พุทธทำนาย

ลุงแทน

-:- พุทธทำนาย
     อุกาสะ  สิริสักยะมุนี  พระพุทธโคดม  พระบรมโลกนาถศาสดาจารย์
ญาณสัพพัญญู  อันเป็นพระบรมครู  ผู้ได้สั่งสอนแก่ฝูงเทพนิกร  อินทร์พรหม
ยมยักษ์  ทั่วทั้งอนันตจักรวาล  พระองค์ผู้ทรงญาณมาสงสารแก่ฝูงประชาชนคน
ทั้งหลายอยู่  ภายหลังพระองค์ได้ยับยั้งตั้งพระพุทธศักราชศาสนาไว้ให้ถ้วนห้าพัน
พระวรรษา  อติกกันตา  ถ้าจะคณานับฤดูเดือนก็ได้หกหมื่นเดือนมากครามครัน
ถ้าจะคณานับทิวาวันก็ได้หนึ่งล้านแปดแสนสองหมื่นหกพันสองร้อยห้าสิบวันเป็น-
กำหนด  ถ้าจะคณานับพระอุโบสถ  ถ้าจะกำหนดเป็นฤดูก็ได้หมื่นห้าพันฤดู
สมเด็จพระบรมครูเจ้าทรงกล่าวไว้ว่า  แม้บุคคลใดตั้งจิตลงปลงจิตตั้ง  ฟังพระ-
พุทธศักราช  บุคคลผู้นั้นก็จะระลึกชาติขึ้นได้ตามจิตใจปราถนา  จะนึกเอาชั้น
อินทร์ชั้นพรหมก็จะสมดังความคิดกุศลนั้นจะขึ้นไปเนรมิตวิมานไว้คอยท่า  ครั้น
ทำลายตายจากเบญจขันธ์ทั้งห้าลงในกาลใด  บุคคลผู้นั้นไซร้ก็จะได้ขึ้นไปเสวย
รมณ์ชมสมบัติในรัตนกระหนกรัตนวิมานสวรรค์  จะมีทั้งหมู่นางกำนัลมานั่งแห่
ห้อมล้อมอยู่อย่างสะพรั่ง  ด้วยกุศลที่ตนได้ฟังพระพุทธศักราช  พระสมณโคดม
บรมโลกนาถหน่อนรินทร์ปิ่นเกล้า  จำเดิมแต่พระองค์ตรัสพระสัทธรรมเทศนาไว้
กับพระอานนท์  และอัครสาวกเจ้าทั้งหลาย  มีพระพุทธทำนายไว้เป็นกำหนดว่า
เมื่อพระตถาคตเสด็จดับขันธ์เข้าสู่พระปรินิพพานล่วงไปแล้วบ่มินาน  ประมาณได้
ห้าร้อยปีจะหานางภิกษุณีก็บ่มิได้  ครั้นล่วงได้พันปีก็จะไม่มีพระอรหันต์ที่จะ
เหาะเหินเดินอากาศได้  ครั้นล่วงได้สองพันปีก็จะพากันเคลื่อนคลาด  จะมีนัก
ปราชญ์ที่จะพากเพียรเล่าเรียนให้จบครบพระไตรปิฎกนั้นก็หาบ่มิได้  ครั้นล่วงได้
สามพันปีก็จะมีพระภิกษุสงฆ์ที่จะมามั่วสุมประชุมกันเป็นคณะปรกนั้นก็หาบ่มิได้
ครั้นล่วงได้สี่พันปีแล้วไซร้  บาตรไตรจีวรก็จะสูญสิ้น  ครั้นล่วงได้ห้าพันปีก็จะ
พากันประมาทหมิ่น  จะมีแต่ผ้าเหลืองน้อยห้อยหูพอได้รู้สำคัญว่าบุคคลผู้บวชเป็นชี
ศาสนาพระชินสีห์จะสิ้นไปในปีชวดนักษัตรอัฏฐศก  เดือนหก  เพ็ญวันพุธ  ใน
เวลาปัจจุสมัยใกล้รุ่ง  อรุณฤกษ์เบิกอรุณแล้วพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้าที่ได้
วัฒนาการเที่ยวโปรดสัตว์อยูในวัฏฏสงสาร  ทั่วทั้งอนันตจักรวาลและพื้นธรณี
ตั้งแต่พิภพนาภี  จนตราบเท่าถึงดาวดึงส์สวรรค์เป็นขอบเขต  แห่งท้าวเทเวศบรรจุ
พระเกศบรรจุพระธาตุเข้าไว้ในโกฐแก้วจุฬามณีศรี  ซึ่งก่อไว้เป็นสุวรรณเจดีย์ศรี-
สงบ  รวมเข้าไว้เป็นที่อภิวันท์ไหว้แก่ฝูงเทพนิกรอินทร์พรหมในชั้นฉ้อกามาวจร
สวรรค์  มีทั้งอัครพราหมมานั่งอยู่พร้อมเพรียงเรียบพับเพียบพะแนงเชิง  มีมือถือ
พวงมาลาและมาลัย  อภิวาทน์กราบกรานด้วยเศียรเกล้าอยู่สะพรั่ง  บ้างยอกรขึ้น
ตั้งนั่งบังคมพระบรมธาตุ  ครั้นพระพุทธศักราชถ้วนห้าพันพระวรรษาในกาลใด
พระบรมธาตุนั้นไซร้ก็เสด็จมามั่วสุมประชุมกันในเกาะแก้วบุรีศรี  ซึ่งเป็นที่สันนิ-
บาตรจึงประมวลพระบรมธาตุเข้าเป็นองค์  เห็นงามเยียรยงพระองค์จะทรงทรมาน
ทำพระยมกปาฏิหาริย์   สถิตประดิษฐานเหนือรัตนบัลลังก์แก้วมณีศรี  เปล่งพระ-
รัศมีศรีแสงกระจ่างแจ้งช่วงโชติ  ตรัสพระธรรมเทศนาโปรดแก่เวไนยสรรพสัตว์
ทั้งสี่ไซร้  ใต้ควงไม้ศรีมหาโพธิและโพธิ์ทอง  ครั้นถ้วนเจ็ดวันแล้ว  พระธาตุก็
บ่ายพระพักตร์เข้าสู่เมืองแก้วแล้วอันตรธาน  แผ่นดินดาลรองศาสนาแน่นได้
สองแสนสี่หมื่นโยชน์  ก็จะสูงขึ้นอีกแปดพันวา  ไม้ศรีมหาโพธินั้นไซร้ก็จะเล็ก
เท่าใบพุทรา  เพราะสิ้นสุดพระศาสนา  ก็บรรจบครบจำนวนถ้วนห้าพัน
พระวรรษา  ฯ				
comments powered by Disqus

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน