ค่าวหงส์หิน ๒
ถนปายี
หกนางขวัญ พากันนั่งล้อม พร้อมที่เฝ้า วิเวสเวสน
ได้ยินวาทะ สำเนียงหมอโหร หารคูณคน ทวักทวายบอกแจ้ง
พากันเสียใจ พระทัยเหิ่ยวแห้ง กลัวหกชายแพง ลูกรัก
ต่ำวาสนา บ่มีบุญนัก เหมือนหน่อเหน้า โพธรรม์
นั่งพินิจ คิดเปิก็ษากัน ถ้าบุตรในครรภ์ ปรากฏเกิดได้
ลูกของเรา เที่ยงตกต่ำใต้ ทังหกชายชุม พี่น้อง
คันวิมาลา จักประสูติท้อง พระเจื่องเจ้า โพธา
หื้อนางนึ่งนั้น เอาสุนักขา อันบ่พรากคลา พลัดนมแม่ได้
ใส่ภูษา พามาที่ใกล้ เมื่อจอมนงวัยปวดท้อง
เราหกคน พากันนั่งล้อม อย่าหื้ออื่นผู้ ใครมา
คันประสูติพ้น เอาสุนักขา เข้าเกลือกทา โลหิตแม่เจ้า
แล้วเอาปุตตา พระองค์จอมเหง้า ทิ้งทอดลง ทวาระ
กันทราบไปเถิง ปิตุราชะ หวังประสูติได้ ราชา
กลายเปนสุนัข สัตว์เดียรัจฉา ก็กราบปาทา ฝ่าละอองเจ้า
คงจักไล่หนี ทังนางหน่อเหน้า จอมมาดา แม่ไท้
เราควรแสวง สอดแนมมาไว้ สุนัขหน้อย ลายดำ
ลวดบังเกิดร้อน หินบัณฑุกัมม์ แท่นเตียงคำ อินทาอยู่ห้อง
หกสวรรค์ ที่บนโขงต้อง ทราบรู้แห่ง อุบาย
คันเถิงกาละ สิบเดือนเทิงหมาย จอมองค์ชาย หน่อพระแก้วเจ้า
จักประสูติตน ออกมาผ้ายเต้า จากในครรภ์ แม่ไท้
ส่วนวิมาลา เจ้าสร้อยดอกไม้ ก็เจ็บปวดต้อง กายา
หกนางนั่งล้อม อยู่เฝ้ารักษา คันวิมาลา ประสูติองค์เจ้า
ลืมสติตน บ่หันลูกเต้า กลัวลมเมา ปั่นซบ
หลับตาหนิม บ่หื้อกระทบ กลัวลมถั่งขึ้น อุรา
หกนางเหล่านั้น อุ้มเอาลูกหมา โลหิตทา เปลี่ยนตัวลูกหน้อย
คว้าเอากุมาร ลอดปราสาทสร้อย ป่องรูทวาร เงียบมิด
วิสุกัมม์ จักขุญาณทิพย์ เสด็จรีบได้ลาลง
รับเอาไปเลี้ยง ที่ในหอโขง วิมานองค์ เทวะโลกห้อง
นางนาฏสนม หกคนอยู่ป้อง รีบมาทูล บอกครัก
ว่าวิมาลา เกิดเปนสุนัข ตัวหนุ่มน้อยลายดำ
พระบพิตร เจื่องเจ้าบุญหนำ มีพระทัยดำ สงสัยสะหลั้ง
บ่คิดเห็นกล ฟังเบาแม่นหมั้น นึกว่าสำคัญ บ่เท็จ
ว่าวิมาลา เจ้าพลอยสว่างเม็ด บ่สัตย์ซื่อดั้น ใจองค์
ไปเที่ยวคบชู้ สุนัขหลายหน จิ่งมาบันดล ปรากฏเกิดได้
เป็นสุนักขา เลือดหมาเข้าใส้ สัตว์จังไร ถ่อยช้า
คันจักประหาร ด้วยคมมีดพร้า ก็ผิดแบบเบื้อง เทวี
การเช่นนี้ ดีแต่ขับหนี พระภูมี บัญชาสั่งให้
ไล่ออกบุรี อย่าหื้ออยู่ใกล้ โขงพารา เขตค้าย
วิมาลา ลวดคลาพรากย้าย อุ้มลูกหน้อย หมาดำ
นางไห้ร่ำร้อง ว่ากรรมเหยกรรม สังมาแกล้งทำ เยียะกรรมหื้อข้า
อยู่มาทึงวัน แม่คองหันหน้า ตามพฤฒา กล่าวชี้
ว่าลูกในครรภ์ บุตตาลูกนี้ เป็นหน่อเจ้า โพธา
อาหารเผ็ดร้อน แม่ค่อยรักษา บ่แหนมภูญชา กลัวเจ้าลูกหน้อย
ลำบากกาย ภายในห่มห้อย หมายเพิงบุญพลอย เมื่อพ้น
วิบากสังชา มาทันล้ำล้น เปนสัตว์ส่องหื้อ อายคน
หมายมาโปรดค้ำ บำรุงตัวตน พระมาดล ไพร่ฟ้าข้าเจ้า
ตามหมอโหรทวาย ทูลถวายเจื่องเหง้า ปิตุรงค์ แน่ครัก
แม่ก็อุ่นใจ เพิ่งบุญลูกรัก มากลายเกิดหื้อ เปนภัย
โอยตัวแม่นี้ จักไพเถิงไหน แต่จักบรรลัย ต้องลมแดดกล้า
แม่จักเพิ่งใผ เมื่อวันพายหน้า พระปิตุรา ไล่ทิ้ง
เหมือนตกหาดเหว พูดอยหลิ่งชิ้ง เหมือนจักขาดขว้ำ อินทรีย์
อุ้มสุนัขน้อย ร่ำไรโสกี เข้าสู่คีรี คนเดียวไต่เต้า
ไปรอดเถิงสวน อุญานสองเถ้า ขอจอดนอนเซา ยั้งพัก
นางไขอาการ หื้อแจ้งถี่ซัด บอกปู่ย่าเจ้า สวนฟัง
ขอเปนบุตรเลี้ยง เมื่อต้องทุกขัง จักอยู่ระวัง ใช้สอยใฝ่เฝ้า
พอขอฝากกาย กับยายปู่เจ้า หื้อพ้นทุกข์สว่าง สะเบย
ขอเก็บเขี่ยไว้ เทอะป้าเจ้าเหย ข้ายังบ่เคย รู้หนแห่งเต้า
ฝ่ายนายสวน ปู่ย่าสองเถ้า ก็รับรองเอา บ่เพี้ยน
ว่าอยู่กับลุง เอาเปนลูกเลี้ยง กับหลานสัตว์หน้อย สุโน
ผลไม้ เรามีอักโข ช่วยกันทำโท จอบเสียมถากหย้า
วิมาลา เจ้าไวแว่นหน้า ได้จอดยั้งอยู่กับยาย
ปริยาย บ่เนาจักเสี้ยง เท่านี้วางเปนคราว ก่อนแหล่