทั้งสอง  "เราต้องสำรองทุกความคิดไว้ก่อน เพราะเรายังไม่รู้ว่าเราสู้อยู่กับอะไร ส่วนเรื่อง มิสซายนั้น ถึงคุณ ทาฮาระ ไม่เสนอเราก็ต้องสร้างเพื่อป้องกันอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ความคิดของ คุณสุวิทย์ ก็นับว่าเป็นความคิดที่ดี แต่เราจะเอาอะไรมาทำ ยัก ของคุณล่ะ หุ่นยนต์ รึ ตัวใหญ่ขนาดนั้นคงเป็นไปไม่ได้ คุณก็รู้เรื่องพลังงานของเราดี เราจะเอาอะไรมาขับเคลื่อนมัน ใหญ่ขนาดนั้น"  "มนุษย์ไงครับ" ด๊อกเตอร์สุวิทย์ ตอบอย่างมั่นใจ   "มนุษย์" เสียงซุบซิบดังกระหึ่ม "คุณคงบ้าไปแล้วจิงๆล่ะ คุณสุวิทย์" นักวิทยาศาตร์จากเยอร์มันตะโกนตามหลังมา "ไม่นะครับ เราสามารถ สร้างมนุษย์ ตัวใหญ่ขนาดนั้นได้นะครับ โดยการ โคลนนิ่ง" ทุกคนในห้องประชุมเงียบกันไปหมด " ทุกวันนี้เราก็อยู่กับการ โคลนนิ่ง สัตว์มาเป็นอาหารอยู่แล้ว แถมเรายังพัฒนา ให้สัตว์พวกนี้ไม่มีความรู้สึกได้อีกต่างหาก แล้วทำไมเราจะโคลนนิ่งมนุษย์ให้มนุษย์อย่างเราๆ ให้ใหญ่โตขึ้นไม่ได้ล่ะครับ เพิ่มขีดความสามารถให้กับมัน ป้อนข้อมูลการรบให้กับ เพิ่มความแข่งแกร่งให้กับร่างกายของมัน เราสร้างฮีโร่ได้ ผมรู้ว่าทุกคนในห้องนี้สามารถสร้างสรรห์ นวกรรมควบคู่ไปกับไปกับมันได้ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธ ที่มันจะใช้ หรือการควบคุมมันก็ตาม" ทุกคนอึ้งในคำพูดของด๊อกเตอร์สุวิทย์ "ว่าต่อไปสิ คุณสุวิทย์"  จัสมินเสริม  " สรุปเลยนะครับ เราจะสร้างยักขึ้นมาจากการโคลนนิ่ง มนุษย์ สักคน แล้วเราก็ป้อนข้อมูลต่างๆในระยะเวลาในการเพาะเลี้ยงมัน เราสามารถที่จะพัฒนาพันธุกรรม และเซลต่างในร่างกายให้เติบโตขึ้นได้อย่างไม่ยากอยู่แล้ว และเราจะไม่ทำให้มันมีความรู้สึก มันจะมีสมองไว้เก็บเรื่องที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อป้องกันการมีความคิดของมัน แต่เราจะควบคุมมันโดย การสร้างประสาทร่วม กับตัวจิงของมันเท่านั้น"  แปะๆๆๆๆ เสียงตรบมือดังลั่นห้อง "แล้วคุณแน่ใจเหรอคุณสุวิทย์ ว่าไอ้ยักของคุณจะสู้กับพวกนั้นได้ " ด๊อกเตอร์ ทาฮาระ ถาม " อย่างน้อยมันก็เอาไว้สำรองมิสซายของคุณไง คุณทาฮาระ" ด๊อกเตอร์สุวิทย์ตอกกลับ
"งั้นโคลงการนี้ ผมจะให้คุณดูแล ด๊อกเตอร์สุวิทย์" จัสมิน มอบหมายงานให้ด๊อกเตอร์สุวิทย์ "ครับ ผมขอเรียกโคลงการนี้ว่า โคลนิเอเตอร์"				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน