เล่าเรื่อง..ผี..ผี..ตอน วิ่งป่าราบ

ยาแก้ปวด

ตอน วิ่งป่าราบ
       เรื่องนี้เกิดที่สุสานแห่งนึงในรัฐคาลิฟอร์เนีย โดยปรกติถ้าเรานึกถึงป่าช้าก็จะรู้สึกขนลุกขนพอง  เป็นสถานที่สุดท้ายที่เราอยากจะไปเหยียบเล่น ซึ่งผิดกับสุสานในอเมริกา ถ้าเรามองจากข้างนอกเราจะนึกว่าเป็นสนามกอล์ฟเพราะมันมีลักษณะเขียวขจีและปกคลุมไปด้วยต้นไม้ เงียบสงบ สะอาดเหมือนกับสนามพักผ่อนใจ บนพื้นหญ้าจะมีแผ่นป้ายเป็นเหล็กบ้าง ปูนบ้าง เขียนชื่อสลักไว้ตามหลุมศพต่างๆ  แต่ถ้าเรารู้ประเพณีการฝังศพเขาเราจะนึกสยองพอดู เพราะทุกๆหลุมศพที่เราเดินผ่านมันมีศพนอนอยู่ในนั้นจริงๆ เพราะกรรมวิธีการฝังศพของเขาจะเริ่มต้นที่  นำศพผู้ตายไปแช่จนแข็ง และเมื่อญาติๆต้องการประกอบพิธีทางศาสนาเขาก็นำเอาศพที่แช่แข็งนั้นออกมาวางอยู่ในโบสถ์ ให้ญาติๆผู้ตายมาไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย  ก่อนที่จะให้บาทหลวงนำศพนั้นไปหย่อนในหลุมที่ขุดจัดเตรียมไว้และวางช่อดอกไม้ลงในโรงศพก่อนที่จะถูกฝังลงดิน
       และนี่เองก็เป็นเหตุให้ผมและเพื่อนๆที่อยู่ในวัยคะนองนึกอยากลองท้าทายกับสิ่งที่วิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้  ผมกับเพื่อนห้าคนขับรถมาที่สุสานแห่งนี้ในตอนดึก  ในระหว่างเดินทางที่ขับมาเราก็พูดท้าทายกันเองในรถ
     " เดี๋ยวก็รู้ อเมกาจะมีผีรึไม่" 
     " มีกูก็จะเอาไม้กางเขนนี่ชี้ใส่ให้ดู" ระหว่างที่พวกผมท้าทายกันเองอยู่ในรถที่ขับเคลื่อนนั้น ที่ปัดน้ำฝนข้างหน้าก็สะบัดขึ้นมาทีนึง
     "เฮ้ย พวกมึงไม่ต้องเลย กูรู้มึงแกล้ง" เพื่อนคนนึงสวนขึ้น
     "กูเปล่านะเว้ย มันขึ้นมาเอง" เพื่อนที่ขับรถรีบแย้งทันที ผมมองดูหน้าของเขาผมคิดในใจว่ามันต้องโกหกแน่ๆ เพราะมันคงอยากที่จะสร้างบรรยากาศให้ดูน่ากลัวยิ่งขึ้น  ก็พอดีกับที่เรามาถึงที่สุสานทางด้านนอก พวกเราจอดรถไว้ข้างทางแล้วก็แอบปีนรั้วกันเข้าไปข้างใน ซึ่งขณะนั้นมีเพียงไฟริบหรี่อยู่ไกลๆแต่ก็พอที่จะเห็นทางเดินได้ลางๆ  
      "มึงตามกูมาเลย  เดี๋ยวกูจะอัดผีฝรั่งให้มึงดู" แกนนำของผมทำเก่งกล้ากว่าใครเดินนำเพื่อนดุ่ยๆเข้าไปในสุสาน  ตัวผมเองเดินตามไปเริ่มมองไปรอบๆตัวซึ่งจะเห็นอะไรๆเป็นตะคุ่มๆไปหมด อากาศก็แสนจะเย็นเฉียบ ลมที่พัดเย็นๆเล่นเอาผมเสียวสันหลังพอควร ขณะนั้นเองที่แกนนำของผมหยุดชะงักและเพ่งตามองไปที่ใต้ต้นไม้ต้นนึง
       "เฮ้ยพวกมึงเห็นอะไรนั่นมั้ยวะ"มันหยีตาพยายามมองไปที่ใต้ต้นไม้ต้นนั้น สิ่งที่ผมเห็นคือกองดำๆลางๆอะไรสักอย่างนึง ขนาดเป็นกลองพุ่มๆซึ่งใหญ่พอควร
       "อะไรวะนั่น" เพื่อนอีกคนช่วยกันพินิจมอง 
       "กูเห็นมันขยับด้วยนะ" เพื่อนคนนึงเสริม
       " ไอ้บ้า ลมหรือเปล่าวะ กูดูมันขาวๆนะเว้ย" แกนนำของผมออกความเห็น
         ในระหว่างที่พวกเราทั้งหกเพ่งมองไปที่สิ่งนั้น ทันใดนั้นสิ่งที่กองพุ่มๆก็ผงาดขึ้นเป็นรูปร่างคนขึ้นมาในเงามืดนั้น  ไม่ทันทีใครจะตกใจเพราะแกนนำของผมมันร้อง "เฮ้ย!"อย่างตกใจแล้วมันก็หันหลังกลับวิ่งอย่างสุดเร็วออกตัวไปก่อนที่ผมเพื่อนๆรีบโกยเท้าตามแทบไม่ทัน ระหว่างที่ผมวิ่งซอยตามมันมาผมก็ถามมัน
         "มึงวิ่งหนีอะไรวะ"
          "ก็มึงไม่เห็นเหรอว่ามันลุกขึ้นมาแล้ว "
          "อะไรของมึงวะ"
          "ก็ไอ้ศพขาวๆนั่นสิวะ"มันหอบอยู่ในลำคอก่อนจะหยุดพักหายใจที่ริมรั้วที่ปีนตามๆกันออกมา
          " ไอ้เวร ไหนบอกจะอัดผีฝรั่งให้กูดู วิ่งโกยซะกูตามไม่ทัน"
           " ลองซะเจอดีเลยมั้ยมึง" เพื่อนอีกคนว่าแล้วพวกเราก็รีบขับรถออกจากสุสานอย่างเร็วโดยไม่พยายามเหลียวหลังมองกระจกด้านหลังอีกเลย
           เวลาผ่านไปผมโตขึ้นและก็บังเอิญขับรถผ่านสุสานแห่งนั้นเข้า  ผมมองเข้าไปข้างในซึ่งตอนนั้นเป็นเวลากลางวัน เห็นคนประปรายเป็นหย่อมๆที่มาเคารพหลุมศพต่างๆ พอดีกับที่ผมเหลือบไปเห็นพวกขอทานที่ไม่มีที่นอนแต่มาแอบนอนตามต้นไม้ต่างๆแล้วก็นึกถึงภาพในวันเก่าและอดที่จะขำในใจว่า
          "อ๋อ ไอ้ที่พวกเราวิ่งหนีกันวันนั้น มันคนเป็นคนพวกนี้ละมั้งที่มาอาศัยสถานที่แห่งนี้เป็นที่พักพิง เรารึอุตส่าห์วิ่งกันซะป่าราบแทบตาย"
                                                    จบ				
comments powered by Disqus
  • กีกี้

    30 มิถุนายน 2550 19:15 น. - comment id 96765

    ปลอบใจตัวเองรึป่าว? ..
    
    ว่าที่เห็นนั่นเป็นคนจรจัดที่แอบไปนอนอยู่ที่นั่น 26.gif
    
    อาจเป็นซอมบี้จริงๆ ก็ได้นะ
  • มณีจันทร์

    15 กรกฎาคม 2550 15:15 น. - comment id 96912

    อืมนึกว่าผี
    แต่จริงๆก็ผีละมั้ง
    คิดเข้าข้างตัวเองหรือเปล่านะ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน