เยี่ยมเยือนเมืองพม่า (3)

แม่มดใจร้าย


     สำหรับความเดิมตอนที่แล้วก็คือเราถูกแบกโดยเสลียงขึ้นไปบนเขาไจ้เที่ยวเป็นที่เรียบร้อย ช่วงเวลาที่เหลือของพวกเรา ก็คือการเก็บสัมภาระที่ติดตัวมาเพียงแค่พอใช้ ส่วนที่เหลือฝากไว้ที่โรงแรมที่เราจะต้องกลับไปพักกันอีกหนึ่งคืนก่อนจะเดินทางกลับ และนัดหมายกันว่าจะเดินขึ้นไปสักการะ 
พระธาตุอินทร์แขวน  อากาศข้างบนนี้เย็น เนื่องจากฝนตก หมอกลงทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวขาวไปหมด  ตลอดเวลาที่อยู่ข้างนอกอาคารพวกเราต้องใส่
เจ้าเสื้อกันฝนที่ซอ นำติดมาให้ได้ประโยชน์จากการกันฝน และยังให้ความอุ่นด้วยค่ะ
     DSC00349.jpg?t=1185451586DSC00343-1.jpg?t=1185451636
     ตลอดทางเดินขึ้นองค์พระธาตุอินทร์แขวน เย็นสบายอย่างที่บอก แต่สิ่งที่กังวลในใจคือ จะได้ภาพถ่ายสวย ๆ ติดมาให้ได้ยลหรือเปล่าหนอ แต่อุปสรรคทุกอย่างก็หมดไป ไม่ใช่ว่าฝนหยุดตกนะคะ  ละอองฝนยังร่วงหล่นตลอดเวลา เหมือนเทพปะพรมน้ำพุทธมนต์ให้พวกเรา ที่บอกว่าอุปสรรคหมดไปก็เพราะว่าหลังจากสักการะองค์พระธาตฺอินทร์แขวนเรียบร้อยแล้ว เราสามารถถ่ายรูปได้บ้างค่ะ  อย่างน้อยในชีวิตนี้ก็นับว่าเป็นบุญที่ได้สัมผัส องค์พระธาตุที่มีความเชื่อว่าพระอินทร์ท่านทรงนำมาแขวนไว้ เนื่องจากความมหัศจรรย์ขององค์พระธาตุที่ประดิษฐานอยู่บนก้อนหินอีกก้อนหนึ่งอย่างหมิ่นเหม่แต่ไม่มีวันจะร่วงหล่น  ความสุขที่ได้รับจากการยืนอยู่ท่ามกลางไอหมอก และละอองน้ำ และรู้สึกว่าชีวิตนี้มีค่าเพิ่มขึ้นอีกมากจากการเดินทางขึ้นองค์พระธาตุ และสำหรับใครที่เกิดปีจอเขาว่าพระธาตุที่ต้องสักการะก็คือพระธาตุเกตุแก้วจุฬามณี ที่อยู่บนสรวงสวรรค์ ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้แน่นอน ดังนั้นเมื่อพระอินทร์ท่านทรงนำพระธาตุอินทร์แขวน มาประดิษฐานนะที่แห่งนี้แล้วก็ให้เป็นตัวแทนพระธาตุดังกล่าวสำหรับคนปีจอค่ะ สำหรับผู้เขียนแล้วพระธาตุที่ต้องสักการะอยู่บ้านเรานี่เองค่ะ 
     
     DSC00340.jpg?t=1185451723DSC00334-2.jpg?t=1185451771
     พระธาตุอินทร์แขวน   ตั้งอยู่บนยอดเขา Paung Laung ในเมืองไจ้ก์โถ่ อำเภอสะเทิม เขตรัฐมอญของประเทศพม่า ลักษณะเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของพระธาตุอินทร์แขวนคือ มีลักษณะเป็นก้อนหินสีทองขนาดใหญ่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันอย่างหมิ่นเหม่ ท้าทายแรงดึงดูดของโลก โดยไม่ตกลงมาอย่างเหลือเชื่อ ประวัติความเป็นมาของพระธาตุอินทร์แขวนที่เล่าสืบกันมาแต่โบราณนั้นก็มีมากมายแตกต่างกันไป ตำนานหนึ่งเล่าว่า ในสมัยพุทธกาล ฤาษีติสสะเป็นผู้หนึ่งที่ได้รับพระเกศาธาตุจากพระพุทธเจ้าที่ได้มอบไว้ให้เป็นตัวแทนพระพุทธองค์ให้ประชาชนสักการะ เมื่อครั้นได้มาแสดงธรรมเทศนา ณ ดินแดนสุวรรณภูมิ ผู้ที่ได้รับมอบพระเกศาต่างก็นำไปบรรจุในสถูปเจดีย์  ส่วนฤาษีติสสะกลับนำไปซ่อนในมวยผม เมื่อเวลาล่วงเลยมาถึงคราวที่ฤาษีติสสะ จะต้องละสังขาร เขาตั้งใจว่าจะนำพระเกศาไปบรรจุในก้อนหินที่มีรูปร่างคล้ายกับศรีษะของเขา ท้าวสักกะเทวราช (พระอินทร์) จึงช่วยเสาะหาก้อนหินดังกล่าวจากใต้ท้องมหาสมุทรและนำมาวางหรือแขวนไว้บนภูเขาหิน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ พระธาตุอินทร์แขวน
      DSC00337.jpg?t=1185451865
     ปัจจุบัน ชาวพม่าและชาวมอญนั้นจะเรียกพระธาตุอินทร์แขวนว่า ไจ้ก์ทีโย (Kyaikhtiyo) ซึ่งเป็นภาษามอญ หมายถึงเจดีย์บนหินที่มีรูปร่างคล้ายศรีษะฤาษี และก็มีบางตำนานเล่าว่า มีฤาษีองค์หนึ่งซ่อนพระเกศาที่ได้รับมาจากพระพุทธเจ้าเมื่อครั้นมาโปรดสัตว์ในถ้ำ ไว้ในมวยผมมาเป็นเวลานาน เมื่อใกล้ถึงวาระที่จะต้องละสังขารจึงตัดสินใจมอบพระเกศาให้กับพระเจ้าติสสะ กษัตริย์ผู้ครองนครแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นบุตรของลูกศิษย์ที่นำมาฝากให้ฤาษีช่วยเลี้ยงดูตั้งแต่เล็ก แต่ก่อนอื่นพระเจ้าติสสะต้องหาก้อนหินที่มีลักษณะคล้ายศรีษะของฤาษี โดยมีพระอินทร์เป็นผู้ช่วยค้นหาจากใต้สมุทร นำมาวางไว้ที่หน้าผา และนี่ก็เป็นที่มาของชื่อพระธาตุอินทร์แขวนอีกตำราหนึ่ง
     สำหรับพระธาตุอินทร์แขวนนั้นสามารถสักการะได้ทั้งกลางวันกลางคืน รวมทั้งสามารถนั่งสมาธิหรือสวดมนต์ แต่ถ้าจะสักการะกลางแจ้งเป็นเวลานานควรเตรียม เสื้อกันหนาว รวมถึงเบาะรองนั่งด้วยค่ะ เพราะอากาศข้างบนนั้นจะเย็นมากและพื้นที่นั่งก็มีความเย็นมากด้วยเช่นกัน  พระเจดีย์องค์นี้เปิดตลอดคืนแต่ประตูเหล็กสำหรับบุรุษเปิดถึงเวลา 22.00 น. พระธาตุอินทร์แขวนนี้เป็น 1 ใน 5  มหาบูชาสถานสูงสุดของพุทธศาสนิกชนชาวพม่า นอกจากนั้นยังเป็นที่มาและแรงบันดาลใจให้ มาลา คำจันทร์ แต่งวรรณกรรมจนได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน  (ซีไรต์)  ประจำปี พ.ศ. 2534  ชื่อว่า เจ้าจันท์ผมหอม นิราศพระธาตุอินทร์แขวน ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี
     DSC00348.jpg?t=1185451910
     ขอหยิบยกเนื้อหาบางตอนจาก เจ้าจันท์ผมหอม นิราศพระธาตุอินทร์แขวน มาให้ได้อ่านกันสักนิดค่ะ
     โอยอิ่นดูพระธาตุแท้	โศกหมอง
 บ่แม่น ทิพย์แท่งคำควรครอง ค่าล้าน
     เป็นแต่ดินกี่กอง	ปูนเก่า ดินเก่า
     ปุนขะสรดโศกไหม้ม้าน	ห่วงห้อยอาทวา        
                                                                   ดินกี่=อิฐ
	อีกสักบทค่ะ
สาธุพระธาตุเจ้า	เจดีย์
ทิพย์แท่งคำสิงคี	คู่ฟ้า		
ผุพ่ายลุหลายปี	เปลืองเปล่า ดายเปล่า		   
บุญส่งบ่ตกช้า       	จักกู้เหิงนิรันดร์		                                           
                                                                  สิงคี=ทอง
                                                                  เหิง=นาน
	    

                สำหรับตอนนี้หรือวันนี้พอก่อนค่ะ อ่านแล้วอย่าพึ่งงงกับผู้เขียนนะคะ สำหรับตอนที่สองและตอนที่สามน่ะเป็นวันเดียวกันค่ะแต่อยากให้อ่านเรื่องต่อเนื่องกันเกี่ยวกับ พระธาตุอินทร์แขวน สำหรับตอนที่สี่จะขอเขียนเกี่ยวกับพระธาตุอินทร์แขวนเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยค่ะ 
	
				
comments powered by Disqus
  • ครูพิม

    27 กรกฎาคม 2550 12:50 น. - comment id 97025

    1.gif
    มาดื่มด่ำกับความงามของพระธาตุอินทร์แขวนค่ะ..อ่านเพลินดีค่ะ..เหมือนได้ร่วมเดินทางไปด้วย..มาช้าดีกว่าไม่มา..
  • ฤกษ์(ไม่ได้ล๊อกอิน)

    31 กรกฎาคม 2550 00:04 น. - comment id 97080

    แปลกแต่จริง
  • ตระ

    15 สิงหาคม 2550 11:56 น. - comment id 97218

    ขอบคุณ สำหรับสิ่งดีๆๆ ที่นำมาฝากกัน  ดังนั้น เราจึง อยากแบ่งปันให้บ้างแต่เราก้อไม่เคยไป เลย  เอาเพลงเจ้าจันทร์ผมหอม มาแทน แล้วกัน  เหนะ http://www.mediafire.com/?42i9bxmm1b7 
    
     12.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน