คราวที่แล้วผมเขียนเรื่องเกี่ยวกับร้านอาหารใจดีที่คอยให้ผมทานฟรี เค้าเลี้ยงผมเป็นเดือนๆ เลยทีเดียว หลังจากที่ผมอาบน้ำเสร็จผมได้มีโอกาสนั่งลงแล้วนึกถงึความหลัง อย่างที่ผมตั้งใจจะใช้เวลาขณะที่ผมไม่สบายทำอะไรที่มีความหมายกับชีวิต แล้วผมก็จำได้เรื่องนึง ... ขณะที่ผมเรียนอยูที่มหทาวิทยาลัย ผมต้องทำงานเพื่อส่งตัวเองเรียนแล้วก็ ส่งเงินให้พ่อบางส่วน ที่นี่ผมขายขนมปัง จำได้ว่าต้องเดินเป็นกิโลๆ ทุกวันตั้งแต่เช้าเพื่อขายของ แล้วเรียนตอนเย็น เอาขนมให้เพื่อนซื้อทานในห้องด้วย แล้วมีอยู่วันหนึ่ง ... ผมขายไม่หมดแล้วขนมปังก็เสีย เลยขากทุนไม่มีเงินให้เขาเพราะรับเขามาขาย ผมเอาเงินทั้งหมดให้เขา แล้วเขาก็เกรงใจผม แต่ผมก็ด้วยความรับผิดชอบจึงยัดเยี่ยดเขาไป ตกตอนเย็นไม่มีเงินทานข้าว เดินไปเรื่อยๆ จนสุดถนน ผมก้มหน้ามองทางเท้า ท้อใจ การขายของมันยากมาก แล้วต้องขายให้ได้ แต่แน่นอนมันก็ดีกว่าการทำงานเป็นชั่วโมงเพราะนั่นหมายความว่าผมต้อง ห้ามสาย ห้ามลา ห้ามตาย... ผมได้แต่มองก๋วยเตี๋ยวที่เค้าโชว์ในตู้ ลูบท้องตัวเองแล้วก็ก้มหน้า เจ๊ขายก๋วยเตี๋ยวถามว่า "วันนี้ไม่ขายของเหรอ" ผมก็ตอบเค้าว่า "ไม่หรอกครับฝนตกขายไม่ได้" แล้วที่ขายเมื่อวานล่ะ เจ๊แกถาม เสียครับ ... ผมตอบด้วเสียงหมดหวัง มา มา มา กินก๋วยเตี๋ยวเจ๊ก่อน ... แกชวน ผมตอบกลับไปว่า ผมอยากทานมากเลยแต่วันนี้ผมไม่มีตัง เอาไว้ขายของได้เงินแล้วจะมากินนะครับ คงพรุ้งนี้เย็น .. เจ๊แกตอบว่า เจ๊เลี้ยงเองไม่ต้องตังหรอกคนทำมาค้าขายด้วยกัน ของมันก็อย่างนี้แหละตอนเจ๊เปิดร้านแรกก็เป็น แกพูดจณะลวกก๋วยเตี๋ยวให้ผม .. ทุกวันที่ผมมีทาน ผมนึกถึงทุกมื้อ และทกไปหน้าของพวกเขา ... ผมคิดว่ามันมหัศจรรย์กว่าการมีเงินมากมาย เพราะเงินมากมายไม่อาจซื้อสิ่งที่เรียกว่าน้ำใจบริสุทธิ์ได้ ผมยังคงภูมิใจ และเวลาใดที่เหนื่อยจะแวะไปทานก๋วยเตี๋ยวเจ๊แก วันนี้ผมไปทานดีกว่าเปลี่ยนบรรยากาศ แล้วพบกันใหม่ครับ ขอตัวไปร้านเจ๊แกหน่อย
20 ธันวาคม 2550 22:51 น. - comment id 98731
เหอะๆๆอยากไปกินร้านเจ๊แกบ้างจัง เจ๊แกใจดีจังเลยเนอะเพ่ นี่ล่ะน้าที่เค้าเรียกว่าน้ำใจบริสุทธิ์ อย่างที่พี่บอกจิงๆ เห็นด้วยอย่างแรงงงงงงงงงง
27 มีนาคม 2551 00:45 น. - comment id 99730
ในวันที่เราไม่มีเงิน ซื้อข้าวกิน ก้อยังมีคนมีน้ำใจเลี้ยงข้าวเรา เราต้องสู้ เพราะ โลกใบนี้ไม่ได้โหดร้าย กับเราเสมอไป