ดั่งม่านหมอกกั้น ตอนที่3
สุวรรณโสภิต
ตอนที่ 3
ภายในงานศพบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าแต่ก็จัดได้สมเกียรติของผู้ตายที่มีตำแหน่งเป็นคุณหญิง มีคนนับถือมากมาย กรรณติมาสยังรับไม่ได้กับการด่วนจากไปของมารดา หล่อนนั่งจุดทูปส่งให้แขกที่มาเครพศพ ใบหน้าเปลอะไปด้วยคราบน้ำตา จันจิราเข้ามาเครพศพหญิงที่มีอายุจะอ่อนกว่าแม่ของหล่อนเพียงไม่กี่ปีเธอปักทูปลงบนกระถาง แล้วหันมาแสดงความเสียใจกับกรรณติมาส อาเสียใจด้วยนะ
หญิงสาวไหว้ขอบคุณหล่อนพอจะรู้จักผู้ที่อยู่ตรงหน้าบ้างแต่ก็ไม่สนิทรู้แต่เพียงว่าเธอเป็นหุ้นส่วนดูแลไร่กาแฟของบิดา และเคยมาที่บ้านไม่กี่ครั้งแต่มารดาก็บอกว่าเธอเป็นคนดี
เชิญคุณอาไปนั่งก่อนค่ะเดี่ยวสักครู่พระก็มาแล้ว
หล่อนพูดแล้วเดินนำไปที่ที่นั้งแข ที่พ่อของหล่อนนั่งเหม่ออยู่สีหน้าหม่นหมองไม่แพ้กัน คุณจันจิราอ้อมไปนั่งข้างหลังถัดจากแถวหน้าไปสองแถว โดยที่ไม่ได้หันมองหรือแสดงความเสียใจกับหุ้นส่วนที่นั่งอยู่ข้างหน้า เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาของ คุณกิติภา ที่มองดูด้วยความไม่พอใจ ทำท่าจะลุกออกไปแต่มีมือๆหนึ่งดึงรั้งไว้ คุณจะไปไหนคุณหญิง ไม่เห็นแก่หลานก็เห็นแก่หน้าพี่คุณที่นอนอยู่ข้างหน้าบ้าง
คุณพร้อมพงษ์พูดขึ้นด้วยรู้ใจภรรยาดีว่าจะทำอะไร ความดีที่พี่คุณสะสมมานานจะหมดก็เพราะคุณทำอะไรไม่คิด
แต่ที่พี่สาวของฉันต้องตายก็เพราะมันเพราะมันคนเดียว มันยังมีหน้ามาอีก สีหน้าของคุณกิติภาที่แสดงออกมาทำให้สามีไม่สบายใจมากพอเขาปลอยแขนภรรยาก็รีบลุกออกไปทันทีโดยที่คุณพร้อมพงษ์คว้าไว้ไม่ทันเธอเดินเข้าไปดึงแขนคุณจันจิราเดินออกไปนอกศาลาบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย คุณพร้อมพงษ์รีบลุกตามไปอย่างน้อยก็เบ่าใจบ้างที่ภรรยายังรักษาหน้าครอบครัวของพี่สาวแท้ๆของตนเอง ที่ไม่ทำการแอะอะต่อหน้าแขก
มีอะไรหรือคะ คุณจันจิราถามด้วยความตกใจแต่กังรักษาสติไว้เพราะรู้แล้วว่าเรื่องอะไร
ยังจะมีหน้ามาถามอีกเธอนี้มันหน้าด้านจริงทำเขาตายแล้วยังจะมีหน้ามางานเขาอีก รึจะมาสมน้ำหน้าที่ตัวเองจะได้เสวยสุขบนสมบัติที่พี่ฉันสร้างไว้
คุณหญิง ใจเย็นๆพูดกันดีๆก็ได้ คุรพร้อมพงษ์ปราม
ฉันไม่ได้มีความสุขเลยที่เป็นแบบนี้กลับเสียใจด้วยซ้ำ คุณจันจิราร้องไห้ออกมาอย่าอัดอั้น
คนอย่างเธอมันก็มารยา เสียใจจริงแล้วทำไมเธอต้องทำด้วย พี่ฉันไว้ใจเธอมาก คุณกิติภามองผูที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเหยียดหยาม แต่เธอก็ทำกับเขาได้หน้าไม่อาย
กรรณติมาส มองมาทางบุคคลทั้งสามที่สนทนากันเห็นว่าไม่ได้ทักทายกันตามปกติธรรมดาหล่อนจึงรีบเดินเข้ามา ภานุวัตรเห็นน้องออกไปก็คิดว่ามีเรื่องแน่จึงบออกให้รตีช่วยดูแลแขกส่วนวินวรรณออกไปดูกรรณติมาส ตัวเขาจะไปตามบิดา
มีอะไรกันหรือคะคุณน้า คุณอา กรรณติมาส ถามขึ้น คุณจันจิรารีบเช็ดน้ำตาหลบสายตาของหญิงสาวที่มองมาด้วยสายตาจับผิด
มาก็ดีแล้วยายมาสแกจะได้รู้ว่าที่แม่แกตายเพราะอะไร คุณกิติภามองคุณจันจิราด้วยสายตาที่เหนือกว่า
คุณหญิงอย่าให้อะไรๆมันเลวร้ายไปกว่านี้เลยเรื่องมันแล้วไปแล้วแก่ไข้อะไรไม่ได้แล้วคุณอย่าเรื้อฟื้นเลยดีกว่า คุณพร้อมพงษ์ปรามภรรยาแต่ก็ไม่เป็นผล กรรณติมาสมองดูน้าด้วยสีหน้าที่ไม่ดีนัก
แกรู้ไวเลยนะยายมาสว่าคนที่แก่ ยกมือไหว้เมื่อครู่นี้ มันเป็นเมียน้อยพ่อแกเป็นคนที่ทำให้แม่แกเสียใจจนตาย หญิงสาวมองหน้าคนทั้งสามที่ละคนอย่างจะหาคำตอบจนหันไปเห็นบิดาที่เดินเข้ามาได้ยินพอดีมองหน้าบิดาเหมือนจะหาคำตอบ คุณวิศนุนิ่งเงียบหน้าเสียไม่คิดว่าน้องของภรรยาจะเป็นคนบอกหลานเองไม่ใช่ตัวเขาที่จะอธิบายภายหลังจึงยังหาคำอธิบายไม่ได้
คุณพ่อตอบสิคะว่าที่คุณน้าพูดมาไม่จริง กรรณติมาสเริ่มใจไม่ดีเมื่อเห็นท่าทางของบิดา ไม่จริงใช่ไหมคะคุณพ่อ
บอกลูกสาวไปสิคะว่ามันเป็นเรื่องจริง แล้วคุณยังทำให้พี่สาวฉันช๊อคตายอีก
ก็ยังไม่มีคำพูดออกจากปากบิดาอยู่ดีแต่ถึงอย่างนั้นเวลานี้กรรณติมาสก็พอจะเดาออกแล้วว่ามันเป็นเรื่องจริง น้ำตาที่คลออยู่ในตาไหลพรากเสียใจที่สุด มองสบตาบิดาอย่างผิดหวัง แล้วฉุดมือวินวรรณที่ยืนอึ้งอยู่บออกกับเพื่อนสาวทั้งน้ำตาว่า วิ ฉันอยากกลับบ้าน พร้อมทั้งเดินออกไปเงียบๆ คุณกิติภามองพี่เขยกับคนที่ตนเอกเรียกว่าเมียน้อยด้วยสายตาเหยียดหยามและผู้ชนะก่อนจะพูดนิ่ม ๆทิ้งท้ายว่า
ขอให้มีความสุขนะความสุขที่แย่งมาจากพี่สาวฉันมันอยู่ได้ไม่นาน จำไว้ แล้วหันไปทางหลานชายที่ยืนเงียบอยู่ วันนี้น้ากลับก่อนอยู่ไปก็คงใจไม่เป็นสุขแน่ดูแลน้องด้วยเล่า แล้วดึงแขนสามีเดินออกไปคุณวิศนุหันหลังเดินคอตกเข้าศาลาไปโดยที่ไม่มีคำพูดไดๆกับบุคลที่ยืนอยู่ตรงหน้าในใจคิดแต่ว่าจะอธิบายให้บุตรสาวฟังอย่างไรดี