อายด์เชโดว์สีม่วง ตอนที่1

โนรีคำราม

ละอองน้ำจากสปริงเกอร์นับสิบอันทำลอนผมสวยๆของฉันฟูฟ่องได้มากทีเดียว ฉันไม่ได้ไม่รักธรรมชาตินะ แต่ในเรือนกล้วยไม้ที่มีดอกแวนดาสีม่วงกำมะหยี่จับตา ฉันควรมีประกายอายด์ชาโดว์สีม่วงระยับที่เปลือกตาและเส้นผมที่ถูกจัดเป็นลอนเหมือนเจ้าหญิงงามในสวนดอกไม้แบบที่ในเทพนิยายเขาร่างไว้ นอกเสียจากว่าบรรดานักเขียนพวกนั้นมันสับปลับ ชอบปลูกฝังให้เด็กผู้หญิงเพ้อฝัน และเด็กคนนั้นก็โตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่เพ้อเจ้อ 
ใช่ค่ะ! ฉันเป็นผู้ใหญ่ที่เพ้อเจ้อ 
เพราะตัวอักษรของคนบางคนมันมีเสน่ห์กว่าลีลาด้านใดๆของเขาทั้งหมด 
ใช่อีกเช่นกัน! ตัวอักษรของฉันก็มีเสน่ห์กว่าลีลาด้านใดๆทั้งหมดที่ฉันเกิดมาพอจะมี
"โนรี ศุปราคะ" คือนามปากกาของฉัน นักอ่านมักชอบแนว erotic-comedy ที่ฉันเขียน แต่บางที่ถ้าครึ้มอกครึ้มใจขึ้นมาก็อาจจะหันไปเขียนวรรณกรรมเยาวชนบ้างก็มี แต่ดูเหมือนว่าฉันไม่ค่อยรุ่งกับแนวนี้เท่าไร ทั้งๆที่ฉันเองก็รักเด็กพอๆกับนางสาวไทยนั่นแหละ และฉันก็เป็นคุณป้าใจดีที่หลานๆรักด้วยนะ 
เอาเป็นว่าวันนี้เราได้รู้จักกันแล้ว ใส่ปุ๋ยกล้วยไม้เสร็จคุณจะตามฉันไปซุปเปอร์รึเปล่ามันก็เรื่องของคุณ 
เสื้อลายดอกเล็กละเอียดสีแดงเสือดนกซึ่งถูกจับจีบที่ชายแขนทั้งสองข้าง เมื่อใส่กับกางเกงขายาวสีน้ำตาลก็ดูเป็นแบบที่คุณนึกภาพได้นั่นแหละ ฉันเดินเข็นรถเข็นไปตามทางเดินระหว่างชั้นวางสินค้าโดยอาศัยอยู่ในเสื้อผ้าชุดที่ว่านี้ ข้าวของที่ไม่ลดราคาอย่าหวังจะได้มานอนอยู่ในรถเข็นของฉัน ยกเว้นพวกตระกูลของกินทั้งหลายที่กำลังถือวิสาสะอย่างไม่มีมารยาทเอาซะเลย ขึ้นหน้านักเชียว! 
จริงๆนะ เมื่อหกเจ็ดปีก่อนฉันเอวยี่สิบสามและสะโพกสามสิบสี่เท่านั้นเอง เพราะพวกเป็ดไก่ตัวเมียอย่างพวกเธอนี่แหละที่อิจฉาว่าฉันได้เกิดมาเป็นคน แถมยังรูปร่างดี ไร้ไขมัน  พวกคุณระวังละกัน เจ้าพวกนี้มีคุณไสย ชอบเสกตัวเองเข้าท้องคนแก้แค้นที่กินโคตรเง่าศักราชมัน กว่าจะรู้ตัวอีกที่ก็แก่อ้วน และในที่สุดก็เน่าเปื่อยจากความเหงา เพราะว่าขึ้นคานอยู่คนเดียว ดูฉันเป็นตัวอย่างก็ได้
ไม่ตลกนะ การที่ฉันเขียนนิยาย erotic-comedy แต่ไม่เคยทำสิ่งที่เขียน นั่นหมายความว่าฉันมีจินตนาการที่น่าทึ่งและเสน่ห์ปลายปากกาที่เป็นพรสวรรค์ชั้นครูเชียวนะ ...ไม่ได้แปลว่ฉันสับปลับหรอกย่ะ!
เมื่อก่อนนี้ฉันว่าฉันก็เคยสวยอยู่เหมือนกัน ฉันมีเสื้อผ้าสวยๆเต็มตู้ เดี๋ยวฉันกับไปทำกับข้าวให้ลูกน้องสาวเสร็จแล้วฉันจะพาไปดูของสะสมของฉัน อ๋อ ถ้าคุณไม่รังเกียจจะอยู่ทานข้าวกับหลานๆฉันก็ได้นะ น้องสาวฉันกว่าจะกลับค่ำๆ เด็กๆกลับจากโรงเรียนหิวกันซ่กเลยต้องทำให้กินก่อน 
"สวัดดีค่ะป้านี" เสียงเด็กหญิงสองคนประสานกันแจ๋วแหววดังขึ้นพร้อมกับท่าย่อไหว้ประจำโรงเรียนแบบเดียวกับที่ฉันเคยทำสมัยเด็กบอกให้ฉันรู้ว่าห้าโมงเย็นแล้ว ฉันควรจะไปหรี่ไฟต้มกระดูกหมูซะหน่อย
"ป้านีคะหนูทำดอกมะลิวันแม่สวยมั้ยคะ" ดอกมะลิทำจากกระดาษสาหนึ่งช่อถูจัดเรียงในภาชนะพลาสติกซึ่งเคยเป็นกล่องลูกอมอย่างน่าเอ็นดูแบบเด็กถูกสอนให้ทำถูกหยิบขึ้นมาโชว์ได้ไม่เท่าใบหน้าภาคภูมิใจของเด็กน้อยวัยเจ็ดขวบใส่เครื่องแบบอนุบาลสีสมพูน่ารักน่าชัง
"สวยสิลูก ออมมีทำเองเหรอคะ" ลูกสาวคนเล็กของน้องสาวฉันชื่อออมมี เด็กผู้หญิงก็อย่างงี้ชอบทำของกระจุ๊กกระจิ๊ก
"หนูได้คะแนนเต็มสิบด้วยค่ะ" 
"เก่งที่สุดเลยจ้ะ"
"หนูจะให้คุณแม่วันแม่มะรืนนี้ คุณแม่จะรักหนูไหมคะ"
"รักสิจ๊ะ หนูเป็นเด็กดีนี่คะ"
"ป้านีคะ เรียงความวันแม่หนูได้แค่เจ็ดเองค่ะ" สาวน้อยที่กำลังงอนกับคะแนนไม่พึงปรารถนาคนนี้เป็นลูกสาวคนโตชื่อว่าเจนนี่ ฉันบอกคุณคนเดียวนะ 'คนนี้น่ะคนโปรดฉัน' "หนูเขียนไม่เก่งอย่างงี้หนูจะโตขึ้นเป็นนักเขียนแบบคุณป้าได้ยังไง" 
"ไหนคะ ได้เจ็ดก็เยอะแล้วนี่คะ ให้ป้าดูหน่อยสิ" กระดาษวาดเขียนวาดรูปหัวใจสีชมพูมีแม่ลูกจูงมือกันตรงกลางน่ะคุณๆต้องเคยทำแน่ๆ ข้อความที่เธอเขียนก็ดูแปร่งๆสมวัย ฉันเป็นแม่นะดีใจตายเลยลูกเขียนให้แบบนี้
"หนูแต่งกลอนด้วย คิดว่าจะได้คะแนนดีซะอีก"
"น่ารักดีนี่คะ ไม่เห็นไม่ดีเลย"
"โธ่ป้านีน่ะปลอบใจหนู  ถ้ามันดีทำไมได้แค่เจ็ดล่ะคะ"
"โอ๊ย..ป้าบอกว่าดีก็ดีจริงๆสิคะ ตอนเด็กๆน่ะป้าก็ได้คะแนนแค่นี้ล่ะ"
"แต่หนูเขียนไม่ค่อยออกจริงๆนี่คะ ไม่กี่บรรทัดก็ไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรต่อแล้ว กลอนก็ไม่เพราะ ไม่เห็นเหมือนเพื่อนเลยเค้าเขียนได้เต็มหน้ากระดาษ"
"ก็หนูเขียนสั้นๆได้ใจความนี่คะ พระคุณแม่ใครๆก็รู้กันอยู่แล้ว จะไปเขียนให้เวิ่นเว้อทำไม เชื่อป้าสิคะครูภาษาไทยของหนูน่ะไร้รสนิยม หนูน่ะเก่งแล้วค่ะ"
"แล้วอย่างงี้ถ้าหนูเป็นนักเขียนจะมีคนชอบเรื่องของหนูไหมคะ"
"แน่นอนอยู่แล้วสิคะ หลานป้าซะอย่าง เดี๋ยวโตอีกหน่อยป้าจะสอนเคล็ดลับให้"
"สอนตอนนี้เลยไม่ได้เหรอคะ"
"ไม่ได้จ้ะต้องโตก่อน"
"ทำไมล่ะคะ"
"เอาน่า....ตอนนี้ต้องฝึกฝีมือไปก่อนถึงจะเรียนได้ผล ป้าบอกให้เขียนไดอารี หนูเขียนรึเปล่าคะ"
"เขียน...บางวัน"
"นั่นล่ะ ดีแล้ว แต่หนูต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับนะคะ"
"ค่ะ"
"เอ้า....เด็กๆไปอาบน้ำแล้วจะได้มาทานข้าวข้าวกัน"
"ค่ะ" สองเสียวแจ๋วประสานกันอย่างเชื่อฟัง   
"แล้วเร็วเข้าด้วยนะ จะได้ทำการบ้านให้เสร็จ ไม่งั้นจะอดดูสงครามนางฟ้า"อย่าว่าชมตัวเองเลยนะ ถ้าไม่ใช่ฉันน่ะ เอาเด็กๆไม่อยู่หรอก
ไข่เจียวหมูสับใส่มะเขือเทศร้อนๆถูกเสริ์ฟพร้อมต้มกระดูหมูควันฉุย มีแกงเผ็ดเป็ดย่างช่วยเสริมบารมีซะหน่อยพวกเราป้าหลานก็มีชีวิตอยู่รอดไปได้อีกวันนึง เอาล่ะพอเด็กๆเข้าที่ทำการรบ้านแล้วก็ได้เวลาที่จะพาพวกคุณขึ้นไปดูของสะสมสุดรักของฉันตามที่สัญญาไว้ เดินขึ้นบันไดดีๆล่ะ ระวังมันลั่น				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน