ผมกำลังคิดจะกลับมาปรับปรุงหน่วยเช่น มณฑลทหาร และจังหวัดทหาร ให้กระชับมากขึ้น มีระบบมากขึ้น และก็มีหน้าที่พร้อมอำนาจมากขึ้น กว่าเดิมเนื่องจากว่า งานคดีศาลต่างๆ เรือนจำ การส่งกำลัง ข้าวสาร น้ำมัน ต่างๆ เงิน เงินกู้ เงินสวัสดิการต่างๆ รวมทั้งวงดุริยางค์ การขนส่งคนและขนส่งสิ่งของล้วนที่นี่ทั้งสิ้น อ้อรวมทั้งคลับอาวุธด้วย แม้ว่าจะไม่ใช่หน่วยที่ทำการรบ แต่ก็เป็นหัวใจของหน่วยที่ทำการรบทีเดียว การจัดการภายในก็คงต้องรื้อระบบครอบครัวเสีย การหาเงินมาบริหารโดยใช้เงินค่าซ่อมค่าสร้างต่างๆโดยฮั้วกับผู้รับเหมาขาประจำก็เป็นการหาเงินมาบริหารบ้างแจกลูกน้องบ้างใช้เองบ้าง มีพี่น้องบางคนชื่นชมประเทศญี่ปุ่นมากว่าเขาทำงานกันจริงจังกว่าประเทศของเราแต่ผมก็แย้งเขาว่า ไม่จริง คนไทยแน่กว่า เพราะขนาดเงินไม่มีจะทำงานยังต้องเบียดบังหลวงนำเงินอย่างหนึ่งมาทำอีกอย่างหนึ่ง เพียงแต่ว่า ถ้าทำไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมหรือประโยชน์สูงสุด โดยที่ไม่ใช่ใช้การแอบอ้างเหมือนปัจจุบันแล้วก็คงจะเจริญก้าวหน้าไปกว่าญี่ปุ่นตั้งนานแล้ว ผมหันกลับมามองกรมฝ่ายเสนาธิการต่างๆแล้วก็ให้ต้องการที่จะปรับปรุงโดยเฉพาะ งานในหน้าที่ กรมใดก็ตามที่ทำไปแล้วทำให้งานในหน้าที่มีปัญหา หรือทำงานเพียงแต่เพื่อสร้างบารมีให้แก่ตนเองเพื่อการโปรโมทตนเองให้ได้เป็นใหญ่เป็นโตมีข้าทาสบริวารมียศใหญ่เนี่ย ใช้ไม่ได้ และที่ผ่านมาเป็นอย่างนั้น และถ้าเรามาสนใจตัวเลขกำลังพลในแต่ละระดับ ในแต่ละชั้นยศหนึ่งจะเห็นว่ามันผิดปกติ ความผิดปรกติอันนี้มันจะเกิดจากบริหารงานที่ไม่เป็นสัปะรดขลุ่ยของบรรดาจอมปัญญาบารมีที่ผ่านมา และถ้าหากแยกออกมาเป็นปีๆก็จะรุ้ได้ทันทีว่าแต่ละท่านเป็นอย่างไร ผมเรียกพวกแปดสิงห์แดนเสือมาชี้แจงตามที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมด และทั้งหมดก็รับปฏิบัติ ผมก็พยายามติดตามผลงานความคืบหน้าโดยถามแต่ละสิงห์ทุกวัน อย่าแปลกใจเลยว่าพฤติกรรมของทหารทำไมถึงเบี่ยงเบน ก็เพราะมันเบี่ยงเบนมาแต่ข้างบนแล้ว หากคนทำงานเก่งแล้วได้ดี ก็คงจะมีคนทำงานเก่งเยอะไปหมด แต่ทว่าพวกเลียเก่งเอาใจนายเก่งแล้วได้ดีเนียะมีเยอะมากเกินไปในปัจจุบัน ดังนั้นงานของผมอีกอันหนึ่งก็คือ เอาคนที่ทำงานเก่งขึ้นมาเป็นหัวหน้าให้ได้ ผลที่จะเกิดขึ้นก็คือ จะมีคนที่มีปัญญาแก้ปัญหาให้ได้ในทุกเรื่องของกองทัพทหาร อย่าให้มีคำกล่าวว่า พอยศถึงพันเอกแล้วเขาจะไม่พูดถึงฝีมืออีกต่อไป เขาพูดถึงว่าใครเป็นเด็กใคร ผมตั้งใจวาจะละคำนี้ให้ได้ ผมต้องการให้ได้ว่าคนเก่งในด้านที่ต้องการและเป็นประโยชน์ที่ต้องรุ่งเรือง และไม่จำเป็นต้องรุ่งเรืองในกองทัพทหารของผม แต่สามารถจะรุ่งเรืองได้ทุกที่ที่มีคนต้องการ อย่างน้อยอันหนึ่งที่จะค้ำประกันต่อคนภายนอกได้คือ คนที่ออกจากกองทัพได้โดยกองทัพไม่ได้ปลดนั้นคือคนที่กองทัพหวงแหน เป็นกำลังพลที่มีคุณค่า แต่ทว่าที่ต้องให้ออกไปเพราะเขาสามารถทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติในด้านอื่นมากกว่าด้านการทหาร
21 มกราคม 2551 09:35 น. - comment id 98922
ตอนที่ 7 ฟื้นตื่นสะดุ้งตื่นจากความฝัน เมื่อผมฝันมาถึงตอนนี้ผมได้สะดุ้งตืนขึ้นว่านี่มันความจริงหรือเปล่าที่ผมได้เป็นผู้บัญชาการทหาร ผมเริ่มมองเห็นภรรเมียนอนอยู่ข้างๆในห้องนอนที่อบอุ่นไอกายใต้ผ้าห่มนวมหนานุ่ม ผมเสียใจขึ้นมาทันที ที่แท้มันไม่ใข่ความจริงมันเป็นแค่ความฝันที่ผ่านมา ผมไม่สามารถจะจำความฝันที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นได้ ว่าได้ฝันอะไรไปบ้าง ผมเริ่มนึกทบทวน ผมเป็นเพียงแค่พันเอก ตำแหน่งฝ่ายเสนาธิการประจำตัวผู้บังคับบัญชา แต่ทว่ายังหาตัวผู้บังคับบัญชาคนนั้นไม่เจอ ผมนั่งลืมตาในความมืด และก็กำลังจะเริ่มคิดเหมือนที่คิดเมื่อปีกว่ามาแล้ว บางคนก็คิดมาเหมือนเมื่อสิบปีกว่ามาแล้ว ผมไม่ค่อยมั่นใจว่า ที่เป็นแบบนี้เพราะว่าความหวังร้ายของผู้บังคับบัญชา หรือความหวังดีของผู้บังคับบัญชากันแน่ และผมเองก็ถือว่าเผมเองเป็นตัวชี้วัดหนึ่งที่สำคัญของกองทัพเหมือนกัน ยามใดที่กองทัพมีผู้บัญชาการทหารที่เที่ยงธรรมเหตุการณ์อย่างนี้จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ผมอยากจะนึกย้อนไปในอดีตตั้งแต่เป็นพลเรือนเสียทีเดียวแต่ทว่ามันยาวมาก ดังนั้นผมจึงเปลี่ยนใจเหมือนทุกวันที่เคยผ่านมาแล้วนั่นก็คือ สวดมนต์ สวดคาถาชินบัญชร แผ่เมตตตา และนั่งสมาธิ เพื่อขออุทิศส่วนกุศลที่ได้กระทำให้แก่สรรพสิ่ง และขอให้สรรพสิ่งอนุโมทนา พร้อมกับอโหสิกรรมให้แก่ผมที่ได้ทำกรรมไว้ตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน แม้จะตั้งใจไม่ตั้งใจก็ตาม การไม่พยาบาทใจก็จะเป็นสุข และมีชีวิตอยู่ได้ทุกสถานะ นอกจากนี้โอกาสแบบนี้หายาก ผมเริ่มมองเห็นสิ่งที่ชอบใจหลายประการ และคิดว่าหากเรามัวแต่เสียดายวันเวลาดีดีในอดีต ทำไมเราไม่หันกลับมาคิดมาทำวันนี้ของเราให้เป็นวันที่ดีที่สุดของเราละ เรื่องสั้นผู้บัญชาการทหารก็จบแต่เพียงนี้ครับ ขอบคุณสำหรับผู้ที่ติดตามนะครับ