อะไร(ลงเสียงหนักด้วยนะ)
โอ้ละหนอ
ฮาบ่อยากไปเฮียนตี้อื่น หื้อฮาไปยะหยัง ฮือ ๆ (ผมไม่อยากไปเรียนที่อื่น ให้ผมไปทำไม) เด็กชาย ป.6 คนนั้นงอแงกับแม่อยู่ได้ เอาอยู่นั่นแหละเดือนกว่า ๆ นับตั้งแต่ไปสอบเรียนต่อ ม.1 ที่โรงเรียนต่างจังหวัดได้ เอาแต่โมโหโกรธาเอากับแม่ แม่เองก็เป็นแปลก โรงเรียนที่บ้านก็มี ทำไม้เอาลูกไปสอบเข้าเรียนต่อต่างจังหวัดให้เสียเงินเสียทอง มีเงินมาก ๆ เสียเมื่อไหร่ล่ะ แค่เรียนต่อชั้น ม.1 ไม่ใช่เข้ามหาวิทยาลัยซักหน่อย ก็โธ่คนเราแต่ละคนมันก็เหตุผลต่าง ๆ กันไปนี่นะ แม่ก็มีหตุผลของแม่ ลูกก็มีเหตุผลของลูก แต่ด้วยวัยและประสพการณ์ เชื่อเถอะน่าว่าแม่คิดได้มากกว่า กว้างกว่าและก็ไกลกว่าแน่นอน งอแง ๆ เตะๆ ถีบ ๆ บ่นๆ ด่าว่า หงุดหงิดอยู่นั่นแหละ แม่ก็อดท้น อดทน อดทนเข้าไว้ เวลาลูกอาละวาด ก็เงียบทำเฉย ๆ ซะ ค่อย ๆ เอาน้ำเย็นเข้าลูบ ค่อย ๆ พูด ค่อย ๆ จา ค่อยอธิบายเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ ให้ลูกฟังถึงข้อดีที่มีมากกว่าข้อเสียถึงอนาคตของลูก จนกระทั่งถึงวันที่ต้องแพ็คกระเป๋าไปหอ ก็ตื่นเต้นกันทั้งแม่ทั้งลูกแหละเพราะไม่เคยห่างกันเลยนี่ทั้ง 12 ปีของชีวิตลูก สำหรับพ่ออย่าไปพูดถึงเลย เพราะพ่อไปทำงานต่างจังหวัด พ่อเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมากเรื่องเงินทองไม่ได้ขาด แต่เวลาเขาอุทิศให้การทำงานทั้งหมด ก็ไม่ว่ากัน แค่นั้นเรารับได้สบายมาก ขอให้สิ้นเดือนเงินเลี้ยงลูกมีในบัญชีก็พอใจเราแล้วล่ะ ไปถึงหอต่างจังหวัด บอกให้แม่กลับเลย ไปแนะนำตัวเองกับพี่ ๆ ที่หอ ผมชื่อ.....ครับ พี่ ๆ ชื่ออะไรกันบ้างครับ มีอะไรให้ผมทำบ้างครับ เออ ดี อ้ายน้อง ถูกใจพี่ รอดตัวไปไม่โดนแกล้งล่ะ อะไรมาจากบ้านนอกต่างจังหวัดเข้าเรียนม.1-4 เป็นหัวหน้าไปซะทุกปี เกรดก็ดี หน้าก็ตี๋ อินเทรนด์ถูกใจวัยสาว(วัยตุ๊ด...อย่าเชียวนะลูก)ไปซะหมด (จะตกเทรนด์ก็ตอนภราดรมาเข้าตานาตาลีนี่แหละ) แม่ครับ ๆ ขอบคุณแม่นะครับ ที่ให้ลูกมาเรียนที่นี่ ลูกโชคดีที่ได้เกิดมาเป็นลูกแม่ ฮึ ! แม่ทำหน้าดุ อะไร(เน้นเสียง) ตอนนั้นว่าไงนะ ฮาบ่อยากไปเฮียนตี้อื่น หื้อฮาไปยะหยัง....ฮือ ๆ ....... โธ่ แม่ อย่าล้อลูกน่า .......จบ