อีกนิยามรัก
แตม
สายลมโชยแผ่วๆกระทบหน้าต่าง ผ่านห้องที่ตัวผมนั่งพิมพ์ดีดอยู่ ทำให้ผมนั่งคิดถึงเรื่องราวของชีวิตที่ผ่านมาอยู่คนเดียวด้วยความรู้สึกที่รำลึกถึงสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น ตั้งแต่สมัยเด็กๆ จนถึงปัจจุบัน...ซึ่งเป็นเวลาที่ผมเป็นผู้ใหญ่
สายลมที่แผ่วๆได้ปัดเป่าความรู้สึกทุกข์ใจของผม ณ เวลานี้ไปอย่างหมดสิ้น ในทางตรงกันข้ามมันกลับทำให้ผมได้นึกถึงเรื่องดีๆที่ได้ผ่านเข้ามาในชีวิตและได้ผ่านไป ครั้งหนึ่งในเวลาที่ผมท้อแท้หมดหนทางที่จะต่อสู้....กับร่างกายและหัวใจที่มันบอบช้ำ ซ้ำเติมความรู้สึกที่เจ็บปวดรวดร้าวในเรื่องต่างๆ จนความรู้สึกที่โหดร้ายเหล่านี้ได้เข้ามาทำลายจิตสำนึกของความเป็นตัวผม มันมักถามผมเสมอว่า เราเกิดมาบนโลกใบนี้ทำไม เกิดมาเพื่อใคร และอยู่ไปเพื่ออะไร การจะหาคำตอบนั้นอาจจะดูเหมือนเรื่องง่ายดาย แต่แท้จริงแล้วนั้นมันคือเรื่องที่เปรียบได้กับปัญหาโลกแตกสำหรับผมในตอนนั้น จนทำให้ผมเกิดความท้อแท้ที่จะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกเล็กๆที่โหดร้ายใบนี้ แต่แล้วก็ได้มีผู้หญิงใจดี น่ารัก สวย ผิวผ่องเป็นเป็นประกาย ดั่งนางฟ้าก็มิปานได้ก้าวเข้ามาในชีวิตอันแสนจะอดสูของผม เธอคือบุคคลที่จุดประกายให้กับชีวิตผมอีกครั้งหนึ่ง....เธอคือดวงตะวันที่สาดแสงแรงกล้า คือร่มโพธิ์ร่มไทรที่ให้ผมได้พักพิง คือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาล คือดวงจันทร์ที่ถักทอด้วยแสงดาวระยิบระยับเป็นประกาย คือพลังอันยิ่งใหญ่ ก่อเกิดเป็นกำลังใจที่แข็งกล้าที่ทำให้ผมสามารถดำรงชีวิตที่เต็มไปด้วยคำถามและความโศกเศร้าอันมากมายได้ต่อไป ทุกครั้งที่ผมคุยกับเธอผมมักจะได้ทัศนคติในการดำรงชีวิตและข้อคิดต่างๆมากมาย รวมถึงได้เรียนรู้ในหลายๆสิ่งหลายๆอย่างที่บางทีผมก็คิดว่าผมไม่อาจจะเรียนรู้ด้วยตัวผมเองได้ด้วยซ้ำไป เราสองคนได้ร่วมแบ่งปันกันมานานแสนนานถึง ๖ ปี ซึ่งเป็นปีที่มีความสุข สนุกสนาน เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ร้องไห้ด้วยความซึ้งใจ และสิ่งที่สำคัญที่สุดจนขาดไม่ได้ ก็คือความรักอันยิ่งใหญ่ที่เธอได้มอบให้กับผมจนเปี่ยมล้น แต่แล้ววันหนึ่งผม.....ก็ต้องเดินจากเธอไป เพราะผมจะต้องเดินไปตามทางที่ผมได้เลือก ทางที่ผมใฝ่ฝัน ทางที่ผมค้นหา ทาง.....สู่ความฝันอันสูงสุด
ขอโทษนะครับที่เราต้องจากกัน ผมพูดด้วยเสียงสะอึกสะอื้นพร้อมน้ำตาที่ไหลรินด้วยความเศร้า แต่ในหัวใจดวงน้อยๆของผมก็ยังคอยเตือนตัวเองอยู่เสมอว่า ผู้ชายคนนี้จะไม่มีวันลืมผู้หญิงคนนี้เลยตลอดไป
ก่อนที่เราจะจากกันในวันนี้มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกกับเธอให้รู้และเข้าใจในความรู้สึกของผมที่มันเก็บไว้ลึกๆข้างในตลอด ๖ ปีที่ผ่านมาให้เธอฟัง ก่อนที่มันจะสายเกินไป ผมจึงก้าวเท้าเข้าไปหาเธอด้วยความเชื่อมั่นเต็มร้อย พร้อมกับเรียกเธอด้วยเสียงที่แหบซ่านเพราะความโศกเศร้าแห่งการจากลาว่า ขอบคุณนะครับ ที่รักผม ดูแลผม ให้อะไรต่ออะไรผมมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ลาก่อนครับ คุณแม่.....พิมพ์ของชาติ