!~! ชั่วกัลปาวสาน !~!

โกญจนาท

.
.
" เพล้ง " ... เสียงจานใบใหญ่ตกกระทบพื้นจนแตก พร้อมเสียงที่ตามมาแทบจะพร้อมๆกับเสียงจานแตกนั้น 
" นี่ป้า...หนูไม่ไหวแล้วนะ ทำจานแตกแทบทุกวี่ทุกวันจนหนูจะเจ๊งอยู่แล้วเนี่ย ป้าออกจากงานไปเถอะนะ ถ้าขืนป้ายังอยู่แบบนี้ร้านหนูเจ๊งแน่ๆ "
" ป้านวล " หญิงชราตาบอดวัย 70 ปี กล่าวขอโทษ พร้อมเดินออกจากร้านไปยังถนนใหญ่เบื้องหน้า ในมือถือไม้เท้า พร้อมน้ำตาที่ไหลออกมาจากนัยน์ตาที่มืดสนิทที่มีแว่นตาดำบดบังไว้คู่นั้น 
ป้านวลเดินถือไม้เท้าค่อยๆย่ำเดินบนพื้นซีเมนต์ที่ร้อนระอุตอนบ่ายไปยังบ้านที่มีลูกชายพิการทางร่างกายและสมองนอนอยู่ ..... ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก ทำให้ป้านวลเดินได้โดยสะดวกแบบคุ้นเคย และใช้เวลาไม่มากนักในการเดินทาง 
เสียงเปิดประตูดังขึ้นจนทำให้ผู้ที่นอนอยู่บนเสื่อผืนเก่าในบ้านเช่าหลังโทรมๆหันมามองทางต้นเสียง
ป้านวลนั่งลงข้างๆลูกชายที่ไร้การตอบสนองคนนั้น ..... 
" หิวรึยังลูก วันนี้แม่ไปทำงานได้เงินมายี่สิบบาท เดี๋ยวแม่จะเดินออกไปซื้อข้าวสารมาหุงให้ลูกกินนะ" ไร้เสียงตอบรับ ป้านวลลุกขึ้นด้วยท่าทีกระย่องกระแย่ง แกถือไม้เท้าเดินออกจากบ้านไปยังร้านค้าละแวกบ้านอย่างคุ้นเคย 
ข้าวสารหนึ่งถุงพลาสติกเล็กๆถูกเทลงหม้อที่เปื้อนคราบเขม่าจนดำใบนั้น พร้อมถูกหุงด้วยฟืนไม้ ด้วยกลิ่นอันแสบจมูก ไข่ไก่1ฟอง ถูกนำมาเจียวจนได้หนึ่งจาน ..... 
ข้าวสุกแล้ว ป้านวลตักใส่จานพร้อมไข่เจียว และเดินไปนั่งลงข้างๆลูก พร้อมป้อนข้าวด้วยตาที่บอดสนิท ..... 
ลูกกินข้าวหมดแล้ว ป้านวลเดินถือจานใบนั้นกลับไปยังมุมห้องที่ใช้เป็นห้องครัวไปโดยปริยาย ..... เสียงมืออันสากกร้านขูดลงบนหม้อข้าวใบนั้น ... ไม่มีข้าว ... ป้านวลเอามือคว้านลงบนจาน และเอาเล็บมือที่ดำทั้งสิบนิ้ว ขูดเศษข้าวที่เหลือจากจานลูกมากินได้เพียงหนึ่งคำ
ป้านวลตัดสินใจเดินออกนอกบ้านโดยไม่บอกกล่าวลูก ออกไปยังถนนใหญ่ ด้วยทางที่คุ้นเคย ป้านวลรู้ตำแหน่งของสะพานลอย จึงเดินขึ้นไปนั่งลงกลางสะพาน พร้อมกระป๋องนมที่ควานหาได้จากถังขยะแถวนั้น มาตั้งหน้าตนเอง ..... 
" เคร้ง " เสียงเศษสตางค์กระทบลงบนกระป๋อง ... ป้านวลกล่าขอบคุณผู้ให้ทาน ..... 
ไม่มีแสงแดดส่องกระทบตัวแล้ว ป้านวลรับรู้ได้ถึงบรรยากาศยามเย็นที่คลืบคลานเข้ามา แกชันตัวกำลังจะลุกขึ้น แต่เนื่องจากตาที่มองไม่เห็น ทำให้เท้าแกไปเตะถูกกระป๋องใส่เงินจนล้มลง เศษเงินกระจายออกนอกกระป๋อง ป้านวลรีบทิ้งไม้เท้าและใช้มือควานไปรอบๆตัวเพื่อเก็บเศษเงินเหล่านั้นพร้อมพูดออกมา
" เงิน...เงินชั้น... ลูกจะไม่มีข้าวกิน ช่วยเก็บเงินให้ฉันหน่อย " 
เสียงคนช่วยเก็บเศษสตางค์เหล่านั้นอยู่รอบๆตัวป้านวล ป้านวลยิ้มแบบมีหวัง ..... แต่ป้านวลกลับไม่ได้เงินคืน เด็กขอทานที่อยู่ใกล้ๆป้านวลเก็บเอาไปหมดแล้ว....... .
" ร้องไห้ไปก็เท่านั้น ลูกจะไม่มีข้าวกิน " ป้านวลกล่าวออกมาพร้อมนั่งลงตรงจุดเดิมเพื่อขอเศษทาน จากผู้ใจบุญต่อไป เพียงหวังแค่หาเงินไปซื้อข้าวให้ลูกกิน ..... 
พระอาทิตย์ดับแสงสว่างไปแล้ว แต่ป้านวลยังนั่งอยู่โดยไม่สนใจ เพราะตาอันมืดมิด ชีวิตป้านวลจึงอยู่ในโลกกลางคืนตลอดเวลาจนชิน .......... ไม่มีเสียงเหรียญหล่นกระทบกระป๋อง ไม่มีเสียงคนเดินข้ามสะพานลอย มีแต่เสียงยุงที่อยู่รอบๆหู และคอยกัดกินเลือดป้านวลแบบเปรมอุรา ....... 
" ป่านนี้ลูกคงหิวแล้ว เราคงเดินไปขอเศษอาหารจากร้านที่เราเคยล้างจานน่าจะได้พอประทังชีวิตลูก ส่วนเราจะอดตายช่างมัน ขอแค่ลูกท้องอิ่มก็พอ " ป้านวลพูดลอยๆชันตัวกำลังจะลุกขึ้น.....
" ป้า มาขอทานอย่างนี้ได้ยังไง มาๆๆ ผมจะพาป้าไปกรมประชาสงเคราะห์เอง " เสียงผู้ชายแต่งตัวแบบเทศกิจพูดขึ้นพร้อมจับแขนป้านวลฉุดขึ้นอย่างแรง ..... 
" จะพาชั้นไปไหน ลุกชั้นยังไม่กินข้าว ชั้นจะกลับไปป้อนข้าวลูก " 
"ทำแบบนี้มันผิดกฏหมายป้า ไปเลย ไปเลย ผมจะพาไปกรมประชาสงเคราะห์ " 
" ไม่...ชั้นไม่ไป ลูกชั้นหิว ลูกชั้นยังไม่ได้กินข้าว" ..........
.......... " เอ้า...ป้า กินข้าวซะ " เสียงชายคนหนึ่งพูดขึ้นพร้อมส่งจานข้าวให้ ..... 
ป้านวลรีบเอามือควักข้าวในจานนั้นใส่กระเป๋าเสื้อคอกระเช้าจนหมดโดยไม่กินซักเม็ด 
" เฮ้ย...ปล่อยแกไปเถอะว่ะ ท่าทางจะห่วงลูก ดูสิ เลอะเทอะเราเปล่าๆ ต้องมาคอยเก็บกวาดอีก " เสียงชายอีกคนหนึ่งพูดขึ้น พร้อมเดินไปปล่อยป้านวลสู่อิสรภาพ
กลิ่นเหม็นคลุ้งโชยมาแตะจมูกป้านวลทันที่ที่เปิดประตูบ้าน แกนั่งลงข้างๆลูกชาย พร้อมเอามือล้วงข้าวในกระเป๋าหยิบมาป้อนใส่ปากลูกชาย 
" แม่ขอโทษนะลูก แม่กลับช้าไปหน่อย แม่ไปหาข้าวมาให้ลูกกิน ลูกกินซะนะ กับข้าววันนี้อร่อยนะลูก มีคนใจบุญให้แม่มา ไม่ใช่ไข่เจียวเหมือนทุกวันแล้วนะ " 
..... ไม่มีอาการตอบสนอง ลูกพิการของแม่ไม่อ้าปาก .....
ป้านวลล้มตัวลงนอนทับเศษปฏิกูลที่ลูกชายถ่ายทิ้งลงพื้นเรี่ยวราดเหม็นอบอวล พร้อมกอด " ศพ " ลูกชายไว้แนบแน่นด้วยน้ำตาที่พรั่งพรูออกมาจากตาที่บอดสนิทอย่างไม่ขาดสาย ไม่มีเสียงโต้ตอบระหว่างคนทั้งคู่ ป้านวลนอนกอดลูกแน่นพร้อมเอามือลูบหัวเบาๆเหมือนเด็ก น้อยเพิ่งเกิด ............... 
" เจ้านกกาเหว่าเอย.....ไข่ไว้ให้แม่กาฟัก.....แม่กาก็ หลงรัก.....คิดว่าลูกในอุทรณ์ " .................................
ป้านวลรองเพลงกล่อมลูกด้วยเสียงอันสั่นเครือพร้อมสติที่ดับสิ้นไปด้วยความอบอุ่นจากการกอดครั้งสุดท้ายของแม่นั่นเอง...................................................
.
.				
comments powered by Disqus
  • ผู้หญิงสีรุ้ง

    23 สิงหาคม 2550 14:52 น. - comment id 97297

    ต้องยาวอีกนิดนึง แต่ว่าเราชอบเรื่องเธอนะ
  • lin

    12 กุมภาพันธ์ 2551 12:09 น. - comment id 99006

    เศร้ามากเลย ฮือๆ สงสารเค้าจัง10.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน