เด็กเอ๋ย เด็กน้อย ความรู้เรายังด้อยเร่งศึกษา เมื่อเติบใหญ่เราจะได้ มีวิชา เป็นเครื่องหาเลี้ยงชีพสำหรับตน..... ยายมีเดินกลับจากนาในตอนเย็น แสงทองยามเย็นสาดส่องไปทั่วท้องนา ทำให้ผืนนาเป็นสีทองเด่นสวยงามมาก ยายมีนึกถึงบทอาขยานที่ลูก ๆ สมัยเรียนประถมท่องกัน ท่องกันจนขึ้นใจ เพราะท่องซ้ำแล้วซ้ำอีก สมัยนั้นในการสอบทุกคราวจะต้องมีการสอบท่องบทอาขยานทุกคราวไป ปัจจุบันนี้การท่องบทดังกล่าวดูเหมือนจะไม่มีแล้ว หรือว่าโลกมันเปลี่ยนไปนะยายมีเดินครุ่นคิด เดี๋ยวนี้มันมีการท่องบทอาขยานแบบใหม่ เขาจะใช้รถยนต์ติดป้ายมีรูปของคนคิดบทอาขยานตัวโตกว่าคนจริงเสียอีก แล้วก็ติดเครื่องขยายเสียงไว้ในรถ เปิดบทอาขยานไปตามท่องไร่ท้องนา มีหลายสำนักวิ่งกันขวักไขว่ แต่ละปี ๆ ที่มีการซักซ้อมบทมักจะเป็นบทอาขยานอันเดียวกัน หากว่าบทดังกล่าวมันเป็นความจริงดังที่ท่อง บ้านเมืองเราคงจะเจริญผิดหูผิดตาทีเดียว ยายมีเดินผ่านบ้านผู้คนซึ่งอยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ ในใจคิดถึงตามั่น สมัยเป็นวัยรุ่นด้วยกัน รถคล้ายๆแบบนี้ แต่จะติดรูปพระเอก นางเอก แน่นอนละ ในคืนนั้นจะมีหนังมาฉายในละแวกหมู่บ้าน ทุกครัวเรือนในย่านนี้จะตื่นเต้นกันที่สุด ต่างรีบกลับจากนา หุงข้าวหุงปลากินกัน อาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดสวยที่สุด ประน้ำหอมกลิ่นฟุ้งกระจาย มันเป็นคืนที่มีความสุขที่สุด
1 ธันวาคม 2550 15:15 น. - comment id 98498
ยามยืดใช่มืดแท้.........ทุกสถาน ดูสิเมื่อรัตติกาล...........หม่นเศร้า ดาวสุกกลับชัชวาล.......สุกสว่าง แม้นบ่มีจันทรืเจ้า ......ใช่ว้างหวาดหวิว บทอาขยาน มอห้าค่ะ เพื่อนกินสิ้นทรัพย์แล้ว...แหนงหนี หาง่ายหลายหมื่นมี..........มากได้ เพื่อนตายถ่ายแทนชี-.....วาอาต หายากฝากพี่ไข้...............ยากแท้จักหา บทอาขยานมอสามค่ะ ที่แต่พี่บอกมา..ก็เพราะดีค่ะ
1 ธันวาคม 2550 19:34 น. - comment id 98503
โลกมันเปลี่ยน สังคมก็แปรสภาพ ไปตามกาละเวลา คนละยุคสมัย...เฮ้อ..เหนื่อยใจ ถ้าย้อนไปสมัยอยุธยาได้คงดี..หุหุ
1 ธันวาคม 2550 21:57 น. - comment id 98504
แหม ยายมี ของพี่หลวงนี้ฉลาดไม่สมคนแก่จริงเนาะ
2 ธันวาคม 2550 11:31 น. - comment id 98512
สวัสดีครับคุณน้องครูพิม ขอบคุณครับที่เอาสาระน่ารู้มาร่วมเผยแพร่ สวัสดีครับคุณน้องยาแก้ปวด วันนี้ยังไข้หวัดไม่หายเลย ช่วยหน่อยสิครับ สวัสดีครับคุณน้องรัน ยายมีแกคนหัวทันสมัยนี่นา วันนี้ขอนอนก่อนครับ ทั้งปวดหัวเป็นไข้ โชคดีอ่ะคับ
3 ธันวาคม 2550 14:29 น. - comment id 98517
ยายมี..รำพึงถึงอดีตที่อะไรก็สบายๆ ไม่วุ่นวายเหมือนสมัยนี้มั้ง สมัยนี้ทำอะไรก็แข่งขันไปหมดความเอื้ออาทรเลยลดหายไป กลายเป็นความเห็นแก่ตัวเข้ามาแทนที่
3 ธันวาคม 2550 15:20 น. - comment id 98520
สวัสดีแทนยายมีนะน้องเฌอร์ พอดียายมีไปไล่วัวใครก็ไม่รู้บนคันนา กะว่าจะมาฟันหญ้าอ่อนแกกลัวจะกินข้าวของแกไปด้วย สบายดีนะครับ
4 ธันวาคม 2550 16:23 น. - comment id 98521
http://www.lokwannakadi.com/neo/shakayan.php?ID=77 อาขยานชวนท่องค่ะเอามาฝาก แหล่งที่มาจากเว็บข้างบนนะคะ โคลงโลกนิติ ( คนอ่าน 8342 คน) ( คนแสดงความเห็น 244 คน) ๑. อัญขยมบรมนเรศร์เรื้อง .............. รามวงศ์ พระผ่านแผ่นไผทรง .............. สิบไท้ แสวงยิ่งสิ่งสดับองค์ .............. โอวาท หวังประชาชนให้ .............. อ่านแจ้งคำโคลง ๒. ครรโลงโลกนิตินี้ .............. นมนาน มีแต่โบราณกาล .............. เก่าพร้อง เป็นสุภาษิตสาร .............. สอนจิต กลดั่งสร้อยสอดคล้อง .............. เวี่ยไว้ในกรรณ ๓. ปลาร้าพันห่อด้วย .............. ใบคา ใบก็เหม็นคาวปลา .............. คละคลุ้ง คือคนหมู่ไปหา .............. คบเพื่อน พาลนา ได้แต่รายร้ายฟุ้ง .............. เฟื่องให้เสียพงศ์ ๔. ใบพ้อพันห่อหุ้ม .............. กฤษณา หอมระรวยรสพา .............. เพริศด้วย คือคนเสพเสน่หา .............. นักปราชญ์ ความสุขซาบฤาม้วย .............. ดุจไม้กลิ่นหอม ๕. ผลเดื่อเมื่อสุกไซร้ .............. มีพรรณ ภายนอกแดงดูฉัน .............. ชาดป้าย ภายในย่อมแมลงวัน .............. หนอนบ่อน ดุจดั่งคนใจร้าย .............. นอกนั้นดูงาม ๖. ขนุนสุกสล้างแห่ง .............. สาขา ภายนอกเห็นหนามหนา .............. หนั่นแท้ ภายในย่อมรสา .............. เอมโอช สาธุชนนั่นแล้ .............. เลิศด้วยดวงใจ ๗. คนพาลผู้บาปแท้ .............. ทุรจิต ไปสู่หาบัณฑิต .............. ค่ำเช้า ฟังธรรมอยู่เนืองนิตย์ .............. บ่ซาบ ใจนา คือจวักตักข้าว .............. ห่อนรู้รสแกง ๘. กบเกิดในสระได้ .............. บัวบาน ฤาห่อนรู้รสมาลย์ .............. หนึ่งน้อย ภุมราอยู่ไกลสถาน .............. นับโยชน์ ก็ดี บินโบกมาค้อยค้อย .............. เกลือกเคล้าเสาวคนธ์ ๙. ไม้ค้อมมีลูกน้อม .............. นวยงาม คือสัปปุรุษสอนตาม .............. ง่ายแท้ ไม้ผุดั่งคนทราม .............. สอนยาก ดัดก็หักแหลกแล้ .............. ห่อนเรื้อโดยตาม ๑๐. นาคีมีพิษเพี้ยง .............. สุริโย เลื้อยบ่ทำเดโช .............. แช่มช้า พิษน้อยหยิ่งโยโส .............. แมลงป่อง ชูแต่หางเองอ้า .............. อวดอ้างฤทธี ๑๑. ความรู้ผู้ปราชญ์นั้น .............. รักเรียน ฝนทั่งเท่าเข็มเพียร .............. ผ่ายหน้า คนเกียจเกลียดหน่ายเรียน .............. วนจิต กลอุทกในตระกร้า .............. เปี่ยมล้น ฤามี ๑๒. ห้ามเพลิงไว้อย่าให้ .............. มีควัน ห้ามสุริยแสงจันทร์ .............. ส่องไซร้ ห้ามอายุให้หัน .............. คืนเล่า ห้ามดั่งนี้ไว้ได้ .............. จึ่งห้าม นินทา ๑๓. เว้นวิจารณ์ว่างเว้น .............. สดับฟัง เว้นที่ถามอันยัง .............. ไป่รู้ เว้นเล่าลิขิตสัง .............. เกตว่าง เว้นนา เว้นดั่งกล่าวว่าผู้ .............. ปราชญ์ได้ ฤามี ๑๔. รู้น้อยว่ามากรู้ .............. เริงใจ กลกบเกิดอยู่ใน .............. สระจ้อย ไปเห็นชเลไกล .............. กลางสมุทร ชมว่าน้ำบ่อน้อย .............. มากล้น ลึกเหลือ ๑๕. เสียสินสงวนศักดิ์ไว้ .............. วงศ์หงส์ เสียศักดิ์สู้ประสงค์ .............. สิ่งรู้ เสียรู้เร่งดำรง .............. ความสัตย์ ไว้นา เสียสัตย์อย่าเสียสู้ .............. ชีพม้วย มรณา ๑๖. พระสมุทรสุดลึกล้น .............. คณนา สายติ่งทิ้งทอดมา .............. หยั่งได้ เขาสูงอาจวัดวา .............. กำหนด จิตมนุษย์นี้ไซร้ .............. ยากแท้ หยั่งถึง ๑๗. รักกันอยู่ขอบฟ้า .............. เขาเขียว เสมออยู่หอแห่งเดียว .............. ร่วมห้อง ชังกันบ่แลเหลียว .............. ตาต่อ กันนา เหมือนขอบฟ้ามาป้อง .............. ป่าไม้ มาบัง ๑๘. ให้ท่านท่านจักให้ .............. ตอบสนอง นบท่านท่านจักปอง .............. นอบไหว้ รักท่านท่านควรครอง .............. ความรัก เรานา สามสิ่งนี้เว้นไว้ .............. แต่ผู้ทรชน ๑๙. ใครจักผูกโลกแม้ .............. รัดรึง เหล็กเท่าลำตาลตรึง .............. ไป่หมั้น มนต์ยาถูกนานหึง .............. หายเสื่อม ผูกเพื่อไมตรีนั้น .............. แนบเท้าวันตาย ๒๐. ผจญคนมักโกรธด้วย .............. ไมตรี ผจญหมู่ทรชนดี .............. ต่อตั้ง ผจญคนจิตโลภมี .............. ทรัพย์เผื่อ แผ่นา ผจญคนอสัตย์ให้ยั้ง .............. หยุดด้วย สัตยา ๒๑. คนใดคนหนึ่งผู้ .............. ใจฉกรรจ์ เคียดฆ่าคนอนันต์ .............. หนักแท้ ไป่ปานบุรุษอัน .............. ผจญจิต เองนา เธียรท่านเยินยอแล้ .............. ว่าผู้ มีชัย ๒๒. ความรู้ดูยิ่งล้ำ .............. สินทรัพย์ คิดค่าควรเมืองนับ .............. ยิ่งไซร้ เพราะเหตุจักอยู่กับ .............. กายอาต มานา โจรจักเบียนบ่ได้ .............. เร่งรู้ เรียนเอา ๒๓. โทษท่านผู้อื่นเพี้ยง .............. เมล็ดงา ปองติฉินนินทา .............. ห่อนเว้น โทษตนเท่าภูผา .............. หนักยิ่ง ป้องปิดคิดซ่อนเร้น .............. เรื่องร้าย หายสูญ ๒๔. หอมกลิ่นดอกไม้ที่ .............. นับถือ หอมแต่ตามลมฤา .............. กลับย้อน หอมแห่งกลิ่นกล่าวคือ .............. ศีลสัตย์ นี้นา หอมสุดหอมสะท้อน .............. ทั่วใกล้ ไกลถึง ๒๕. ก้านบัวบอกลึกตื้น .............. ชลธาร มรรยาทส่อสันดาน .............. ชาติเชื้อ โฉดฉลาดเพราะคำขาน .............. ควรทราบ หย่อมหญ้าเหี่ยวแห้งเรื้อ .............. บอกร้าย แสลงดิน ๒๖. ถึงจนทนกัดก้อน .............. กินเกลือ อย่าเที่ยวแล่เนื้อเถือ .............. พวกพ้อง อดอยากเยี่ยงอย่างเสือ .............. สงวนศักดิ์ โซก็เสาะใส่ท้อง .............. จับเนื้อ กินเอง ๒๗. โคควายวายชีพได้ .............. เขาหนัง เป็นสิ่งเป็นอันยัง .............. อยู่ไซร้ คนเด็ดดับสูญสัง .............. ขารร่าง เป็นชื่อเป็นเสียงได้ .............. แต่ร้าย กับดี ๒๘. อ่อนหวานมานมิตรล้น .............. เหลือหลาย หยาบบ่มีเกลอกราย .............. เกลื่อนใกล้ ดุจดวงศศิฉาย .............. ดาวดาษ ประดับนา สุริยส่องดาราไร้ .............. เพื่อร้อนแรงแสง ๒๙. เพื่อนกิน ... สิ้นทรัพย์แล้ว .............. แหนงหนี หาง่าย ... หลายหมื่นมี .............. มากได้ เพื่อนตาย ... ถ่ายหมื่นมี .............. วาอาตม์ หายาก ... ฝากผีฝากไข้ .............. ยากแท้จักหา
4 ธันวาคม 2550 16:27 น. - comment id 98522
http://www.radompon.com/boardknowlage/data/0018.html ^ ^ อีกเว็บนะคะ...ชอบอ่าน ชั้น ประถมปีที่ ๑ ๏ ๏ เด็กน้อย ๏ ๏ (ร้องลำฝรั่งรำเท้า) เด็กเอ๋ย เด็กน้อย ความรู้ เรายังด้อย เร่งศึกษา เมื่อเติบใหญ่ เราจะได้ มีวิชา เป็นเครื่องหา เลี้ยงชีพ สำหรับตน ได้ประโยชน์ หลายสถาน เพราะการเรียน จงพากเพียร ไปเถิด จะเกิดผล ถึงลำบาก ตรากตรำ ก็จำทน เกิดเป็นคน ควรหมั่น ขยันเอย...... ๏ ๏ แมวเหมียว แยกเขี้ยวยิงฟัน ๏ ๏ (ร้องลำแขกบรเทศ) -นายทัด เปรียญ - แต่ง แมวเอ๋ย แมวเหมียว รูปร่าง ประเปรียว เป็นหนักหนา ร้องเรียก เหมียวเหมียว ประเดี๋ยวก็มา เคล้าแข้ง เคล้าขา น่าเอ็นดู รู้จัก เอารัก เข้าต่อตั้ง ค่ำค่ำ ซ้ำนั่ง ระวังหนู ควรนับว่ามัน กตัญญู พอดู อย่างไว้ ใส่ใจเอย...... ................................................. อ๊ะ.........ในหลวงเสด็จแล้วขอตัวก่อนนะคะ...ฟังจากคลื่นกรีนเวฟนะคะ
7 ธันวาคม 2550 10:22 น. - comment id 98534
สวัสดีครับ คุณน้องโคลอน ขอบใจจ้าที่หาสิ่งดี ๆ มี สาระมาฝากไว้ สบายดีนะครับ
7 ธันวาคม 2550 12:23 น. - comment id 98535
สวัสดีค่ะ พี่บนเกาะ...ฝากบอกยายมีด้วยค่ะ หน้าหนาวแล้ว ดูแลตัวเองดีๆนะคะ เวลาไปนาก็ใส่เสื้อหนาๆด้วยล่ะ พี่บนเกาะสบายดีนะคะ แวะมาทักทายค่ะ บายนะคะ