ตอนแรก รับตำแหน่ง ปีพุทธศักราช 2562 กระผมได้ขึ้นเป็นผู้บังคับบัญชาการทหาร ผมคิดขณะรับธงหน่วยทหารจากผู้บัญชาการทหารคนเก่า รู้ตัวว่าโง่ กับรู้ตัวว่าไม่โง่ เนี่ย มันต่างกัน เส้นทางการมาของกระผมกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ หยุดคิดแป๊บหนึ่ง ยื่นธงคืนให้แก่ผู้หมวดหนุ่มก่อน ตะเบ๊ะให้ทีนึง แล้วเขาก็นำธงออกไป กลับมาคิดต่อว่า ที่มาได้เป็นแบบไหนหนอ หนึ่ง ฝีพระหัตถ์พระผู้เป็นเจ้า สอง ฝีมือ สาม ฝีเท้า สี่ ฝีปาก ห้า ฝีไม้ ผู้บัญชาการทหารคนเก่าแกกระแอมและกำลังยื่นมือมา ผมกลับมาสู่ความเป็นจริงแล้วยื่นมือออกไปเช็ดแฮนด์กับท่านจนกระทั่งเราทั้งสองหันหน้าออกไปยังหน่วยทหารแล้ว นายสิบคนหนึ่งก็เอาไมค์มาให้ เพื่อให้ ผู้บัญชาการคนเก่าได้กล่าวอำลาแล้วผมก็จะได้กล่าวให้นโยบาย ตอนที่ท่านผู้บัญชาการคนเก่าพูดผมก็ไม่ค่อยได้ฟังมัวแต่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่ พอถึงตาผมพูดบ้าง นายทหารคนสนิทของผมก็เอาแฟ้มสีแดงมาให้พอเปิดดูก็เห็นคำกล่าวของผมตัวโต ผมได้อ่านก่อนแล้วเมื่อวานนี้ แต่ผมไม่อยากพูดแบบที่ร่างไว้ก่อนแล้ว เพราะในอารมณ์วันนี้ผมอยากพูดอีกอย่าง ในใจคิดกว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ลำบากยากเย็นจริงๆ ผมอยากจะเล่าให้ใครรู้บ้างเหลือเกินว่า ลำบากยากเย็นจริงๆ และในรอบปีที่ผ่านๆมา ไม่มีเลยที่จะมาแบบผมได้คือ แบบฝีมือ ผมสลัดความคิดฟุ้งซ่านออกไปแป๊บนึง สายตาของผมมองไปทางซ้าย แล้วมองไปทางขวา ผมเห็นสายตาของพี่น้องทหารได้มองมาที่ผมเป็นจุดเดียว เขารออะไร เขารอให้จบพิธีไวๆเพราะมันยืนตากแดดร้อน หรือเขารอจะฟังวาจาของผู้บัญชาการทหารที่เอาแต่อ่านสิ่งที่ฝ่ายเสนาธิการประจำตัวของเขาเขียนมาให้อ่านแบบนกแก้วนกขุนทองงั้นหรือ คนอย่างผมคงไม่ใช่ แม้ว่าผมจะรู้ตัวว่าโง่ไม่ได้ฉลาดไปกว่าทหารคนอื่น แต่ผมมีความจริงใจที่ตีแผ่ได้ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ผมไม่ได้กินดีไปกว่าพลทหาร แต่ผมจะภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่พลทหารจะกินดีอยู่ดีกับผม เอาละผมจะเริ่มให้นโยบายแล้ว พี่น้องทหารที่รัก ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการทหาร นโยบายของผมคือ ทหารต้องเป็นทหาร คนที่จะเป็นนายหรือผู้บังคับหน่วยได้จะต้องเป็นสุดยอดทหาร นักรบ เป็นเลือดทหาร และที่สำคัญลูกน้องต้องรัก และต่อไปผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนจะต้องได้รับความสุขสบายในการเป็นเป็นอยู่ แต่จะต้องลำบากในการสร้างกองทัพ เราจะเลิกระเบบเหี้ยๆทั้งมวล ตอนนี้ผู้สื่อข่าวหันมาถ่ายภาพกันใหญ่ ผู้บัญชาการเก่ามองหน้า ด้วยถ้อยคำที่รุนแรงของผมที่กล่าวออกไป ลูกน้องเริ่มหันหน้าไปกระซิบกระซาบ ผมก็พูดต่ออีกว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องทำ อย่าให้ใครรังแกทหารแท้ๆได้ ความขมขื่นของเราที่ทนทรมานมากว่าร้องปีจะต้องจบลง และต่อไปจะไม่มีทหารโง่โง่อีก แต่จะมีแต่ทหารที่จริงใจต่อประเทศชาติเท่านั้น ผมจะจน อด เหมือนกับพวกท่าน จนกว่าพวกท่านทั้งหลายจะมี ผมถึงจะมีพร้อมกับพวกท่าน เราจะไปด้วยกัน หากว่าท่านลำบากผมจะคอยช่วย และหากว่าผมลำบากท่านก็ช่วยผมด้วย เราจะไปด้วยกัน เสียงโฮโห่ร้องดังก้องไปทั่วทั้งบริเวณลานพิธี ผมมองออกไปด้วยความปลื้มปิติ น้ำตาเอ่อคลอแทบจะกลั้นไว้ไม่ได้ ความเต็มตื้นใจในการยอมรับของพวกเขาได้สร้างแรงบันดาลใจให้กระผมจะต้องกระทำเพื่อพวกเขาและเพื่อกองทัพของประเทศนี้ไห้ได้ ผมชูมือขวาขึ้นพร้อมๆกับก็มีเสียงเฮกระหึ่มของบรรดาเหล่าทหารทั้งตัวนายและลูกน้อง พวกวงโยธวาทิตไม่รู้จะทำอย่างไรหัวหน้าวงก็มองตาผม ผมเห็นก็เลยพยักหน้าให้วงบรรเลงเพลงได้ ก็เป็นอันว่าจบพิธีรับตำแหน่งผู้บัญชากทหารของผมในวันนี้ หากในสองปีนี้ก่อนเกษียณ ผมไม่ตายห่าก่อน ด้วยจากเฮลิก๊อบเตอร์ตก โดนระเบิด หรือตายคาอก ก็คงจะเจริญแน่ ปล.เรื่องราวของผู้บัญชาการทหารเรื่องนี้จะจบภายในหนึ่งเดือน ตามที่ผมได้ตั้งใจได้ตั้งใจไว้ และต้องจบขอบคุณผู้อ่านที่ติดตามครับ
18 มกราคม 2551 11:07 น. - comment id 98905
ตอนที่สอง การประชุมห้าเสือกองทัพ พอตกตอนบ่ายผมได้เรียกประชุมห้าเสือของกองทัพขึ้น ประกอบด้วย ผมใหญ่สุดและดุสุดย่อมจะเป็นเสือโคร่ง ส่วนท่านอื่นๆก็เป็นเสือดำ เสือขาว เสือดาว และเสือปลา เป็นการประชุมลับเพื่อหารือและมอบหมายงานในหน้าที่ให้ทำ ในที่ประชุมผมใช้การระดมความคิดเข้ามาและเปิดโอกาสให้เสือทั้งสี่ได้แสดงความคิดเห็น ที่ประชุมก็มีการสรุปว่า จะให้เสือดำผู้มีทักษะในการฝึกหน่วยรบไปควบคุมการยุทธในภาคใต้ และจัดเตรียมผู้บังคับหน่วยระดับกองพันไว้จะให้ลงพื้นที่ในหนึงอำเภอและทำการปราบปราบโจรก่อการร้ายร้าย โดยจะให้มีการแถลงแผนแต่ละกองพันให้ระดับฝ่ายเสนาธิการของกองทัพในเดือนหน้า จะได้ดูด้วยว่าผู้พันแน่จริงหรือเปล่า หากไม่แน่จริงขี้ขลาดตาขาว ก็จะได้ปรับย้ายหรือให้ลาออกจากราชการไป และเตรียมการให้ ผู้บัญชาการทหารออกรบร่วมด้วยในแต่ละพื้นที่ บรรดาเสือทั้งหลายต่างอ้าปากค้าง ผมก็ยิ้มและกล่าวต่อว่า ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ผมก็มีคุณค่าของชีวิตเท่ากับชีวิตของพลทหารเท่านั้น ผมตายก็มีคนแย่งกันเป็นผู้บัญการทหารอีกหลายคน ส่วนเสือขาวถนัดทางเดินไปเดินมาโชว์ของแปลกก็จะเน้นออกไปทางด้านงานประชาสัมพันธ์และงานด้านปฏิบัติการจิตวิทยาที่ม่งเน้นแบบใหม่มิได้มุ่งเน้นที่ชื่อเสียงของตัวบุคคลหากแต่ว่ามีเป้าหมายเพื่อบรรลุภารกิจของกองทัพที่จะเอาชนะต่อกองโจรก่อการร้ายเป็นภารกิจสำคัญ ส่วนเสือดาว ถนัดชอบนอนบนกิ่งไม้กระโจนมางับคอเหยื่อ ก็ให้จัดเตรียมตัวแทนสายลับใช้เงินซื้อไอ้พวกแกนหลักโจร แต่อย่าให้มันรู้ว่าเราให้เงินมัน ไห้มันนึกว่าเป็นเงินจากกระบวยการก่อการร้ายข้ามชาติให้มา จนกระทั่งมันเป็นโครงข่ายใหญ่แล้วค่อยๆใช้ หนามบ่งหนาม ให้สิ้นเสียแต่ในสมัยนี้ ส่วนเสือปลาชอบกินปลาทำตัวแบบแมวเคล้าแข้งเคล้าขาก็ให้เป็นผู้ประสานทั้งเจ้านายทั้งนักการเมือง ทั้งคนอื่นๆที่จะให้เขาช่วยเหลืองานสนับสนุนของกองทัพ และห้ามมิให้ไปเอาใจหลังบ้านเป็นเด็ดขาด ส่วนเสือโคร่งจะออกไล่ล่าเหยือในพื้นที่ เมื่อเป็นนายเขาก็ต้องลำบากกว่าเขา ต้องเก่งกว่าเขา และก็ต้องมีชีวิตอยู่เพื่อเขา หลังจากจบการประชุม ผมได้มองเข้าไปในนัยน์ตาของแต่ละเสือที่เข้าร่วมประชุมมันก็แวววาวขุ่นมัวหมองๆแตกต่างระคนกันไป สำหรับผมแล้ว ในเมื่อบ้ามาเป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารแล้วก็ต้องเข้าใจว่าคงจะเหนื่อยสันหลังหนักกว่าตำแหน่งเดิมๆในอดีต คิดไปแล้วหากบรรดาน้องๆที่เป็นผู้บังคับหน่วยนปัจจุบันรู้นโยบายแล้วคงจะหนาวๆร้อนๆ เพราะปัจจุบันบางคนอาจจะกำลังมุ่งมั่นแต่ปล้ำเด็กในหน่วย ส่งเสริมเด็กที่ปล้ำแล้วให้ได้ดี ให้ขั้นบำเหน็จแก่ญาตพี่น้องที่อยู่ในหน่วย เบียดบังเงินหลวงอ้างว่าทำเพื่อหน่วย ดูแลผู้บังคับบัญชาที่ไปตรวจเยี่ยมโดยเลี้ยงอาหารโรงแรมผู้หญิงอย่างดี แต่ทว่าทหารในหน่วยกลับให้กินแบบหมูกิน ใช้ทหารตัวรองอย่างขี้ข้าสมัยก่อนสุโขทัย ทำตัวหรุหราเป็นเทวดาหรือเจ้า และเย่อหยิ่งเหยียดหยามลุกน้องตนเอง แต่กลับพูดดีกับคนอื่น มีน้ำใจหรือแสร้งว่ามีน้ำใจกับคนอื่น แสร้งว่าเป็นคนดีมีศีลธรรม แสร้งว่ารวย แสร้งว่าเป็นนักรบ คุยแต่เรื่องอินเทรน ตามกระแส ผมหัวเราะทีนี้แหละจะได้รู้ว่าจะมีกี่คนที่รบเป็น จะได้เอาคนที่รบเป็นฉลาดๆมาเป็นผู้พันหรือผูบังคับหน่วยกันบ้าง เพียงแค่นี้ผมก็หัวเราะในใจ มันเป็นการเปลี่ยนแปลงของกองทัพจริงๆ เชื่อว่าเมื่อข่าวนี้รั่วออกไป คงมีหลายฝ่ายที่จะพยายามเลือยเก้าอี้ของผม ผมก็ต้องคิดแก้ไข แต่อย่างไรก็ตามความมุ่งหวังของผมจะต้องสำเร็จไห้ได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับเจตจำนงของฟ้าด้วย หากฟ้าประสงค์อย่างที่ผมคิดแล้วผมคงจะบรรลุเป้าหมายของผม ปล..โปรดติดตามตอนที่สามเร็วๆนี้